สีน้ำเงินปกคลุมสภาสูง! 'พล.อ.เกรียงไกร' ลอยลำ นั่งรองประธานวุฒิฯ คนที่ 1

23 ก.ค.2567 - ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี สว.อาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมการเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1
 
เวลา 16.03 น. ภายหลังการนับคะแนนใหม่ในการเลือกรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 เสร็จสิ้น ผลปรากฏว่า พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ ได้ 150 คะแนน ขณะที่ นายนพดล อินนา ได้ 27 คะแนน ด้าน รศ.แล ดิลก วิทยรัตน์ ได้ 15 คะแนน ส่วน ดร.ปฏิมา จีระแพทย์ ได้ 5 คะแนน บัตรเสีย 2 คะแนน งดออกเสียง 1 คะแนน 
 
ทั้งนี้ จากเดิม รศ.แล ได้ 16 คะแนน แต่เมื่อนับใหม่ได้ 15 คะแนน
 
สุดท้าย พล.ต.ท.ยุทธนา กล่าวว่า ผลการนับคะแนน ปรากฏว่า เป็นผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด และมีคะแนนไม่น้อย กว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม ได้รับคะแนน 150 คะแนน พร้อมชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่รับบัตรที่ลงคะแนน 200 ใบ บัตรเสีย 2 ใบ และงดออกเสียง 1 ใบ ซึ่งเมื่อคณะกรรมนับคะแนนถึงสองครั้ง ก็ออกมาอย่างที่เห็น ผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ได้แก่ พลเอกเกรียงไกร สำหรับบัตรลงคะแนนลับ ตนจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการทำลายตามระเบียบต่อไป และมีการพักการประชุม 5 นาที ก่อนที่จะมีการเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ต่อไป
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 13.40 น. ในการขานคะแนนให้ประชุมทราบ ผลปรากฎว่า พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ สว. ได้ 150 คะแนน ด้าน นายนพดล อินนา สว. ได้ 27 คะแนน ขณะที่ รศ.แล ดิลกวิทยรัตน์ ได้ 16 คะแนน ส่วน ดร.ปฏิมา จีระแพทย์ สว. ได้ 5 คะแนน บัตรเสีย 2 งดออกเสียง 0
 
แต่เวลา 15.20 น. มีความสับสนระหว่างการขานและการกดคะแนนเพื่อแสดงผลบนจอ ในช่วงสุดท้าย ทำให้ พล.ต.ท.ยุทธนา แจ้งต่อที่ประชุมว่า อาจจะต้องมีการนับคะแนนใหม่ เนื่องจากมีบัตรเกินมา
 
ต่อมา รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส ขึ้นถามว่า “ไม่ทราบว่าตัวเลขบนกระดาน 200 พอดี ไม่เกิน แล้วนับอะไรกันอยู่”พล.ต.ท.ยุทธนา ชี้แจงว่า “นับบัตรเสีย 2 ใบ แล้วมีงดออกเสียงอีกหนึ่งใบเลยเกิน” ทำให้มีสมาชิกหนึ่งคนถามว่า “แล้วบัตรครบ 200 ใบหรือเกิน 200 ใบ” พล.ต.ท.ยุทธนา ชี้แจงอีกครั้งว่า “บัตรครบ แต่ขานคะแนนไม่ตรงกัน จึงต้องขออนุญาตอ่านคะแนนใหม่”
 
รศ.ดร.นันทนา จึงลุกขึ้นหารือว่า คะแนนตรงนี้ เป็นเรื่องของบัตรเสียหรืองดออกเสียง ซึ่งคาบเกี่ยวประมาณหนึ่งคะแนน แต่หนึ่งคะแนนที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ส่งผลให้ผู้ได้รับเลือกในตำแหน่งรองอันดับหนึ่งเปลี่ยนแปลง จึงเห็นว่าสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาควรจะย้อนเทปดูว่า มีการขานงดออกเสียงหรือไม่ เนื่องจากตนไม่ได้ยินคำนี้ และถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ไม่ได้ส่งผลต่อผู้ได้รับเลือกใดๆ แต่หากมีการขานกันใหม่จะใช้เวลายาวนานมาก ขณะที่ประหยัดเวลาในการแสดงวิสัยทัศน์เพียงคนละ 5 นาที แต่กลับนับคะแนนเป็นชั่วโมง
 
พล.ต.ท.ยุทธนา เห็นด้วยกับ รศ.ดร.นันทนาว่า ผลไม่เปลี่ยนแปลง แต่หลักฐานเปลี่ยนแปลง เพราะต้องมีการจดบันทึก และทำเป็นรายงาน หากไม่ตรงก็จะเสียหาย จึงขอให้เจ้าหน้าที่เสียเวลานับใหม่ เพื่อให้มีความถูกต้อง 100%
 
จากนั้นมีการอภิปรายถึงประเด็นดังกล่าวในวุฒิสภา ก่อนที่ พล.ต.ท.ยุทธนา จะวินิจฉัยว่า จะต้องนับคะแนนใหม่ทั้งหมด โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการนับคะแนนประมาณ 1 ชั่วโมง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฉายาสภา 'เหลี่ยม(จน)ชิน' 'บิ๊กป้อม-ธิษะณา' คว้าดาวดับคู่

สื่อสภาตั้งฉายาสภา 'เหลี่ยม(จน)ชิน' – 'เนวิ(น)เกเตอร์' สภาสูง 'วันนอร์' รูทีนตีนตุ๊กแก – ประธานวุฒิฯ 'ล็อกมง' – ผู้นำฝ่ายค้านฯ 'เท้งเต้ง' 'บิ๊กป้อม-ธิษะณา' คว้าคู่ 'ดาวดับ' ยกขันหมาก 'พท.-ปชป.' เหตุการณ์แห่งปี

สภาสูง ยั๊วะ รัฐบาล ข้ามหัว เทตอบ 5 กระทู้ ‘ยุคล’ ตั้งฉายา ‘นายกฯนินจา’ หนีสภา

‘สภาสูง’ ยั๊วะ รบ.ข้ามหัว เทตอบ 5กระทู้ ‘ยุคล’ ตั้งฉายา ‘นายกฯ นินจา’ หนีสภา ‘หมอเปรม’ อาลัย ‘แพทองโพย’ ไร้รับผิดชอบ แขวะใส่ชุดนอนตรวจทหาร หิ้วผัวใต้ออกงาน

ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัด 'ประชามติชั้นเดียว' แค่ยกแรก 'แก้รธน.ทั้งฉบับ' เจอด่านหิน-นโยบายขายฝัน!

“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน ชี้ กลไกแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับผ่านด่านหินยาก แม้เพื่อไทยใช้เทคนิคช่องทางพ้น 180 วัน ผ่านร่าง พรบ.ประชามติ เป็นเพียงนโยบายในฝัน  

มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ตีตก 7 คำร้อง ขอให้วินิจฉัยเลือก สว. ไม่ชอบ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับ 7 คำร้องที่มีการร้องขอให้วินิจฉัยเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ประกอบด้วยคำร้องของนายสมบูรณ์ ทองบุราณ,นายวัฒนา ชมเชย ,ว่าที่ร.ต.วิชชุกร คำจันทร์ นายจิรัฎฐ์ แจ่มสว่าง,นายปรีชา เดชาเลิศ,นางฤติมา กันใจมา,

ระอุ สภาสูงย้อนเกล็ดเพื่อไทย ประธานกมธ.ทหารฯ ขวาง ครม.ทำโผทหาร

ระอุ สภาสูงตั้งป้อม สกัดเพื่อไทย ยึดอำนาจกองทัพ ประธานกมธ.ทหารฯ มาเอง ขวางครม.ทำโผทหาร เปิดเหตุผล “หัวเขียง-พท.”เสนอเพิ่มอำนาจครม.ตั้งบิ๊กท็อปบูต อัดแรง ระบบปัจจุบันเปิดช่องผบ.เหล่าทัพ วางทายาท-พวกพ้องให้สืบทอดอำนาจ