'จตุพร' จับตาใกล้วันนัดฟ้องคดี 112 'คู่ดีล' รับไม่ไหวหมดอารมรณ์พูดคุย เสียงคำรามรำคาญลั่น 'ใครอย่ามาขวาง' ดังเข้าหูเขย่าใจปอดกลัวคุกจนร่วงระนาว เมื่อไม่มีใครกล้าเอาคอมาพาดเขียงการันตีให้ เตือน'เพื่อไทย' อย่าแอบยัดไส้นิรโทษกรรมช่วย ซ้ำรอยกฎหมายเหมาเข่งสุดซอย
7 มิ.ย.2567 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า โดยทั่วไปแล้ว การออกกฎหมายนิรโทษกรรมมักสำเร็จเสมอ มีเพียงครั้งนิรโทษกรรมเหมาเข่งสุดซอยเมื่อปลายปี 2556 ที่พังพินาศย่อยยับ เพราะขยายนิรโทษกรรมจากให้กับประชาชน ไปพ่วงให้นักโทษหนีคดีทุจริตและบ่งการฆ่า-เผ่าไปด้วย แต่ท้ายที่สุดประชุมสภาใช้พวกมากลากไปลักหลับผ่านวาระสามช่วงตี 4-5 จนเป็นเหตุให้ประชาชนชุมนุมต่อต้านเต็มถนน และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้
นายจตุพร กล่าวว่า การเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยจนทำให้รัฐบาลพังเพราะเอาเรื่องทักษิณ ชินวัตร มาเกี่ยวข้อง ดังนั้น มาครั้งนี้ตนเคยเตือนพรรคการเมืองไม่ควรตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษา ถ้าจะตัดสินใจเสนอแล้ว ต้องกล้าออกเป็นพระราชกำหนด (พรก.) นิรโทษกรรม ด้วยจิตใจที่ยิ่งใหญ่กว้างขวางจึงจะสำเร็จ
"แต่ด้วยจิตใจไม่ใหญ่พอ จึงตั้งคณะกรรมาธิการซื้อเวลา จนวันนี้มาติดเรื่องทักษิณ เข้าอีก จึงเกิดกระแสคัดค้านการนิรโทษกรรมคดี 112 จึงทำให้ยากลำบากเป็นทวีคูณที่จะทำสำเร็จ แล้วยังจะกลายเป็นชนวนความขัดแย้งครั้งใหญ่เสียอีก ถ้าไม่ตกลงและคุยกันอย่างเข้าใจแล้วย่อมจะพากันพังและร่วงระนาวทั้งกระดาน"
พร้อมติงว่า ทักษิณ เมื่อกลับไทยแล้ว ควรอยู่นิ่งๆ เงียบๆ เพื่อไม่ก่อกระแสหมั่นไส้ เพราะอดีตเคยทำให้เกิดความขัดแย้งมากมายจนประชาชนล้มตายจำนวนมาก อีกอย่างยังได้รับอภัยโทษเฉพาะรายลดโทษเหลือ 1 ปี แต่ไม่ยอมติดคุกสักวัน แล้วได้รับพักโทษกรณีพิเศษอายุเกิน 70 ปีช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ กลับเดินสายออกนอกพื้นที่ควบคุมความประพฤติไปเชียงใหม่ แอบเจรจาชนกลุ่มน้อย ไปภูเก็ต แล้วย่องไปเจรจากับนายกฯ มาเลเชีย โดยทำให้บ้านเมืองวุ่นวายปั่นป่วนไปหมด และไม่ยึดมั่นดีลที่ทำกันไว้
นายจตุพร กล่าวอีกว่า วันนี้มีคำพูดทางลับหลากหลายคำและมากพยางค์ที่ฝ่ายอำนาจบางฝ่ายไม่พอใจทักษิณ และคำพูดนี้ได้เข้าหูตน แล้วเชื่อว่าทักษิณคงได้ยินเช่นกัน ดังนั้น คู่ดีลที่ผ่านมาล้วนหมดอารมณ์พูดคุยกันใหม่ เกิดความรำคาญ ขัดหูขัดตา แล้วยังเจ็บและอาย จึงต้องการให้เรื่องราวของทักษิณจบๆ กันไปโดยเร็ว
สิ่งสำคัญ พฤติกรรมทักษิณ ที่แสดงออกเกินดีลไปอย่างไม่ยี่หระ มันทำลายกระบวนการยุติธรรมและทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของพระบรมราชโองการ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ถ้าใจแข็งมาศาลในสถานการณ์นี้ ผลจึงไม่ง่ายจะได้ตามใจต้องการ
“ในบางเวลา บางคนอาจทำบางเรื่องได้ง่ายดาย แต่ไม่ใช่เวลานี้ มันไม่ใช่เวลาของเขา ที่สำคัญเรื่องนี้มาไกลเกินกว่าที่ใครจะมาการันตีได้ ใครจะเอาคอไปพาดเขียงได้ ไม่ว่าอดีตคุณจะใหญ่ถึงเพียงใดก็ตาม แต่ต้องรู้อย่างหนึ่งว่า เรื่องนี้มันกระทบเกินกว่าที่ใครคนใดคนหนึ่ง หรือสองคนสามคนจะช่วยให้เรื่องนี้ผ่านพ้นไปได้ เพราะคอของคุณก็ไม่มีค่าเพียงพอที่จะไปพาดเขียงแล้วให้เกิดการเปลี่ยนใจได้ และต้องรู้ว่าเรื่องนี้ไม่มีใครช่วยได้”
นายจตุพร กล่าวย้ำว่า สถานการณ์วันที่ 18 มิ.ย.นี้ ตนหวังให้ทักษิณมาขึ้นศาลคดี ม.112 แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมาหรือไม่ แต่เชื่อว่าจะไม่มา เพราะอะไรก็ตามถ้าไม่มีความมั่นใจ 100% เหมือนกับการประกาศกลับไทยยังถูกเลื่อนมาตลอดตั้งแต่ปี 2555 เนื่องจากข่าวดีย่อมมาก่อนข่าวร้ายขณะขึ้นเครื่องทุกครั้งช่วง 17 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น สถานการณ์ขณะนี้จึงไม่แตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม มาครั้งนี้ ถ้าใช้ความนิ่งอยู่ให้คนเห็นใจ ไม่ให้คนหมั่นไส้ และอยู่โดยการทำลายสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่กลับมาเพราะสำนึกแล้วจริงๆ เหมือนที่เขียนไว้กับการถวายฎีกาว่า เคารพต่อกระบวนการยุติธรรม ยอมรับว่ากระทำความผิดจริงและได้สำนึกแล้ว คนไทยก็พร้อมให้อภัย แต่เผลอแป๊บเดียวไปเชียงใหม่บอกว่าคนยัดข้อหาไว้เยอะ แสดงว่า ที่ยื่นถวายฎีกาและบันทึกไว้ในพระบรมราชโองการหมายความว่าอย่างไร มันจึงย้อนแย้ง จนคู่เจรจาจะรับไหวเหรอ
นายจตุพร เชื่อว่า โอกาสที่จะไม่มาในวันที่ 18 มิ.ย. สูงมาก แต่ไม่ถึงขั้นจินตนาการว่า ต้องเหมาเรือออกทะเลข้ามไปฝั่งกัมพูชาอย่างนั้น เพราะระดับอดีตนายกฯ ทักษิณ คงไม่ต้องทำถึงขนาดนั้น แม้อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวบอกไม่กังวลเพราะเป็นผลพวงจากการรัฐประหาร อัยการสูงสุดก็มาจากรัฐประหาร ก็พูดไปได้ แต่ถ้ามีสติจะไม่กล้าพูด เพราะรัฐบาลชุดนี้ก็เกิดขึ้นจากคณะรัฐประหารเช่นกัน อีกอย่างยังพูดให้ยอมรับว่า ถ้านายวิษณุ เครืองาม ถ้าเศรษฐา ทวีสิน อยู่ไม่ได้ รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ สภาก็อยู่ไม่ได้ ซึ่งพูดแต่ละครั้งก็เกิดความเสียหายทั้งสิ้น
“ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ อย่างไรก็ต้องร่วง เพราะไม่แน่ใจว่า การดีลต่างๆ ยังจะมีคนบ้าขาดสติไปดีลกันต่อหรือเปล่า ถ้ายังดีลกันจนถึงขนาดโง่ซ้ำซากไม่เลิก ผมว่าเขาต้องพิจารณาตัวเองเหมือนกัน แต่สถานการณ์ได้เดินมาถึงจุดที่คนเหล่านั้นรับกันไม่ไหวแล้ว จนถึงขนาดเสียงดังคำรามใครก็อย่าขวางก็แล้วกัน”
พร้อมกับกล่าวว่า ถึงขณะนี้ แม้มีชื่อบุคคลใหญ่โตมาอ้าง แต่ไม่ง่ายกับการดีล เพราะสถานการณ์เปลี่ยน เวลาเปลี่ยน ปัจจัยต่างๆ ได้เปลี่ยนเบ็ดเสร็จด้วย ความยิ่งใหญ่ที่ไปได้ทุกที่เหมือนเมื่อก่อนนั้น บัดนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
"จึงไม่แน่ใจว่า วันที่ 8 มิ.ย.นี้ ทักษิณจะไปที่ปทุมธานีหรือไม่ หรือถ้าไป ก็ไม่ได้หมายความว่า วันที่ 18 มิ.ย. จะกล้าไปที่อัยการสูงสุด เพื่อถูกนำตัวไปฟ้องศาลฟ้องคดี ม. 112 และเหตุอันมีพฤติกรรมหลบหนีในหลายครั้งจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ และไม่มีใครกล้าการันตี 100% แต่ตนก็อยากให้ไปศาลตามอัยการนัดเพื่อไปลุ้นใจกัน จะได้ซึมซับและลิ้มรสความเจ็บปวดของคนที่ต่อสู้ให้กันมา จนมีความตายและบาดเจ็บ มีความยากลำบากในชีวิตอย่างไร"
ส่วนคดีพรรคก้าวไกล นายจตุพร กล่าวว่า ถึงนายเศรษฐา มีอันเป็นไปก็ตาม แต่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าก้าวไกล ยืนยันไม่จับมือพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นท่าทีการเมืองที่ฉลาด และชัดเจน เพราะอาจเข้าใจกับเหตุร้ายทางการเมืองที่มาจากเกาะฮองกงกรณีข่าวลือพรรคก้าวไกลไปจับมือเพื่อไทย ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญ
นอกจากนี้กรณีคดีของนายเศรษฐา ที่ศาล รธน. นายจตุพร กล่าวว่า กระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีที่ไม่ครบจึงมีเจตนาจงใจให้ระคายเคืองและต้องรับผิดชอบกับการนำรายชื่อขึ้นกราบบังคมทูลเกล้าฯ ดังนั้น ผลปลายทางย่อมมีโอกาสร่วงมากกว่ารอด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เตือน ถ้าชื่อ 'ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ' ผ่าน ครม.จะมีการฟ้องกันระนาวแน่
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ ว่า กรณีแต่งตั้งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาตินั้น
ไม่รอด! ศาลสั่งจำคุก-ริบรถยนต์ เจ้าของเทสล่าหัวร้อนขับป่วนบนทางด่วน
ที่ศาลแขวงดุสิต ซอยสีคาม ถนนนครไชยศรี พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง ได้ยื่นฟ้อง นายปิติพัฒน์ กาญจนภาณุรัช ในข้อหา ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย
'จตุพร' ให้จับตา '22พ.ย.' จุดเปลี่ยนการเมืองไทย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า วันที่ 22 พ.ย.นี้จะเป็นปฐมบทของคนรักชาติได้ห
อดีตรองผู้ว่าฯ สุดทน 'ทักษิณ' สำราก 'กฎหมายเฮงซวย' ยุดำเนินคดี ละเมิดพระราชอำนาจ
นายสมโภช โชติชูช่วง อดีตรองผู้ว่าราขการจังหวัดกระบี่ โพสต์ข้อความถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี ว่า
ชำแหละ 'ทักษิณ' งัดกลยุทธ์ตอกย้ำสร้างปชน.เป็น 'ปีศาจใหม่' เพื่อให้พท.หลุดรอด 'ปีศาจเก่า'
'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' ปราศรัยหาเสียงอุดร ด้วยกระบวนท่า สทร. แต่ไม่เสนอนโยบายพัฒนาท้องถิ่น งัดกลยุทธ์ตอกย้ำสร้างพรรคประชาชนเป็น 'ปีศาจใหม่' เพื่อให้เพื่อไทยหลุดรอด'ปีศาจเก่า' โชว์ลีลาดาบตระบัดสัตย์ไร้ปรานีฟาดฟันนักร้อง แบ่งซีกดูถูกหยามเหยียด แยกคนอยู่ส่วนคน หมาอยู่ส่วนหมา
‘จตุพร’ ยุส่ง ถ้าคิดมีคนคุ้มกลาหัวได้ รีบตั้ง ‘ปธ.บอร์ดธปท.-แบ่งประโยชน์พื้นที่ทับซ้อน’
เมื่อหลงตัวนึกว่ายิ่งใหญ่ ‘จตุพร’ ยุส่งจะทำอะไรก็ทำเลย รีบตั้ง ปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ อย่ารอช้าเร่งเจรจาแบ่งประโยชน์พลังงานก่อนแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเลย อยากพูดแสดงไม่ยี่หระใครก็ทำ เตือนคนยิ่งใหญ่คุ้มครองใครไม่ได้ มี รมต.ติดคุกก็มาก ท้ามาสู้กันด้วยความจริงอย่าไปใช้วิถีอำมหิตกดดันองค์กรอื่น