'จตุพร' ชี้ 'ดีลลังกาวี' เหลว จับตา 29 พ.ค. อนาคต 'ทักษิณ' จี้อัยการทำคดี ม.112 ให้ถูกต้อง

วันที่ 29 พฤษภานี้อัยการสูงสุดจะตัดสินใจอย่างไรกับนักโทษทักษิณ ชินวัตร ซึ่งจะไปฟังคำสั่งฟ้องคดี 112 หรือไม่ ทั้งที่อัยการคนเดิมได้สั่งฟ้องไว้แล้ว ดังนั้น เมื่อคณะดีลถูกหักข้อตกลงอย่างนี้แล้ว จึงควรใช้เป็นช่องทางทำให้ถูกต้อง

28 พ.ค.2567- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า ผลสำรวจ 1 ปีของรัฐบาลเพื่อไทยสะท้อนได้ชัดเจนถึงดีลลังกาวีล้มเหลวที่ทำให้เกิดรัฐบาลโกหกตระบัดสัตย์อยากได้อำนาจจึงกล้าโกหกประชาชน สุดท้ายจึงสิ้นศรัทธา ความนิยมชมชอบแทบสูญหาย

อีกทั้งกล่าวว่า ผลโพลสำรวจความนิยมประชาชนซึ่งทำโดยสถาบันพระปกเกล้า ในช่วง 1 ปีรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งระบุความนิยมของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่บริหารประเทศมา 9 เดือนกว่าได้ลำดับ 4 ส่วนพรรคก้าวไกล ฝ่ายค้านยังไม่ได้บริหารบ้านเมืองกลับได้ความนิยมอันดับ 1 ดังนั้น นายกฯ ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือ ทั้งที่ขยันเดินสายต่างประเทศและในประเทศมากที่สุด แต่ประชาชนยังไม่นิยม

“อะไรก็ตามถ้าจุดเริ่มไม่ถูกต้อง ต่อให้ขยันทำให้ตายถ้าผิดคำพูดกับประชาชน แล้วได้ลาภที่ไม่ควรได้ ถึงได้ไปก็ไม่สง่างาม ไม่เป็นที่ยอมรับ สิ่งสำคัญแสดงให้เห็นว่า ผู้ดีลได้ตัดสินใจผิดพลาดสูงสุด เพราะถ้าดีลถูกต้องความนิยมจะจางหายไปเหรอ”

นายจตุพร กล่าวว่า คณะดีลคิดให้พรรคเพื่อไทยจับมือกับฝ่ายยึดอำนาจปี 2557 เพื่อสกัดขวางและจัดการความนิยมของพรรคก้าวไกล แต่ไปจัดการอย่างไรพรรคก้าวไกลจึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทวีคูณ เพราะถ้าจัดการได้จริงความนิยมของพรรคก้าวไกลต้องจางหายไป แต่ขณะนี้ฝ่ายไปจัดการกลับมีความนิยมลดลงเสียเอง โดยโพลระบุเลือกตั้งใหม่พรรคเพื่อไทยได้เสียงลดลงจาก 141 เหลือ 105 ส่วนก้าวไกลได้เพิ่มมากกว่า 200 เสียงอีก

ดังนั้น จึงเป็นความผิดพลาดสิ้นเชิง เพราะอำนาจที่ตั้งสมมุติฐานเกินจริงและเป็นความเท็จแล้วจึงเป็นความหายนะของชาติ สิ่งสำคัญเคยมีประเทศใดหรือไม่ที่คณะยึดอำนาจมาจับมือและส่งมอบอำนาจที่ยึดมากลับคืนให้พรรคที่ถูกยึดอำนาจ สิ่งนี้จึงเป็นความผิดพลาด

รวมทั้งกล่าวว่า ผลโพลได้สะท้อนถึงข้อตกลงดีลที่ผ่านมานั้นผิดอย่างชัดเจน รัฐบาลเพื่อไทยบริหารมา 9 เดือนได้รับความนิยมจากประชาชนน้อยมาก เพราะที่ผ่านมาพูดเอาแต่ได้ อย่างไรก็ตามหากยืนด้วยสิ่งที่ถูกต้องแล้วบ้านเมืองก็ไม่เสียหาย แต่เมื่ออยากได้อำนาจ ตระบัดสัตย์ก็เอาและยอมแลกกับทุกสิ่งอย่างก็ทำ ท้ายที่สุดไม่ได้ดีขึ้นเลย

นายจตุพร กล่าวว่า วันที่ 29 พ.ค.นี้อัยการสูงสุดจะตัดสินใจอย่างไรกับนักโทษทักษิณ ชินวัตร ซึ่งจะไปฟังคำสั่งฟ้องคดี 112 หรือไม่ ทั้งที่อัยการคนเดิมได้สั่งฟ้องไว้แล้ว ดังนั้น เมื่อคณะดีลถูกหักข้อตกลงอย่างนี้แล้ว จึงควรใช้เป็นช่องทางทำให้ถูกต้อง

“การตระบัดสัตย์ตั้งรัฐบาลเมื่อบอกว่าถูกต้องแล้ว ทำไมคนจึงไม่เห็นด้วย แต่ความผิดพลาดแบบนี้ทำให้กิดความเสียหายต่อบ้านเมือง และยังมีอีกหลายเรื่องที่รอจะทำให้เกิดความพินาศ อีกทั้งอีกหลายโครงการของรัฐบาลตระบัดสัตย์ที่กำลังจะทำความผิดพลาดอีก ยิ่งจะทำให้เกิดวิกฤตศรัทธา โดยเฉพาะการขายข้าว 10 ปี สุ่มเสี่ยงทำให้ชื่อเสียงตลาดข้าวไทยอาจย่อยยับได้ชั่วพริบตา”

ส่วนนายเศรษฐา ไปพบนายวิษณุ เครืองาม หารือเรื่องคำร้องของ 40 สว. นั้น นายจตุพร กล่าวว่า แสดงถึงโอกาสจะขยายเวลาชี้แจงต่อศาล รธน. ออกไปอีกย่อมเป็นไปได้ แต่สิ่งนี้ยิ่งสะท้อนถึงความล้มเหลวของดีลอีกแบบหนึ่ง
ดังนั้น อัยการนัดวันที่ 29 พ.ค.ที่จะสั่งฟ้องหรือไม่นั้น ถ้าต้องเลื่อนออกไปอีก ยิ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นถดถอยลงมาก เพราะประชาชนไม่ศรัทธากับคนโกหก ที่ไม่รักษาคำพูดทางการเมือง ซึ่งปลายทางจึงหนีไม่พ้นรัฐล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สะพัดอาเพศแผ่นดิน!! ถล่ม รบ.ตระบัดสัตย์ ฉีกหน้า สตง.ใต้ซากตึก

กระฉ่อนอาเพศแผ่นดิน หยามหน้ารัฐบาลตระบัตสัตย์สูบผลประโยชน์ คล้อยหลังมติ ครม.ตั้งบ่อนกาสิโนวันเดียว ภัยพิบัติไม่เคยเกิดก็เกิด เชื่อตึก สตง.ถล่ม โยงทุจริตหักหน้าองค์กรตรวจสอบป้องปรามโกงยับเยิน หวังให้กู้ชีวิตคนงานปลอดภัย แว่วอีกพนันออนไลน์เข้า ครม.อังคารหน้า นิมนต์ทุกศาสนาเทศเตือนสตินักการเมืองไร้สัจจะในระบอบ ปชต.โจร

องค์กรต้านโกง แฉยับผู้รับเหมา ต้นเหตุตึกถล่ม!

อัยการไขปริศนาตึกถล่มใครต้องรับผิดชอบ ข้อ 11 ระบุชัดแม้ตึกถล่มเพราะเหตุสุดวิสัยแผ่นดินไหว กิจการร่วมค้าอิตาเลียนไทยก็ต้องรับผิดสร้างใหม่เอง “กทม.

อัยการ มีคำตอบ 'ตึกถล่ม' ใครต้องรับผิดชอบจ่ายเงินสร้างตึกใหม่?

อัยการธนกฤต เผยความเห็นทางกฎหมาย กรณีตึก สตง. ถล่ม หลังแผ่นดินไหว ระบุผู้รับจ้างอิตาเลียนไทยต้องรับผิดชอบสร้างใหม่ตามข้อ 11 สัญญา แม้เหตุเกิดจากเหตุสุดวิสัย และต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

'สนธิญา' ยื่น กกต. สอบปม 'นายกฯอิ๊งค์-เท้ง' โต้กันนัวศึกซักฟอก คนนอกครอบงำพรรค

นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยื่นหนังสือต่อกกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบจากกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 -25 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการกล่าวหาซึ่งกันและกัน ระหว่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน

'ภูมิธรรม' แจงเหตุลากยาวปล่อย 4 ลูกเรือไทย เพราะคดีเข้าสู่ระบบ

'ภูมิธรรม' โยนถาม กต. หลังไทยเชิญ 'มิน อ่อง หล่าย' ร่วมประชุม BIMSTEC อัดกลับ 'กัณวีร์' โกหกหลายเรื่อง หลังไม่เห็นด้วยห่วงฟอกขาวเผด็จการ เผยเหตุลากยาวปล่อย 4 ลูกเรือไทย เพราะคดีเข้าสู่ระบบ ระบุ กองทัพ-กต. ร่วมประสานงาน

ระวังซ้ำรอย! ข้าราชการสนองเกินงาม ยุค 'แม้ว-ปู' ติดคุกระนาว

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง และทนายความ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การทำหน้าที่ของข้าราชการในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล