'เศรษฐา' ปลื้ม 'มาครง' หนุนสานต่อสัญญาการค้า ตั้งกรุ๊ป Whatapp ร่วม 'ฮุน มาเน็ต' ไว้หารือ

'เศรษฐา' เยือนฝรั่งเศส เผยเวลาน้อยแต่คุ้ม บอก 'มาครง' พร้อมหนุนสานต่อสัญญา การค้า-ท่องเที่ยว- EV-พลังงานสะอาด ช่วยอัปเกรดกองทัพไทยภายใน 10 ปี ยกฝรั่งเศสเป็นแม่แบบพลังงานสะอาดนำใช้ในไทย ปลื้มสตรีหมายเลข 1 สวมชุดแดงทักทาย แย้มแลกเบอร์โทรพร้อมตั้งกรุ๊ป Whatapp ร่วม 'ฮุน มาเน็ต' ไว้หารือ

17พ.ค.2567-เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 16 พ.ค. (ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงปารีส ซึ่งช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง) ที่ท่าอากาศยานปารีส-ออร์ลี กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการพบปะหารือและเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันกับ นายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ว่า จากการพบปะกันเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา มีการนำภาคธุรกิจมาพบปะสานสัมพันธ์อย่างต่อ เนื่อง วันนี้ก็มาตามสัญญาที่บอกว่าจะมาเป็นประธานการพูดคุยและอัปเดตกันว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งมีการพูดคุยกันหลายเรื่อง ทั้งการค้าระหว่างประเทศ รวมถึง FTA ซึ่งอาจจะมีความซับซ้อนในหลายด้าน ทางผู้แทนการค้าไทยจึงขอให้ดำเนินการทีละส่วนโดยเฉพาะรถอีวีที่จะส่งเข้ามา ท่านก็เห็นด้วย

นายเศรษฐา กล่าวว่า ส่วนการทำวีซ่าฟรีเช็งเก้นก็ได้มีการพูดคุยกัน และยืนยันให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้พ้นการเลือกตั้งสภายุโรปในเดือนมิถุนายนนี้ก็จะดำเนินการต่อไป จึงขอเป็นเดือนสิงหาคมที่จะมีการพิจารณาต่อ แต่ยืนยันว่าสนับสนุน รวมไปถึงการท่องเที่ยวก็มีการพูดคุยกันว่าอาจจะต้องมีการเพิ่มเที่ยวบิน แต่วันนี้ยังไม่ free-covid

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในเรื่องของพลังงานสะอาด ทางฝรั่งเศสมีพลังงานสะอาดเยอะมาก เราก็อยากให้ฝรั่งเศสเป็นแม่แบบที่จะพัฒนาพลังงานสะอาดของเราคงจะได้มีการพูดคุยกัน และในการประชุม Forum ครั้งต่อไปในเดือนกันยายนที่ประเทศไทย เขาจะนำผู้เชี่ยวชาญด้าน Energy มาร่วม ซึ่งปัจจุบันนี้ สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย ราคาถูกและสะอาดที่สุด ส่วน MOU ในวันนี้เกี่ยวกับข้อแลกเปลี่ยนของกระทรวงกลาโหม ซึ่งทางฝรั่งเศสมีอะไรที่จะสนับสนุนเราในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน รถถัง โดรน ไซเบอร์ และการป้องกันทั้งหลายที่อยากจะทำร่วมกับเรา ซึ่งวันนี้ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ก็มาร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกลางวันด้วย

"มีการพูดคุยในแง่ภาพรวมภาพใหญ่ โดยมีการวางแผนเรื่องการอัปเกรดของกองทัพในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า ซึ่งฝรั่งเศสมีอะไรที่จะออฟเฟอเราบ้าง ก็จะมีการนำทีมงานของเขาไปที่ประเทศไทย อาจจะรวมไปถึงการฝึกซ้อมรบด้วย และจะได้เห็นว่าเขาสามารถช่วยอะไรกองทัพไทยได้บ้าง" นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวว่า และช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ก่อนที่จะพบกับประธานาธิบดีมาครง ได้มีโอกาสไปเปิดงาน Thailand - France Business Forum มีการพูดคุยหลายด้าน ทั้งเรื่องการผลิตเชื้อเพลิงพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน (SAF) ที่ใช้ในเครื่องบิน ซึ่งถือเป็นเรื่องสําคัญที่เราจะทํากัน มีการพูดคุยกันหลายวงที่จะมีการยกระดับความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่าง 2 ประเทศ เนื่องจากในครั้งนี้มีนักธุรกิจใหญ่เข้ามาจำนวนมาก ถือว่าได้ประโยชน์อย่างมากสําหรับการมาเพียงครึ่งวัน

นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า ในช่วงการรับประทานอาหาร กลางวันกับประธานาธิบดีมาครง ร่วมกับประธาน ปตท. ประธานผู้แทนการค้าไทย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็เข้าร่วมด้วย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีบทบาทสําคัญในการที่จะพูดคุยเรื่องพลังงานสะอาด

นายเศรษฐา กล่าวว่า หลังจากนั้นได้มีการพูดคุยกันสองต่อสอง ระหว่างตนกับประธานาธิบดีมาครง ที่ห้องรับแขกของท่าน มีการพูดคุยในเชิงลึกถึงความสัมพันธ์ที่จะสามารถทําอะไรกันต่อไปได้ ซึ่งเป้าหมายที่จะทําต่อไปคือในเดือนกันยายนก็จะมีนักธุรกิจจากประเทศฝรั่งเศสไปที่ประเทศไทย ซึ่งแปลกใจเล็กน้อยที่ประธานาธิบดีมาครงได้เชิญภรรยาของท่าน ซึ่งวันเดียวกันนี้สวมชุดสีแดง สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของฝรั่งเศส ซึ่งท่านเข้ามาพูดคุยทักทายกันเล็กน้อย จากนั้นก็เดินออกไป ตนและประธานาธิบดีฝรั่งเศสก็คุยกันต่อ ก็เป็นการพูดคุยกันอย่างดีในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

"วันเดียวกันนี้ท่านได้ขอเบอร์มือถือไปและได้ทดลองทักทายกันผ่าน Whatapp มีอะไรก็สามารถพูดคุยกันอย่างชัดเจน และท่านบอกว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งผมก็ระบุว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทั้ง 3 คน น่าจะได้มีการตั้งกลุ่มขึ้นมา และมีการพูดคุยกัน เป็นเรื่องที่ดี 3-4 ชั่วโมง ได้ประโยชน์อย่างมากและวันนี้ก็เดินทางต่อไปที่เมืองมิลานประเทศอิตาลี" นายเศรษฐา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ควบคุมทิศทางอุตสาหกรรม MICE ฟุ้ง สร้างรายได้กว่า 2 แสนล้าน

นายกฯ ควบคุมทิศทางอุตสาหกรรม MICE เชื่อมั่นเติบโตต่อเนื่อง พร้อมเตรียมแผนจัดงาน-กิจกรรมตลอดไตรมาส 4 ของปีงบประมาณ 2567 กระตุ้นตลาด MICE ไทย คาดการณ์เเนวโน้มปีงบประมาณ 2568 สร้างรายได้กว่า 2 แสนล้านบาท