’พิธา‘ ยัน ’ก้าวไกล‘ ไม่ได้ฉกฉวยหวังผลการเมือง จากการเสียชีวิตของ 'บุ้ง ทะลุวัง'

’พิธา‘ ยัน ’ก้าวไกล‘ ไม่ได้ฉกฉวย หวังผลการเมือง วอนสังคมตั้งสติ รอฟังข้อเท็จจริง ปม ’บุ้ง‘ เสียชีวิต พร้อมสื่อสารนักกิจกรรม-เยาวชน เอาชีวิตตัวเองก่อนการต่อสู้ บอกเป็นห่วง ’ตะวัน‘

19 พ.ค. 2567 ที่ ภิรัช ฮอลล์ ไบเทคบางนา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนงานมหกรรมนโยบายพรรคก้าวไกล Policy Fest ครั้งที่ 1 ‘ก้าวไกล Big Bang’ ถึงกรณีที่เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือทนายด่าง ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นทนายของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง นักกิจกรรมที่เสียชีวิตในเรือนจำ ระหว่างการอดอาหารประท้วงสิทธิประกันตัว ออกมาเปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เกิดจากการเสียบท่อช่วยหายใจผิด จะมีการเรียกร้องอย่างไร ว่า เมื่อวานได้เรียกร้องไปแล้วที่ราชทัณฑ์ให้เปิดเผยข้อเท็จจริงเรื่องเกี่ยวกับ น.ส.เนติพรอย่างโปร่งใส เพราะถ้าไม่มีความชัดเจน หรือมีความเข้าใจผิด จะทำให้เกิดความบาดหมางของสังคมมากขึ้น และจะไม่มีใครรู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แน่นอนว่า ตนก็เคารพและฟังทนาย .. แค่ก็ต้องการเห็นข้อมูลที่แท้จริง ทั้งจากแพทย์ที่ให้การรักษาและจากกรมราชทัณฑ์ด้วย ตนทราบข่าวว่า นายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะออกมาให้ข้อมูลกับทางครอบครัวของ น.ส.เนติพร ในวันที่ 20 พ.ค.ที่จะถึงนี้ หากมีการเปิดเผยตรงนีั ก็จะได้เห็นว่า ตกลงแล้วต่อท่อหายใจผิดจริงหรือไม่ ขอให้สังคมตั้งสคิ และรอฟังข้อมูล

ส่วนความกังวล กรณีที่มีการเชื่อมโยงเรื่องข้างต้นกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น นายพิธา มองว่า ต้องแยกกัน แน่นอนว่า การแก้ไข มาตรา 112 หรือการปฏิรูปสถาบันฯ ก็เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องของ น.ส.เนติพร แต่ในช่วงหลัง สิ่งที่ทำให้ น.ส.เนติพรต้องอดอาหารเป็นเวลานานนั้น คือการเข้าถึงความยุติธรรม โดยเฉพาะสิทธิการประกันตัว การฝากขังก่อนการพิจารณา และการสันนิษฐานว่า บริสุทธิ์ไว้ก่อน เป็นเรื่องที่ทำให้ทั้ง น.ส.เนติพร และเยาวชนอีก 2-3 คน ตัดสินใจจะอดอาหารประท้วงมากกว่าจะเป็นเรื่องมาตรา 112

สำหรับความเห็นแย้งกรณีที่ น.ส.เนติพร เคยได้รับการประกันตัว และกรณีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ศาล ไม่เกี่ยวข้องกันนั้น นายพิธา กล่าวว่า ตนคงพูดแทน น.ส.เนติพร ไม่ได้ แต่ถ้าจะให้เดา ตนคิดว่า น.ส.เนติพร ไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเขาเองคนเดียว แต่ต่อสู้เพื่อเพื่อนของเขา หรือเสรีชน ที่มีความคิดแบบเดียวกันคือ ทุกคนควรเสมอภาคต่อหน้ากฎหมาย และยืนยันเรื่องการเข้าถึงสิทธิการประกันตัว สิทธิในการเข้าถึงทนาย การฝากขังทึ่ไม่เป็นธรรม เพราะ 2-3 เดือนในการขังคน โดยที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ทางกฎหมาย น่าจะเป็นเรื่องที่ น.ส.เนติพร ติดใจ รวมถึงประชาชนคนไทยทุกคนด้วย

ส่วนข้อสังเกตว่า เหตุใด สส.ของพรรคก้าวไกล ไม่ออกมาในช่วงที่เคลื่อนไหว แต่กลับออกมาตอนนี้ จะถือเป็นการฉกฉวยโอกาสหรือไม่ นายพิธา ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการฉกฉวยแน่นอน เพราะการเคลื่อนขบวนของเยาวชนไม่ว่าจะกลุ่มไหนมีอิสระเป็นของตนเอง ไม่ได้ยึดโยงกับพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง พรรคก้าวไกลเชื่อในเรื่องนิติรัฐนิติธรรม แต่ไม่ได้หมายความว่า เรากับเยาวชนคนหนุ่มสาวเห็นไปในทิศทางเดียวกันทุกเรื่อง ถ้าเป็นฝั่งตรงกันข้าม แล้วถูกฝากขังโดยที่ไม่ได้รับการพิจารณา พรรคก้าวไกลก็จะออกมาพูดเหมือนกัน ไม่ได้หมายความว่าจะต้องสอดคล้องกันหรือเป็นเวลาเดียวกัน ไม่ได้ฉกฉวยเอาผลประโยชน์การเมืองใดๆ ตอนนี้ ไม่มีในหัวของเราอยู่แล้ว เป็นการให้เกียรติครอบครัวผู้เสียชีวิตมากกว่า

โดยตนมีข้อเรียกร้อง ดังนี้ 1.ความโปร่งใสชัดเจนจากทางกรมราชทัณฑ์

2.ทางตำรวจและอัยการ ให้ตอบสนองนโยบายจากรัฐบาล ในการไม่เอาผิดจากผู้เห็นต่างทางการเมือง และชะลอคดีความ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลตำรวจโดยตรง ซึ่งถือเป็นต้นน้ำของการแก้ไขปัญหากระบวนการยุติธรรม

3.การนิรโทษกรรมคดีการเมือง ซึ่งถือเป็นปลายน้ำของการแก้ปัญหา ต้องเร่งผลักดันให้เร็วที่สุด ไม่ควรแยกกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งออกไป โดยเฉพาะอนาคตของชาติ ต้องไม่ให้เขาต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลได้พยายามสื่อสารพูดคุยกับกลุ่มนักเคลื่อนไหวและเยาวชน ตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว ว่าให้คิดถึงชีวิตตัวเองก่อน แต่เราก็ไม่สามารถก้าวก่ายความเด็ดเดี่ยวของเขาได้ ทั้งนี้ ตนไม่รู้จักพวกเขาเป็นการส่วนตัว แต่หากมีโอกาสได้พบ จะบอกว่าให้เอาชีวิตตัวเองมาก่อน เพราะการต่อสู้ยังอีกยาวนาน แต่จะฟังหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา
นอกจากนี้ นายพิธา ยังกล่าวถึงกรณีที่น.ส. น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ย้ายออกจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ กลับมาที่เรือนจำว่า ตนเห็นจากข่าวแล้ว เข้าใจว่า น.ส.ทานตะวันคงจะเสียใจที่สูญเสียเพื่อน แต่ชีวิตตัวเองก็สำคัญ ตนเป็นห่วง จึงขอฝากพ่อแม่ของ น.ส.ทานตะวัน ให้ดูแลด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดัชนีการเมืองไทยร่วง! ปากท้องฉุดเรตติ้งรัฐบาล 'เศรษฐา' ตามหลัง 'พิธา'

วนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนมิถุนายน 2567” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,367 คน

'พิธา' รับบทเอฟซี 'ลิซ่า' ยกเป็นผู้ทำคุณูปการให้ชาติ อัด 'ซอฟต์พาวเวอร์' ไม่ใช่การยัดเยียด

'พิธา' รับบทเอฟซีภูมิใจ 'ลิซ่า' ปล่อย MV บอก 'ทำเกิน' ไม่ใช่แค่ทำถึง ยกเป็นผู้ทำคุณูปการให้ชาติ ย้ำ 'ซอฟต์พาวเวอร์' ไม่ใช่การยัดเยียด-ประดิษฐ์ประดอย

ผลสำรวจนิด้าโพลชี้ ประชาชนหนุน 'พิธา' นั่งนายก ส่วน 'เศรษฐา' มาเป็นอันดับ 3

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 2/2567” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 14-18 มิถุนายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง

‘พิธา’ แสลงหู ‘สว.สีส้ม’ ขออย่าป้ายสีเติมนามสกุลให้ใคร

‘พิธา’ ขออย่าป้ายสีเติมนามสกุลให้ใคร หลังเลือก สว. ผุดคำว่า ‘สว.สีส้ม’ เชื่อส้มในที่นี้คือ ‘จุดยืนประชาธิปไตย’ ย้ำหลักกฎหมายพรรคการเมืองเอี่ยวไม่ได้ มองจะได้สภาสูงที่มีคุณภาพ แม้ไม่ใช่เลือกตั้งทางตรง

นายกโซเชียล สอน ‘นายกฯเศรษฐา’ พูดเรื่องท่องเที่ยวต้องดูทั้งดีมานด์-ซัพพลาย

‘พิธา’แนะนายกฯ ดูแลสาธารณูปโภคนักท่องเที่ยวให้พร้อม ก่อนจัดคอนเสิร์ตระดับโลกที่พัทยา หวั่นอุตสาหกรรมทำสะดุด