ชงข้อเสนอสกัด 'คอร์รัปชัน' ในการจัดซื้อฯ ของ กทม.

6 ก.ค.2567 - ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ข้อเสนอเพื่อป้องกันคอร์รัปชันในการจัดซื้อฯ ของ กทม.

ที่ผ่านมา กทม. เต็มไปด้วยคอร์รัปชันแบบแบ่งปันผลประโยชน์ ระหว่างนักการเมืองกับข้าราชการ ส่วนกลางกับเขตพื้นที่ ผู้บริหาร กทม. กับบางคนในสภา กทม. เพราะที่นี่มีงบประมาณ 9 หมื่นล้านบาทต่อปี มีการลงทุนหรือร่วมลงทุนกับเอกชนผ่านการให้เช่าให้สัมปทานมูลค่านับหมื่นล้านบาทต่อปี มีอำนาจให้คุณให้โทษกับประชาชนและนักธุรกิจเล็กใหญ่ได้มากมาย

การป้องกันคอร์รัปชันเป็นเรื่องยาก การไล่ออกหรือโยกย้ายใครสักคนหรือกลุ่มหนึ่งก็ช่วยไม่ได้ เพราะคนใหม่ที่ถูกย้ายเข้ามาก็รู้เป็นอย่างดีว่าที่ผ่านมาตรงนั้นเขามีเทคนิควิธีโกงกินกันอย่างไร หากเขาไม่โกงคนรอบข้างก็โกงหรืออย่างน้อยตัวเขาเองอาจทำงานไม่ได้

การป้องกัน “คอร์รัปชันในการจัดซื้อจัดจ้าง” ใน กทม. บริษัทและนิติบุคคลในสังกัด จึงต้องใช้นวัตกรรมที่ทำให้ “ระบบและสภาพแวดล้อม” เปลี่ยนแปลง ด้วยการเปิดเผยอย่างโปร่งใส ยกระดับการตรวจสอบ ความรับผิดชอบร่วมกัน และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ดังนี้

1. ภายหลังชนะการเลือกตั้ง ท่านผู้ว่า กทม. และคณะประกาศแนวทางป้องกันคอร์รัปชันไว้น่าสนใจเช่น พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ประชาชนใช้บริการและเข้าถึงข้อมูล กทม. ได้ง่าย สะสางโครงสร้างงบประมาณด้วยนโยบาย “Zero – Based Budgeting” ดึงกูรูจากภายนอกมาช่วยงาน ฯลฯ

ดังนั้นท่านควรเร่งนโยบายเหล่าให้เป็นจริง แต่หากยังไม่พร้อม ขอเสนอให้นำระบบ ACT Ai ขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ มาใช้ เพราะเป็นเทคโนโลยีเพื่อสาธารณะประโยชน์ ทำงานไวและไม่โกหก

1.1 กำหนดให้เป็นเครื่องมือในการสืบค้นข้อมูลเพื่อการเขียนทีโออาร์เช่น คุณสมบัติของสินค้า ราคากลางและราคาที่ซื้อขายจริง เงื่อนไขบริการก่อนและหลังการขาย รายชื่อเอกชนผู้เคยขายและร่วมประมูลงานประเภทนั้น ฯลฯ และทุกครั้งผู้ปฏิบัติต้องแสดงหลักฐานการใช้ข้อมูลจาก ACT Ai

1.2 ใช้เป็นเครื่องมือเฝ้าติดตามการจัดซื้อฯ ว่ามีเงื่อนไขหรือพฤติกรรมที่ส่อฮั้วประมูลหรือไม่ และหากในช่วงครึ่งปีหรือหนึ่งปี การจัดซื้อของส่วนงานใดถูกระบบแจ้งเตือนบ่อยครั้งให้เพ่งเล็งว่า ผู้นำส่วนงานนั้นด้อยประสิทธิภาพแล้วตั้งกรรมการสอบสวนความผิด

1.3 พัฒนาต่อยอด ACT Ai ให้ สตง. เชื่อมโยงเข้าตรวจสอบข้อมูลแบบออนไลน์ได้

2. เปิดเผยงบประมาณประจำปีและรายงานการใช้จ่ายงบประมาณของ กทม. รวมถึงสำนักและเขตต่างๆ ให้ครบถ้วน ทันการณ์ โดยถือเป็นหน้าที่ของผู้บริหารทุกคนทุกระดับต้องรับผิดชอบ

3. เมื่อมีการโยกหรือแปรงบประมาณ การลงทุนในโครงการที่ไม่ใช่แผนงานปรกติ ต้องประกาศต่อประชาชนอย่างแจ้งชัดโดยหน่วยงานส่วนกลางและสำนักงานเขต

4. เปิดเผยข้อมูลและเอกสารการจัดซื้อฯ ในเว็บไซต์ของ กทม. ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งกว่าที่เปิดเผยในเว็บไซต์ของกรมบัญชีกลางแล้ว เช่น มาตรฐานโครงการ CoST หากกรณีใดมีเอกสารจำนวนมากเกินก็ให้คัดเลือกที่จำเป็น พร้อมรับฟังความเห็นสื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจว่า ต้องการทราบข้อมูลอะไรเพิ่มเติมจากที่เปิดเผยแล้ว

5. ยกระดับหน่วยงานตรวจสอบภายในของ กทม. ให้มีอิสระ เป็นมืออาชีพมากขึ้น

6. ใช้มาตรการทางวินัยและปกครอง “มาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบราชการ” ตามมติ ครม. เมื่อ 27 มีนาคม 2561 และ 28 มกราคม 2563 เพื่อให้การตรวจสอบลงโทษเป็นไปอย่างรวดเร็ว

7. ฟังความคิดเห็นประชาชนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้บริการนั้นๆ ในทุกการลงทุน

8. การทำสัญญาความลับใดๆ กับเอกชน เป็นเรื่องต้องห้าม หากจำเป็นต้องพิจารณาเข้มงวดสูงสุดและกำหนดความรับผิดของบุคคลที่เกี่ยวข้องหากเกิดความเสียหาย

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ พร้อมร่วมมือกับทุกหน่วยงานรัฐ ในการอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับข้าราชการได้เรียนรู้เทคนิคการใช้ ACT Ai จนสามารถใช้งานและต่อยอดเทคโนโลยีได้อย่างคล่องตัว

วันนี้ท่านผู้ว่าชัชชาติต้องรีบรายงานให้คน กทม. ทราบคือ ความคืบหน้าในการสอบสวนการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายและการจัดซื้อทุ่มลอยน้ำ รวมถึงโครงการเช่ารถอีวีเก็บขยะที่สังคมกำลังจับตา

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประกาศลดระดับสาธารณภัย 'แผ่นดินไหว' เหลือระดับ 2 ให้จังหวัดเร่งฟื้นฟูเยียวยา

กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ประกาศลดระดับการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ (ระดับ 3) เป็นการจัดการสาธารณภัยขนาดกลาง (ระดับ 2)

สรุปเหตุแผ่นดินไหวล่าสุด พบผู้เสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บ 33 ราย ยังสูญหายอีก 78 ราย

สรุปสถานการณ์แผ่นดินไหวในพื้นที่กรุงเทพฯ ล่าสุดเวลา 16.30 น. พบ ผู้เสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บ 33 ราย และยังสูญหายอีก 78 ราย

ส่งวิศวกร 130 คน ตรวจสอบอาคาร 700 เคส เร่งช่วยเหลือผู้ติดในตึกถล่ม

ผู้ว่าฯชัชชาติ ลั่นกรุงเทพฯ พร้อมปฏิบัติภารกิจเร่งด่วน หลังแผ่นดินไหว ส่งวิศวกรอาสา 130 คนตรวจสอบอาคารที่ได้รับผลกระทบกว่า 700 เคส และให้รอฟังความปลอดภัยก่อนเปิดอาคาร ด้านการคมนาคมยังดำเนินการตามปกติ ขอประชาชนให้ตั้งสติและไม่ตื่นตระหนก

กทม.-โยธาฯ สั่งปิดตึก 'ทศมินทราธิราช' เร่งตรวจสอบอีก 700 เคส หลังแผ่นดินไหว

กรุงเทพฯ-กรมโยธาธิการและผังเมืองเตรียมพร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารในกรุงเทพฯ หลังเหตุแผ่นดินไหว สั่งปิดอาคารทศมินทราธิราช โรงพยาบาลราชวิถี เพื่อความปลอดภัย พร้อมเร่งตรวจสอบกว่า 700 เคสจาก Traffy Fondue วันนี้