เอาแล้ว! เตรียมขอศาลออกหมายจับ ป.ป.ช. ฐานขัดหมายบังคับ

11 พ.ค.2567 - นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน เตรียมขอศาลออกหมายจับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ไปขัง ฐานขัดหมายบังคับของศาลจนกว่าจะยอมเปิดเผย รายงานการตรวจสอบทรัพย์สิน และจะฟ้องคดีอาญาป.ป.ช.ทั้งคณะฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ไม่ยอมปฏิบัติตามคำบังคับของศาลที่ให้เปิดเผยรายงานการตรวจสอบทรัพย์สินด้วย ซึ่งเป็นการดำเนินคดีอาญาที่มีโทษจำคุกสูงมาก

กรณีเรื่องนี้เกิดจาก นายวีระ สมความคิด ได้ร้องขอให้ป.ป.ช. ให้เปิดเผยรายงานการไต่สวนบัญชีทรัพย์สิน ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่ป.ป.ช.ไม่ยอมเปิดเผย นายวีระ สมความคิด จึงฟ้องต่อศาลปกครอง โดยอาศัยสิทธิ์ตามกฎหมายข้อมูลข่าวสาร

ศาลปกครองพิจารณาแล้วพิพากษาให้ป.ป.ชเปิดเผย รายงานการตรวจสอบทรัพย์สินดังกล่าว แต่ป.ป.ชไม่ยอมเปิดเผย นายวีระจึงขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี หลายครั้ง แต่ป.ป.ช.ก็ไม่ยอมปฏิบัติ

ดังนั้นนายวีระจึงขอให้ศาล มีคำสั่งลงโทษป.ป.ช.ฐานขัดหมายศาล ในที่สุด ศาลปกครอง มีคำสั่งปรับป.ป.ช.เป็นเงิน 10,000 บาท ซึ่งถือเป็นการลงโทษทางอาญาอย่างหนึ่ง ฐานขัดหมายศาล และ มีคำสั่งว่าถ้าไม่ชำระให้ยึดทรัพย์ป.ป.ช เพื่อชำระค่าปรับด้วย

แต่จนบัดนี้ป.ป.ช.ก็ไม่ยอมปฏิบัติตามคำบังคับของศาลคือยังไม่ยอมเปิดเผยรายงานการตรวจสอบทรัพย์สิน ดังนั้นนายวีระจึงจำเป็นที่จะต้อง รัองต่อศาล เพื่อให้ออกหมายจับป.ป.ชทุกคนมาขังไว้ จนกว่าจะปฏิบัติตามหมายบังคับของศาล

ในเรื่องนี้ ไม่มีบัญญัติไว้ในกฎหมายวิธีพิจารณาคดีปกครอง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะบังคับคดีตามคำพิพากษาไม่ได้ เพราะในกรณีนี้ต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ ตามที่กฎหมายวิธีพิจารณาความปกครองบัญญัติไว้ ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 297 บัญญัติว่า ให้โจทก์ยื่นคำขอแต่ฝ่ายเดียว ขอให้ศาลออกหมายจับ ลูกหนี้ตามคำพิพากษามาขังไว้ จนกว่าจะยอมปฏิบัติตามหมายบังคับของศาล

นายวีระจึงเตรียมใช้อำนาจและสิทธิ์ตามที่กฎหมายดังกล่าวบัญญัติไว้ และเนื่องจากการไม่ปฏิบัติ ตามหมายบังคับของศาลนั้นเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบตามกฎหมายอาญาและกฎหมายป.ป.ช.ด้วย นายวีระจึงเตรียมที่จะฟ้องคดีอาญาป.ป.ช.ทุกคนต่อศาลอาญาคดีทุจริตต่อไป ซึ่งมีโทษค่อนข้างหนัก

นายไพศาล ยังระบุว่านอกจากนี้อาจจะร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ฐานป.ป.ช.ละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงเพื่อให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งและตัดสิทธิ์ทางการเมืองด้วย เมื่อวานนี้นายวีระกล่าวว่า นับตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ทรงปฏิรูปกฎหมายเป็นต้นมา ไม่เคยมีหน่วยราชการใดที่กล้าบังอาจท้าทายอำนาจศาลหรือขัดหมายศาลซึ่งทำการในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์

การที่ป.ป.ช.ขัดหมายศาลไม่ยอมปฏิบัติ เป็นการทำลายความยุติธรรมด้วย และเป็นการแสดงความบังอาจท้าทายอำนาจศาลยุติธรรมซึ่งทำการในพระปรมาภิไธยมพระมหากษัตริย์ด้วย และข้อสำคัญคือ ขัดขวาง การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในการตรวจสอบทรัพย์สินด้วย ตนเองไม่มีทางเลือกจึงจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ในการท้าทายอำนาจศาลตามกฎหมายต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป.ป.ช.รอตรวจสอบ ปมบ้านหรู 'บิ๊กต่อ' ส่วนคดี 'บิ๊กโจ๊ก' รอสำนวนครบแล้วทำพร้อมกัน

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงกรณีตรวจสอบทรัพย์สินบ้านหรู ที่ประเทศอังกฤษ ของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจ

เลขาฯ ป.ป.ช. แจงปมชี้มูล 'ชาญ พวงเพ็ชร์' ทุจริตซื้อถุงยังชีพ

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ชนะการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อปจ.) ปทุมธานี

มท.1 โยนเผือกร้อน สั่ง 'ลุงชาญ' หยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้รอฟัง 'กฤษฎีกา-ศาล'

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย สัมภาษณ์กรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ซึ่งชนะการเลือกตั้ง แต่มีคดีค้างเก่าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

‘ปธ.กมธ.สิทธิฯ’ ทิ้งทวน ยื่น ‘ป.ป.ช.’ สอบ ‘ราชทัณฑ์-ยธ.’ เอื้อ ‘ทักษิณ’ อยู่นอกคุก

‘สมชาย’ สวมหมวก ปธ.กมธ.สิทธิฯ ทิ้งทวนทำหน้าที่ ยื่น ‘ป.ป.ช.’ สอบ ‘จนท.ราชทัณฑ์-ยธ.’ ส่อปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ขัดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ปมเอื้อ ‘ทักษิณ’ อยู่นอกคุก

ป.ป.ช. แจงอุทธรณ์ คดีศาลยกฟ้อง 'อดีตผู้บริหารวิทยาลัยพลศึกษาชลบุรี'

'เลขาฯ ป.ป.ช.' แจงคดีศาลยกฟ้อง 'อดีตผู้บริหารวิทยาลัยพลศึกษาชลบุรี' ได้ชี้มูลผิดอาญาโดยอิสระ ยึดพยานหลักฐานตามกฎหมายปราศจากอคติ

ป.ป.ช. ฟันอาญา-ผิดวินัยร้ายแรง 'ดร.อานนท์' อดีตผอ. GISTDA เอารถหลวงไปใช้ส่วนตัว

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยี อวกาศและภูมิสารสนเทศ