'ก.ร.ตร.' ระส่ำ! แจ้งความดำเนินคดีกันเอง 'พล.ต.ท.อำนวย' ไม่ทำงานเต็มเวลา-หมิ่นประมาท

'ก.ร.ตร.' ระส่ำ! 'สมศรี หาญอนันทสุข' แจ้งความดำเนินคดี 'พล.ต.ท.อำนวย' หมิ่นประมาท พิมพ์ข้อความเท็จในไลน์กลุ่ม ก.ร.ตร. ทำให้เสียชื่อเสียงสร้างความเกลียดชัง -ไม่มาปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลาตามที่กำหนดไว้ใน พรบ. ตำรวจแห่งชาติ

21 มิ.ย. 2567 - มีรายงานว่า คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ "ก.ร.ตร." ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ปี 2565 โดยหวังจะให้เป็นหน่วยงานอิสระในการรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับปัญหาตำรวจกระทำความผิดทางวินัยแทนที่จะให้หน่วยงานตำรวจสอบสวนดำเนินคดีกันเองทำให้ไม่ได้ผลในการลงโทษ

ขณะนี้ได้เกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้นระหว่างกรรมการที่เป็นบุคคลภายนอก กับ อดีตตำรวจบางคนอย่างรุนแรง ถึงขั้นมีการแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงาน ก.ร.ตร.ให้ดำเนินดคีอาญาข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบและหมิ่นประมาท

โดยเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2567 นางสมศรี หาญอนันทสุข กรรมการบุคคลภายนอกผู้ปฏิบัติงานเต็มเวลาและได้มาทำงานตามวันเวลาราชการทุกวัน ได้ไปแจ้งความกล่าวโทษ พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน กรรมการคนหนึ่ง ว่า ไม่ได้มาปฏิบัติงานเต็มเวลาตามที่ พ.ร.บ.ตำรวจมาตรา 47 บัญญัติไว้ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ รวมทั้งหมิ่นประมาท ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนผู้รับคำกล่าวโทษและคำร้องทุกข์ทั้งสองคดีคือ พ.ต.ท.พิพัฒน์พงศ์ เพิ่มพูน สว.(สอบสวน) สน.บางเขน และหัวหน้าพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบจะต้องเร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่มิชอบเป็นความผิดต่อแผ่นดินที่รัฐได้รับความเสียหายเป็นผู้เสียหายด้วย

สำหรับพฤติการณ์แห่งคดี ฐานความผิด หมิ่นประมาท ระบุว่า พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน ได้พิมพ์ข้อความที่เป็นเท็จที่เกี่ยวกับผู้เสียหายในแอปพลิเคชันไลน์กลุ่มชื่อสำนักงาน ก.ร.ตร. ซึ่งมีบุคคลภายนอกเป็นสมาชิกในกลุ่มไลน์นี้ด้วย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงสร้างความเกลียดชังเข้าใจผิดต่อที่สาธารณะ

ฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ระบุว่า พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน ได้โพสต์ข้อความลงในแอปพลิเคชันไลน์กลุ่มห้อง สำนักงาน ก.ร.ตร.โดยเปิดเผยวันเวลาในการเดินทางของพยานมายังสำนักงานจเรตำรวจ ต่อมาวัน 24 เมษายน 2567 ได้นำรายงานการประชุมมาลงในกลุ่มไลน์เดียวกัน และ วันที่ 25 เมษายน 2567 ได้นำภาพของพยานมาลงในแอปพลิเคชันมาลงในกลุ่มไลน์เดียวกันอันเป็นการเปิดเผยตัวตนของพยานคนสำคัญต่อบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง และพลตำรวจโทอำนวย นิ่มมะโน ได้ปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่ยังไม่ได้รับมอบหมายจากประธาน ก.ร.ตร. ขณะเดียวกันพลตำรวจโทอำนวย นิ่มมะโน ไม่มาปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลาตามที่กำหนดไว้ในพรบ. ตำรวจแห่งชาติ มาตรา43

รายงานข่าวระบุว่า นับว่าเป็นอีกเรื่องที่สะท้อนปัญหาและความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในองค์กรนี้ แทนที่จะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ตามเจตนารมย์ของกฎหมาย กลับมาสร้างปัญหากันเสียเอง กำหนดให้มาทำงานเต็มเวลาราชการรับค่าตอบแทนที่รัฐจัดให้ก็ไม่น้อย แต่บางคนกลับมา “บางเวลา” ตามสะดวก ก่อให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติงาน อันที่จริงถ้าใครคิดว่าไม่สามารถทำงานเต็มเวลาได้ก็ควรจะลาออกไปดีกว่าต้องให้ใครไล่หรือถึงขั้นต้องแจ้งความดำเนินคดีอาญากันเช่นนี้ แล้วจะเป็นที่พึ่งหวังของประชาชนได้อย่างไร

สำหรับ คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ ก.ร.ตร. มาจากการคัดเลือกตาม พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 จากสัดส่วนต่างๆ จำนวน 10 คน มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับความเดือดร้อนหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมของประชาชน จากการกระทำ หรือไม่กระทำการของข้าราชการตำรวจอันมิชอบ หรือการประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสมและเสื่อมเสียแก่เกียรติศักดิ์ของตำรวจ กระทำผิดวินัย หรือละเมิดประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ

โดยเมื่อ 13 มิ.ย. 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง ก.ร.ตร. จำนวน 7 คน ประกอบด้วย 1.พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น 2.นางสม ศรี หาญอนันทสุข 3.พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม 4.นางสาว สุกลภัทร ใจจรูญ 5.นายสุนทร พยัคฆ์ 6.นางอริยา แก้วสามดวง และ 7.พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ส่วน พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการโดยตำแหน่ง

ในวันเดียวกันมีคำสั่ง แต่งตั้ง พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ก.ร.ตร. เป็นประธาน ก.ร.ตร. ซึ่งประธาน ก.ร.ตร.มาจาก ก.ร.ตร.เป็นผู้ประชุมคัดเลือกจาก ก.ร.ตร.ทั้งหมด แต่ต่อมา พล.ต.อ.ปัญญา ลาออกจึงมีการแต่งตั้ง พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร เป็น ก.ร.ตร.แทน

อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ก.ร.ตร.ยังมีไม่ครบ 10 คนตามที่กฎหมายกำหนด โดยยังขาดตัวแทนจากตุลาการกับอัยการ

สำหรับ ก.ร.ตร.ตามมาตรา 47 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลาได้รับเงินประจำตำแหน่งประโยชน์ตอบแทน และค่าใช้จ่ายในการเดินทางเช่นเดียวกับกรรมการ ก.พ.ค.ตร. ประกอบด้วย นางสมศรี หาญอนันทสุข พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม และ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป.ป.ช. ฟันอาญา-วินัยร้ายแรง 'อัยการศาลทหารเพชรบูรณ์'

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด 'อัยการศาลทหารบกเพชรบูรณ์' ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ กรณีรายงานคดีผู้ต้องหาไม่ตรงความจริง แก้ไขข้อความในสารบบความอัยการมิชอบ

'วิรุตม์' งัดพรบ.ตำรวจ กระตุก ผบ.ตร. ชี้ตร.โดนคดีอาญา ควรสั่ง 'พักราชการ' ไว้ก่อน

'วิรุตม์' งัดพ รบ.ตำรวจ มาตรา 131 กระตุก ผบ.ตร. ตำรวจต้องหาคดีอาญา ผู้บังคับบัญชาควรสั่ง 'พักราชการ' หรือ 'ให้ออกจากราชการไว้ก่อน' เพื่อมิให้มีปัญหา ประชาชนเกิดความเคลือบแคลง และไม่ไว้วางใจในการปฏิบัติหน้าที่

‘อำนวย’ แนะปัดฝุ่นโครงการส่งเด็กกลับบ้าน แก้ปัญหาเด็ก ซ้ำรอยคดีป้าบัวผัน

ทันทีที่ ผบ.ตร. พูดเรื่องเคอร์ฟิวเด็ก มีตำรวจน้อยใหญ่ออกมาเด้งรับซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี แต่เมื่อ ผบ.ตร. หยุดพูด ขออย่าได้เด้งกลับก็แล้วกัน

อดีตสส.ก้าวไกล ร้อง ปธ.สภาฯ แฉ 'รองฯอ๋อง' เลี่ยงเข้าพบพงส.คดีหมิ่นประมาท

อดีต สส.ก้าวไกล ร้อง ประธานสภาฯ ปม รองฯ อ๋อง มีพฤติกรรมส่อเลี่ยงเข้าพบ พนง.สอบสวน ปมคดีหมิ่นประมาท อ้างติดภารกิจสภา ท้าแสดงสปิริต 'คนเท่ากัน' เว้นเอกสิทธิ์คุ้มครอง

เอาคืน 'สมชัย' ฟ้อง 'ชิต-พร้อมพงศ์' ข้อหาฟ้องเท็จ-หมิ่นประมาทฯ เรียก 50 ล้านบาท

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมทีมทนายความ เดินทางมายังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อยื่นฟ้อง นายพิชิต ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนายพร้อมพงศ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย