
17 พ.ค. 2567 – ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของวุฒิสภาว่า สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ร่วมกันเข้าชื่อตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 เพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความสิ้นสุดลงของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของนายพิชิต ชื่นบาน หลังมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 170 (4) และ (5) ประเด็นที่ว่าด้วยขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบีติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ผ่านนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา และล่าสุดนายพรเพชรส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาแล้ว
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว. ในฐานะผู้ร่วมลงชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ว่า ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของ สว. ที่ต้องทำหน้าที่ ฐานะเป็นผู้แทนปวงชน หลังประเด็นการดำรงตำแหน่งของนายพิชิตนั้นมีผู้แสดงความเห็นในวงกว้าง และเวทีสาธารณะว่าเหมาะสมหรือไม่ ทั้งนี้เมื่อพิจารณาตามข้อกฎหมายเห็นว่าควรส่งให้องค์กรที่มีหน้าที่ คือ ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย โดยมี สว. ร่วมเข้าชื่อ 40 คน จากที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ใช้ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของ สว. ที่มีอยู่
สำหรับเหตุผลที่ระบุและบรรยายให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา คือ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งกรณีของนายพิชิตนั้น มีข้อเท็จจริงที่ปรากฎให้เห็นว่ามีการละเมิดอำนาจศาล และมีคำสั่งศาลสั่งให้จำคุก ทั้งนี้มีคำบรรยายรายละเอียดข้อเทท็จจริงของศาลที่ชัดเจนว่ามีพฤติกรรมทุจริต ติดสินบนต่อกระบวนการยุติธรรม และถูกนำเรื่องเข้าสู่สภาทนายความให้ลบชื่อจากการเป็นทนายความ ดังนั้นจึงเป็นกรณีที่ชัดแจ้งว่าไม่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจัก และยังมีพฤติการณ์ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวถึงกรณียื่นให้พิจารณาการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของนายเศรษฐา ด้วยว่า เป็นกรณีสืบเนื่องกันว่า มีประเด็นที่ทักท้วงต่อการตั้งนายพิชิตให้ดำรงตำแหน่ง แต่ทำไมนายกฯ ยังนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ให้นายพิชิตดำรงตำแหน่งในตำแน่งรัฐมนตรีอีก ดังนั้นจึงถือเป็นความรับผิดชอบของนายกฯ
“กรณีนายกฯ ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย ส่วนที่ระบุว่าได้หารือกับกฤษฎีกาแล้ว พบว่าเป็นการหารือที่ไม่ตรงประเด็น ทั้งระยะเวลาการพ้นโทษ และการตีความระหว่างคำสั่ง กับคำพิพากษาเหมือนกันหหรือไม่ ทั้งนี้เรายังพบประเด็นที่เป็นปัญหา จึงเข้าชื่อเพื่อยื่นใหห้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย” นายดิเรกฤทธิ์ ระบุ
ทั้งนี้ทราบว่าสำนักงานวุฒิสภาได้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว และจากสำเนาเอกสารทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญได้รับเรื่องแล้วในวันที่ 16 พ.ค. เวลาา 10.20 น. ดังนั้นหากศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณา ต้องพิจารณาในประเด็นความสิ้นสุดลงของรัฐมนตรี และตำแหน่งนายกฯ ด้วย โดยรายละเอียดต่อจากนี้อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา ทั้งนี้ตนยืนยันว่าเป็นการทำหน้าที่ฐานะตัวแทนปวงชนชาวไทยตามหน้าที่และอำนาจของสว. ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะดึง 4 กระทรวงแก้เผาอ้อยและพืชไร่
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะลงนาม 4 กระทรวง ควบคุมการเผาอ้อยและพืชไร่ ป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม โชว์ผลงานเผาอ้อยเป็น 0% คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ประชาชนช่วงปีใหม่
ป.ป.ช. เลื่อนชี้ขาดคดี 44 อดีต สส.ก้าวไกล หลังยื่นขอความเป็นธรรม
นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) รักษาราชการแทนเลขาธิการป.ป.ช. กล่าวถึงกระแสข่าวคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่จะนัดลงมติคดีอดีต 44 สส.พรรคก้าวไกล ผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีการเข้าชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
สื่อทำเนียบฯ งดตั้งฉายา 'รัฐบาลอนุทิน'
สื่อทำเนียบฯ งดตั้งฉายา 'รัฐบาลอนุทิน' เหตุเป็นรัฐบาลรักษาการ หลังนายกฯยุบสภาฯ
'ภูมิธรรม' มั่นใจแจงศาลรัฐธรรมนูญได้ทุกเรื่องปมให้อำนาจแทรกแซงคดีฮั้ว สว.
ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานและผู้เกี่ยวข้อง คดีสถานะ อดีตรองนายกฯและอดีตรัฐมนตรียุติธรรม แทรกแซงคดีฮั้วเลือก สว. 'ภูมิธรรม' มั่นใจชี้แจงได้ทุกประเด็น
'อนุทิน' ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ จะทำให้ดีและยิ่งใหญ่กว่า 3 เดือนที่ผ่านมา
'อนุทิน' ประกาศ 'ผมเป็นนายกฯ' พร้อมดัน 'เอกนิติ -ศุภจี-สีหศักดิ์' เป็นรองนายกฯ สู้ศึกเลือกตั้ง โวมีสส.เพิ่มทุกครั้ง พร้อมเปิดนโยบายทหารอาสา 1 แสนคนเงินเดือน 1.2 หมื่นเพิ่มความเข้มแข็งปกป้องอธิปไตย
นายกฯ เยี่ยมนาวิกโยธินเหยียบกับระเบิด ฝาก 'นานาชาติ' อย่าเอาแต่บอกไทยหยุดยิง ให้ไปบอกเขมร
นายกฯเยี่ยมนาวิกโยธิน เหยียบทุ่นระเบิดบาดเจ็บ ฝากถึงนานาชาติ อย่าเอาแต่บอกให้ไทยหยุดยิง ให้ไปบอกเขมร ลั่นเลิกเกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหม เดินหน้าสถาปนาอธิปไตยเหนือชายแดนโดยเร็วที่สุด

