กกต. สารภาพ! จับโกงเลือก สว. ไม่ง่าย คนทำมีทั้งอำนาจ-เงิน-ความรู้

‘เลขาฯ กกต.’ เผยพบร้องเรียนเลือก สว. รวม 333 เรื่อง รับจับคนโกงไม่ง่าย เหตุมีทั้งอำนาจ-เงิน-ความรู้ ชี้ต้องให้ความเป็นธรรม 2 ฝ่าย กำชับเจ้าหน้าที่คุมเลือกระดับประเทศ อย่าปล่อยประท้วงทำเสียเวลา

24 มิ.ย. 2567 – ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ เมื่อเวลา 10.00 น. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดประชุมอบรมคณะกรรมการประจำสถานที่เลือก (กปล.) สว.ระดับประเทศ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยประจำสถานที่คัดเลือกสว. และผู้ช่วยเหลือการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการเลือกระดับประเทศ ในการปฏิบัติงานการคัดเลือกสว.ระดับประเทศในวันที่ 26 มิ.ย.2567 นี้

โดยนายแสวง กล่าวภายหลังมอบนโยบายว่า เราผ่านมา 2 สนาม ทั้งการเลือกระดับอำเภอ และระดับจังหวัด โดยการเลือกระดับประเทศในวันที่ 26 มิ.ย. กปล. จะใช้ส่วนผสมระหว่างส่วนกลางกับจังหวัด คิดว่าด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาจากการเลือกทั้ง 2 ครั้ง จะทำให้การเลือกในระดับประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คำร้องที่เกี่ยวกับการเลือกในระดับอำเภอวันที่ 9 มิ.ย. และระดับจังหวัดวันที่ 16 มิ.ย. มี 39 เรื่อง ถือว่ามีจำนวนไม่มาก ส่วนในระดับประเทศได้กำชับเจ้าหน้าที่ว่าต้องแม่นในข้อกฎหมาย และต้องบริหารเวลา อย่าให้ช้าหนึ่งกลุ่มแล้วเสียเวลาไปทุกกลุ่ม และให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติต่อผู้สมัครด้วยท่าทีที่เป็นมิตร ส่วนกรณีที่เกิดปัญหาให้มีการชี้แจงสิทธิของผู้สมัครว่าสามารถเขียนคำทักท้วงได้ แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ให้ใช้คำวินิจฉัย และให้สิทธิผู้สมัครในการไปดำเนินการ จะเป็นที่ไหนก็แล้วแต่ที่เขาจะสะดวก

“การเลือกระดับประเทศ กปล. จะต้องบริหารเวลา อย่าให้ผู้สมัครประท้วง ถ้าเกิดปัญหาให้ กปล. ชี้แจง และให้ผู้สมัครที่ไม่เห็นด้วยเขียนแบบฟอร์มทักท้วง อย่าปล่อยให้ต่อล้อต่อเถียงจนให้คนอื่นเสียเวลา ผู้ทักท้วงจะไปใช้สิทธิที่ไหนก็ได้ แต่อย่ามาใช้ในเวทีนี้เพื่อประโยชน์อะไรผมไม่รู้ คุณสามารถรักษาสิทธิของคุณได้ แต่ต้องไม่ทำให้คนอื่นเสียเวลา” นายแสวง ระบุ

เมื่อถามว่า ยังมีข้อกังวลเรื่องการใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการล้มการคัดเลือก สว. หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ไม่ได้กังวล แต่ในฐานะผู้ที่รับผิดชอบกระบวนการ ต้องรักษากระบวนการการเลือก สว. ไว้ นั่นคือการรักษาเป้าหมายให้ได้ สว. ครบ 200 คน ตามระยะเวลาที่กำหนด ถ้ากระบวนการมีปัญหาอาจมีคนนำไปร้องให้การเลือกเป็นโมฆะ จึงต้องพยายามบริหารสถานการณ์ ปิดช่องว่างเหล่านี้ ให้ผู้ปฏิบัติงานรับทราบว่าเรากำลังอยู่ตรงไหนทำหน้าที่อะไร เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสบายใจในการทำงาน

เลขาธิการ กกต. ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่ กกต. พบความเคลื่อนไหวในการทุจริตเลือก สว. 4 รูปแบบ ว่า เป็นเรื่องผิดกฎหมาย เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายอย่างที่เราเคยได้ยิน White Collar Crime หรือ อาชญากรรมคอปกขาว คือผู้กระทำเป็นผู้ที่มีความรู้ มีอำนาจ มีทุน ยิ่งถ้าเป็นการเมืองก็จะมีเครือข่ายมีผู้สนับสนุน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเมืองอยู่แล้ว และเชื่อว่ามีอยู่ทุกประเทศ ซึ่งข้อมูลที่เรารับมามีทั้งเป็นเบาะแส เรื่องเล่า เรื่องคนนำมาร้อง อย่างเรื่องรับจ้าง หรือจ้างคนลงมาสมัคร ให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เป็นความผิดทั้งนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงแรกๆ

ทั้งนี้สำนักงานฯได้ให้ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ชุดสืบสวนสอบสวน ตำรวจที่ทำงานร่วมกันเข้าไปดู แต่เกิดขึ้นใน 2-3 วันนี้ เราก็จะดูว่าจะสามารถป้องกัน ป้องปราม หรือจับกุมได้อย่างไร อย่างกรณีที่มีข่าวมีการเปิดโรงแรมจองห้องพักเพื่อล็อบบี้กันนั้น โรงแรมใกล้สถานที่เลือกมีไม่เยอะ เราก็ตรวจสอบพบว่ามีผู้สมัครมาจองห้อมเต็มหมด เพราะสะดวกต่อการเดินทางในวันที่ 26 มิ.ย. แต่จะมีอะไรมากกว่านั้นหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่สำนักงานฯไปดูแล ทั้งนี้อยากฝากไปยังผู้สมัครว่าท่านจะต้องไปรับผิดชอบประเทศชาติ อยากให้เคารพกฎหมาย

นายแสวง ยังยืนยันว่า การเลือก สว. จะเป็นไปตามไทม์ไลน์ ความผิดที่เกิดขึ้นมีอยู่ 3 กลุ่ม รวม 333 เรื่อง 200 เรื่องเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณสมบัติ และการลงผิดกลุ่ม รู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีสิทธิสมัคร ซึ่งศาลฎีกา และ กกต. ได้วินิจฉัยไปบางส่วนแล้ว กลุ่มที่ 2 การดำเนินการในวันเลือก ซึ่งการเลือกทั้งในระดับอำเภอ และระดับจังหวัด มีอยู่ 39 เรื่อง ซึ่ง กกต.จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกลำดับถัดไป กลุ่มที่ 3 การเลือกที่ไม่สุจริต มีประมาณ 90 เรื่อง ซึ่งต้องใช้เวลา แต่คิดว่าจากจำนวนทั้งหมดยังถือว่าน้อยถ้าเทียบกับจำนวนผู้ที่สมัครทั้งประเทศที่มีกว่า 4 หมื่นคน

ส่วนกรณีมีฝ่ายการเมืองเข้ามาสนับสนุนผู้สมัครในการคัดเลือก สว. นั้น นายแสวง กล่าวว่า ตามกฎหมายให้คนที่เป็น สว. ต้องเป็นกลาง แต่ถ้าพูดกันแบบทั่วไปก็คือการเมือง แต่กฎหมายห้ามนักการเมือง 2 – 3 เรื่อง คือห้ามช่วยให้ได้รับหรือเป็น สว. และผู้สมัครเองก็ต้องไม่ให้ฝ่ายการเมืองช่วยให้ตัวเองได้รับการเลือก ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้ง หรือให้ทรัพย์สิน ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย แต่การเมืองบางที่เป็นเรื่องของการสมยอมสมประโยชน์กัน ทำให้ กกต. ทำงานยากขึ้นในการที่จะเข้าไปจับกุม แต่ก็มีในบางส่วนที่เป็นเรื่องที่ กกต. หาเอง จึงให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพราะเมื่อมีการกล่าวหาว่ามีการให้ทรัพย์สิน แลกตำแหน่ง เช่น มาอยู่ทีมเดียวกัน ถ้าตนได้เป็น สว. ก็จะให้มาเป็นผู้ช่วย หรือนั่งเป็นกรรมาธิการ แต่กฎหมายได้ออกแบบไว้หมดแล้ว ยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อไทม์ไลน์แน่นอน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘แทนคุณ’ ร้อง ‘ปธ.สภาฯ’ สอบสภาทนายความ เหตุมีทนายสร้างความแตกแยก

แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ยื่นหนังสือต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบการทํางานของสภาทนายความฯ

‘ผู้การจ๋อ’ ส่งทนายยื่นหนังสือ ‘ผบ.ตร.’ ยัน ป.ป.ช.ไม่ชี้มูล คดี ‘อัจฉริยะ’ ร้องเรียน

ทนายความของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำมติ ป.ป.ช.ที่ไม่ชี้มูลความผิด กรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องทุกข์กล่าวโทษ

'เอ็ดดี้' ชำแหละ! แผนรัฐบาลคุม 'แบงก์ชาติ' บรรลุ 6 เป้าหลัก

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เอ็ดดี้ อัษฎางค์" ในหัวข้อ "อะไรคือจุดประสงค์ของการแทรกแซงแบงก์ชาติจากฝ่ายการเมือง"

'กูรูใหญ่' แฉเบื้องลึก! ทำไมนักการเมืองยุคนี้ไม่กลัว 'ยึดอำนาจ'

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเมืองไทยกำลังเข้าสู่ทางตัน

ลุ้น! ผลนับคะแนนเลือกตั้ง นายกอบจ.ขอนแก่น มีร้องเรียนแล้ว 1 เรื่อง

ปิดหีบเลือกตั้ง นายก อบจ.ขอนแก่น แล้ว รอลุ้นใครได้เป็นพี่ใหญ่ท้องถิ่น ขณะที่ กกต.เผย รับเรื่องร้องเรียนแล้ว 1 เรื่องเกี่ยวกับการหาเสียงแบบผิดกฎหมายรอตรวจสอบตามขั้นตอน