23 ก.ค. 2567 - เมื่อเวลา 14.15 น. ที่อาคารรัชดาวัน ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ นายวัน อยู่บำรุง สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แถลงเปิดใจถึงการลาออกจากพรรคเพื่อไทย การย้ายมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ว่า มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นอกจากข่าวลาออกจากกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี มีเพื่อนๆ หลายท่านติดต่อมาชวนเข้าพรรคเต็มไปหมด แต่สักพักก็เงียบหายไป ไม่ทราบโดนใครแตะเบรกมา จนกระทั่งที่ตนไปลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ กกต. ก็มีนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ถามว่า มาอยู่กับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่
“ผมถามทันทีว่าลุงป้อมจะรับผมหรอ หลังจากนั้นก็โทรมาหาผม และเรียกให้เข้าไปพูดคุย ซึ่งประโยคแรกที่เข้าไปพบคือ ยินดีต้อนรับเข้ามาทำงานด้วยกัน ผมเองซาบซึ้งและประทับใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะผมเหมือนหนีร้อนมาพึ่งเย็น ลุงป้อมใจใหญ่ ใจกว้าง ใจถึง พึ่งได้จริง ๆ และขอบคุณหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่อวยพรให้ผมโชคดี ประสบความสำเร็จ”
นายวัน กล่าวว่า ในวันที่ 30 มิ.ย. ที่มีการนับคะแนนเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมธานี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินทางถึงบ้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัคร นายกอบจ.ปทุมธานี ก่อนตนเสียอีก ซึ่งเป็นช่วงเวลาปิดหีบแล้ว ดังนั้น ฝากไปถึงคณะกรรมการจริยธรรมของพรรคเพื่อไทยว่าจะดำเนินการอย่างไร และทุกวันนี้ยังไม่มีใครเรียก ร.ต.อ.เฉลิมไปตำหนิต่อว่าอะไรเหมือนที่ตนโดนเลย
นายวัน กล่าวต่อว่า กรณีอย่างนี้พรรคเพื่อไทย คณะกรรมการจริยธรรมควรขับ ร.ต.อ.เฉลิมออกจากพรรค เพราะถ้า ร.ต.อ.เฉลิมทำได้ เดี๋ยว สส.คนอื่นของพรรคเพื่อไทยก็ทำได้ ไม่เช่นนั้นจะปกครองพรรคอย่างไร ท่านต้องขับ ร.ต.อ.เฉลิมออกจากพรรคเพื่อไทย ทำไมไม่มีผู้ใหญ่คนไหนเรียก ร.ต.อ.เฉลิมไปพูดคุย ทั้งที่ไปบ้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์เหมือนกันว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
นายวัน กล่าวว่า ขอบคุณผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทยที่มีจิตใจเมตตา เรื่องของ ร.ต.อ.เฉลิมก็ในส่วนของ ร.ต.อ.เฉลิม ของตนก็ส่วนของตน ของนายอาชวิน อยู่บำรุง ที่ปรึกษา รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ก็เป็นเรื่องของนายอาชวิน นายเนาวรัตน์ อยู่บำรุง สก.หนองแขม ก็ยังอยู่พรรคเพื่อไทย แต่อนาคตเราก็ไม่ทราบ เมื่อเช้าวันเดียวกัน (23 ก.ค.) เห็นข่าวนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่าการที่ตนมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐนั้น ให้ประชาชนพิจารณา ปกตินายภูมิธรรมไม่เคยพูดแบบนี้ ไม่ทราบใครสั่งมาให้พูดหรือไม่ รวมถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าไม่ทราบเรื่องที่ตนจะมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นเรื่อง พล.อ.ประวิตรนั้น ตนกับ ร.อ.ธรรมนัสรู้จักกันมาตั้งแต่ปี 40 การที่ท่านบอกไม่ทราบเพราะอาจจะงานยุ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทย จะเผาผีกันหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า อันนี้ก็แรงเกินไป ทุกคนต้องมีแนวทางทางการเมือง ถึงแม้จะอยู่ต่างพรรค ตอนเป็น สส.ตนก็มีเพื่อนทุกพรรค
เมื่อถามว่า การที่ออกมาแล้ว และพูดเช่นนี้จงใจสร้างความเสียหายให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า นี่ตนพูดว่าร้ายพรรคเพื่อไทยตรงไหน ตนเอาความจริงมาพูด ไม่เผาบ้านเก่าหรอก อยู่มาตั้ง 17 ปี แต่บางเรื่องข้อเท็จจริงมันต้องเล่าสู่กันฟัง
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ร.ต.อ.เฉลิม และพล.อ.ประวิตรได้พูดคุยกันบ้างหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า ตนไปพบ พล.อ.ประวิตรมาแล้วรอบหนึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 19 ก.ค. พล.อ.ประวิตรก็ติดต่อผ่านนายสามารถให้เชิญ ร.ต.อ.เฉลิมและตนไปรับประทานข้าว ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม และพล.อ.ประวิตรพูดคุยใช้เวลา 2 ชั่วโมง คุยกันออกรสชาติ ร.ต.อ.เฉลิม และพล.อ.ประวิตรรู้จักกันตั้งแต่ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นสารวัตรกองปราบ พล.อ.ประวิตรขณะนั้นมียศเป็น พ.ต. หรือ พ.ท. ตนไม่แน่ใจ แต่รายละเอียดอื่น ๆ ตนไม่ทราบ เพราะท่านคุยกันกระซิบกระซาบ กระหนุงกระหนิง พล.อ.ประวิตรท่านเมตตาอ้าแขนรับตนคนแรก
ถามอีกว่า มีโอกาสที่ ร.ต.อ.เฉลิมจะมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า “ผมตอบแทนคุณพ่อเลยครับ ถ้าพรรคเพื่อไทยขับ ร.ต.อ.เฉลิม ร.ต.อ.เฉลิมเข้าพรรคพลังประชารัฐแน่นอน ก็มันผิดระเบียบหรือไม่ ก็อย่างผมยังบอกว่าผิด ทั้งที่ผมไม่ได้เป็น สส.แต่มีตำแหน่งทางการเมือง วันนี้คุณพ่อก็อยู่ พรรคเพื่อไทยก็รู้ ก็รออยู่ ไม่เห็นเรียกคุณพ่อผมไปกล่าวว่าตักเตือนหรืออะไรสักอย่าง”
นายวัน กล่าวด้วยว่า ส่วนอนาคตทางการเมืองของตน มันไม่ได้มีแค่ สส. ไม่ต้องเป็น สส.แต่ทำงานอยู่กับพรรคที่มีศักยภาพช่วยเหลือประชาชนได้ ทั้งนี้ พรรคอื่นโดนเตะเบรกเรื่องตน ตนไม่รู้ใครไปแตะเบรก แต่ พล.อ.ประวิตรไม่สน ท่านเมตตาตนเหมือนลูกเหมือนหลาน อยู่กับท่านแล้วอบอุ่น และไม่ทราบว่าทำไมพรรคเพื่อไทยถึงไม่ขับ ร.ต.อ.เฉลิมออกจากพรรค และไม่ทราบว่ามีเหตุจำเป็นอะไรที่พรรคเพื่อไทยต้องรักษา ร.ต.อ.เฉลิมไว้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เคยติดต่อไปที่พรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า มีเพื่อน ๆ ที่เป็นสมาชิกแทบทุกพรรคโทรศัพท์หาตน แต่ไม่มีผู้ใหญ่ของพรรคไหนโทรมา เอาว่ามีการแตะเบรกก็แล้วกัน
ถามว่า ฝืนใจหรือไม่ที่ต้องมาพรรคพลังประชารัฐ นายวัน กล่าวว่า “โอ้โห เป็นพรรคแรกที่อ้าแขนรับผม พล.อ.ประวิตรบอกยินดีต้อนรับ มาอยู่กับผม มาทำงานด้วยกัน ผมตัดสินใจอยู่กับลุงป้อมทันที”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าคิดว่าจะสร้างกระแสจนมีคะแนนนิยมได้เป็น สส.ในอนาคตให้พรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ นายวัน กล่าวว่า การเมืองเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่แน่ไม่นอน โอกาสอะไรใหม่ ๆ ที่ดีก็สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะชิงพื้นที่บางบอนกลับมาได้ คอยจับตาดูให้ดีเดือน ส.ค. ก.ย. จะมีเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ รอติดตาม
เมื่อถามว่า การมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ มีความรู้สึกหรือไม่ว่า พล.อ.ประวิตร กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาจจะไม่ลงรอยกัน นายวัน กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าท่านไม่ลงรอยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน และการที่ตนมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐก็ไม่เกี่ยวกับการแก้เกมอะไรทั้งสิ้น ตนอยากมีพรรคสังกัดไว ๆ จะได้ทำงานอะไรต่ออะไรได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลชินวัตรกับอยู่บำรุง ถือว่าขาดกันแล้วหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า ส่วนตัวก็รักเคารพคุณอาทักษิณอยู่เสมอ ตนเรียกคุณอาตลอด เวลาพบเจอไม่ว่าตั้งแต่สมัยไหนจนกระทั่งล่าสุดก็เรียกคุณอา ยืนยันว่ายังรักเคารพท่าน แต่ทางการเมืองก็ว่ากันไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง
จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน
ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 48: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)
ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476
'ชูศักดิ์' บอกรู้ตั้งแต่เห็นคำร้อง 'ธีรยุทธ' ไปไม่ได้ เหตุไม่เข้าเกณฑ์ล้มล้างปกครอง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณา
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง