'จตุพร' แฉคณะทำดีล 'นรกลังกาวี' หักหลังกันเอง พาไปสู่การล้มกระดานอีกรอบ

ที่พูดเรื่องนี้ทั้งหมดซ้ำๆ เพราะโครงการที่มีประโยชน์มหาศาลนั้นกำลังจะบังเกิดขึ้น โดยสร้างความเสียหายให้บ้านเมืองในอนาคต แล้วคนมีหน้าที่ทำการดีลจะไปปลิกวิเวกได้อย่างไรกัน และท้ายที่สุดถ้าพวกดีลหักหลังกันเองจนนำพาไปสู่การล้มกระดานกันอีกรอบ

7 พ.ค.2567- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์โดยเรียกร้องให้คณะทำดีลนรกลังกาวีที่มุ่งสนองตัณหาการเมืองของคนได้กลับบ้านอย่างเท่ๆ แต่กลับสร้างหายนะให้บ้านเมือง ดังนั้น คนเหล่านี้จึงต้องรีบแก้ปัญหาเพื่อสกัดกั้นการล้มกระดานที่กำลังอึดอัดจดจ่อจะเกิดขึ้นอีกครั้ง

ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ บอกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วิจารณ์ได้นั้น นายจตุพร กล่าวว่า ไม่มีใครปฏิเสธคำพูดนี้ แต่ปัญหาคือ วิจารณ์อย่างไร เพราะที่ผ่านมาสมัยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ควบ รมว.คลัง เคยชี้แจง ธปท.กรณีมีความเห็นแตกต่างกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตให้กระจ่างเป็นข้อๆ อย่างรัฐบาลที่มีวุฒิภาวะหรือไม่ อีกอย่างเคยชี้แจงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ที่แนะนำการแจกเงินหรือไม่ด้วย ดังนั้น เมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศคิดใหญ่ทำเป็นแล้ว ทำไมไม่ใช้หลักการในการตอบคำถามหรือชี้แจงข้อกล่าวหาการแจกเงินดิจิทัลเลย

สำหรับอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อธิบายโดยใช้สคริปท์ว่า ธปท.เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศนั้น มันคนละความหมายของการวิจารณ์ตามเนื้อผ้า จึงทำให้ประชาชนไม่สบายใจออกมาปกป้องผู้ว่า ธปท. อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลสามารถปลดผู้ว่า ธปท.ได้ แต่คนใหม่เข้ามาต้องยืนยันหลักการเช่นนี้เหมือนกัน เพื่อป้องกันบ้านเมืองไม่ให้พังทลายพินาศย่อยยับจากอำนาจการเมือง

อีกทั้งย้ำว่า ถ้าต้องการแก้กฎหมาย ไม่ให้ ธปท.เป็นอิสระแล้ว แม้นายกฯ ปฏิเสธไม่คิดจะทำแล้ว แต่อนาคตไม่รู้ได้ หากทำจริงลองปลดผู้ว่า ธปท.ดู จะได้รู้ว่า บ้านเมืองนี้จะทำอะไรง่ายๆ กันถึงขนาดนี้ได้อย่างไร อีกอย่างถ้ามีไฟเขียวเปิดโล่งจริง ทำไมดิจิทัลวอลเล็ตจึงทำได้ยาก เลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนสัญญาไปแจกในไตรมาส 4 ปี 2567

นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ประชาชนเห็นตำตาว่า ดิจิทัลวอลเล็ตกำลังจะสร้างวิกฤตให้ประเทศ เพราะการแจกเงินหมื่นบาทให้คน 50 ล้านคนไปซื้อสินค้าที่มีต้นทุนการผลิตเพียง 3,500 บาทเท่านั้น ถ้าใช้เงิน 5 แสนล้านมาแจก ย่อมมีต้นทุนการผลิตสินค้าเพียง 1.75 แสนล้าน จึงมีผลต่าง 3.25 แสนล้านเมื่อบวกค่าบริหารจัดการอีกหนึ่งแสนล้านรวมใช้เงินกับโครงการดิจิทัลทั้งสิน 6 แสนล้าน

อย่างไรก็ตาม เมื่อโครงการดิจิทัลเริ่มต้นด้วยเงินเป็นหนี้ 6 แสนล้านผ่านการใช้งบประมาณ 2567-2568 และดึงเงินจาก ธกส.กว่า 1.7 แสนล้านมาสมทบอีก ดังนั้น การใช้หนี้งบประมาณ ซึ่งเป็นหนี้แผ่นดินกว่าจะหมดก็ใช้เวลานาน เพราะต้องบวกดอกเบี้ยอีกอย่างน้่อย 3 เท่าของเงินหนี้ 6 แสนล้านเท่ากับประชาชนต้องแบกหนี้ถึง 1.8 ล้านล้านบาท แล้วได้มูลค่าสินค้าการผลิตจริงเพียง 1.75 แสนล้านแบบนี้ประเทศไม่พินาศได้อย่างไร

“ทักษิณ ชินวัตร เคยบอกว่า การแก้ปัญหาด้วยการแจกเงินเป็นวิธีปัญญาอ่อน แล้วบ้านเมืองจะปกครองด้วยระบบปัญญาอ่อนอย่างนี้ได้อย่างไรกัน ยิ่งออกแบบมาให้เป็นเงินดิจิทัลยิ่งน่าสงสัยไปใหญ่ เพราะประชาชนไม่มีอะไรต้องใช้จ่ายผ่านเงินดิจิทัลมาซื้อสินค้าในเวลา 6 เดือนเลย แต่หลังจากนั้นเป็นกลไกอื่นที่จะเปลี่ยนเป็นดิจิทัลถึงปี 2570 ตรรกง่ายๆ แบบนี้ไม่ต้องใช้ความรู้เลย แล้วจะหมุนเศรษฐกิจ 4-5 รอบได้อย่างไร มันก็หมุนวงรอบในเข่งการผลิตสินค้า 1.75 แสนล้านของนายทุนเท่านั้น”

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าประชาชนใช้เงินซื้อสินค้าเพียง 1.75 แสนล้านบาทแล้ว ก็ควรกู้เป็นหนี้เพียง 1.75 แสนล้านคงน่าพอเพียง ไม่จำเป็นต้องเป็นหนี้ถึง 6 แสนล้านแล้วต้องใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ยถึง 1.8 ล้านล้าน ซึ่งเราจะปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ได้อย่างนั้นหรือ?

อีกทั้งกล่าวว่า รัฐบาลเพื่อไทยรู้ได้อย่างไรว่าจะเจียดแบ่งเงินงบประมาณ 2567 มาใช้ในโครงการดิจิทัลกว่า 1.7 แสนล้าน เมื่อยังไม่ได้ใช้งบประมาณสักบาท และแจ้งต่อสภาได้อย่างไร ดังนั้น สิ่งนี้จึงเป็นการโกหก ไม่แตกต่างจากการชี้แจงกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าจะทำให้เกิดรายได้มากขึ้น เก็บภาษีได้เพิ่ม ไม่กู้เงินมาแจก จึงเป็นสิ่งเหลวไหลเท่ากับเป็นการกหลอกลวงโดยไตร่ตรองไว้ก่อนทั้งนั้น

ส่วนการดีลนรกลังกาวีนั้น นายจตุพร กล่าวว่า มีการฝากมาบอกว่า บิ๊กแดง- พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์อดีต ผบ.ทบ.ไม่เกี่ยวข้องกับบิ๊กแดงแฟนเพจ ซึ่งตนไม่เชื่อ ถ้าเพจนี้ไม่เกี่ยวจริงบิ๊กแดงต้องไปบอกบิ๊กแดงแฟนเพจจะง่ายกว่า ไม่ต้องมาบอกตน

“อย่างไรก็ตาม คณะดีลนรกเมื่อปลุกผีตนนี้ขึ้นมาแล้ว จึงเป็นหน้าที่ต้องจัดการ ไม่ใช่หนีไปปลีกวิเวกหรือออกธุดงค์ ดังนั้น คนที่ต้องแก้ปัญหาดีลนรก ต้องเป็นพวกที่ทำดีลนรกนี้ขึ้นมาย่ำยีบ้านเมืองจนเสียหายวายป่วง”

นายจตตุพร กล่าวว่า การตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว หักหลังประชาชนที่เคยสัญญาไว้ช่วงหาเสียงจะปิดสวิตซ์ สว. ปิดสวิตซ์ 3 ป. แล้วมาบอกการตัดสินใจตั้งรัฐบาลกับพวก รปห.เมื่อ 10 เดือนที่แล้วเป็นสิ่งถูกต้อง ซึ่งทางการเมืองเท่ากับยอมรับการตระบัดสัตย์เป็นสิ่งถูกต้องเช่นกัน เพราะทรยศกับคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ดังนั้น การเมืองจึงเดินมาถึงจุดลอยหน้าลอยตาพูดหยามเหยียดประชาชนที่พรรคเพื่อไทยสัญญาขอคะแนนเสียงได้อย่างไรกัน

“รปห.อย่าคิดว่าจะไม่เกิด ถ้าจะเอาประชาชนเป็นหลังพิงแล้วจะเอามาจากไหน แต่สิ่งที่ตนกำลังบอกคือ การดีลที่มีปัญหา และไม่อยู่กับร่องกับรอย แล้วอ้างไฟเขียวเท่ากับสร้างความเสียหายให้ชาติบ้านเมือง”

พร้อมย้ำว่า ยิ่งมาทำเหมือนพระบรมราชโองการฯ ไม่มีความหมาย และทำลายกระบวนการยุติธรรม แล้วดันทุรังทำให้เศรษฐพังพินาศด้วยดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งประเทศนี้เราต้องแลกอะไรอีกสักกี่อย่าง เพื่อสนองตัณหาทางการเมืองที่ต้องการกลับประทศไทยอย่างเท่ๆ ดังนั้น คนมีหน้าที่การดีลต้องจัดการปัญหาก่อนเกิดหายนะวายวอด

นายจตุพร กล่าวว่า ในวันข้างหน้าใครจะได้ประโยชน์จากเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ คาสิโน และหากโครงการนี้จะทำต้องมีภูมิต้านทานให้ประชาชนและประเทศต้องได้ประโยชน์ด้วย ไม่ใช่บางคนที่เอาแต่เดินๆ ในพื้นที่จังหวัดเป้าหมายเพื่อคิดแต่จะหาประโยชน์เท่านั้น ดังนั้นการตั้งโครงการนี้ขึ้นมาด้วยเงินนอกงบประมาณ จึงต้องตรวจสอบกันได้ เพราะมีผลประโยชน์มโหฬาร นอกจากนี้ยังมีเรื่องโครงการแลนด์บริดจ์ที่จะทำให้เกิดรัฐซ้อนรัฐเพื่อสูบผลประโยชน์ทับซ้อน

“ที่พูดเรื่องนี้ทั้งหมดซ้ำๆ เพราะโครงการที่มีประโยชน์มหาศาลนั้นกำลังจะบังเกิดขึ้น โดยสร้างความเสียหายให้บ้านเมืองในอนาคต แล้วคนมีหน้าที่ทำการดีลจะไปปลิกวิเวกได้อย่างไรกัน และท้ายที่สุดถ้าพวกดีลหักหลังกันเองจนนำพาไปสู่การล้มกระดานกันอีกรอบ ซึ่งประชาชนไม่ควรต้องมาเจอสภาพแบบนี้และยังไม่มีภูมิต้านทานก็ยิ่งซ้ำเติมชีวิตย่ำแย่อีก ดังนั้น ใครมีหน้าที่ให้เกิดดีลนรกต้องแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งวันที่ 29 พ.ค.นี้อัยการจะว่าอย่างไร คงจะเป็นคำตอบทางการเมืองได้ ว่าจะเห็นหัวประชาชนหรือไม่”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปูดรัฐบาลเหิมเกริมสั่งสื่อทีวีปิดปาก 'จตุพร' แลกผลประโยชน์ ปลุกปชช.ลุกขึ้นเปลี่ยนแปลง

ปูดรัฐบาลเหิมเกริม สั่งสื่อทีวีปิดปาก 'จตุพร' แลกผลประโยชน์ หวั่นขุดความจริงประจาน ทำ ปชช.รู้ทัน จตุพร ลั่นพูดสื่อไม่ได้ต้องไปพูดผ่านเครื่องกระจายเสียง 'ทนายนกเขา' ปลอบ ปชช.เลิกสิ้นหวังกับตนเอง กระตุ้นลุกขึ้นเปลี่ยนแปลง อย่าจมจ่อมกับแสดงพลังชุมนุม แนะแต่ละคนลงถนนแสดงฉันทามติ เชื่อเป็นพลังใหญ่ได้

'อดีตนักธุรกิจอสังหา' คิดใหญ่ตาม ดีเอ็นเอปล่อยกู้พม่า เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน

'จตุพร' ย้ำอดีตนักธุรกิจอสังหา ได้เวลาเป็นนายกฯ คิดใหญ่ตามดีเอ็นเอปล่อยกู้พม่ามาซื้อสินค้าอดีตนายกฯ ซัดกล้าคิดเชิงผลประโยชน์ทับซ้อน ถามคนไทยพร้อมวัดใจลุกขึ้นมาจัดการหรือยัง?

‘จตุพร’ ซัด ‘เศรษฐา’ เลอะเทอะเสนอขายคอนโด 75% ให้ต่างชาติ ชี้กระทบมั่นคงประเทศ

‘จตุพร’ตอก’เศรษฐา’ ไอเดียเลอะเทอะเสนอขายคอนโด 75% อยู่นาน 99 ปี ซัดกระทบมั่นคงประเทศ ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่อเป็นอาณานิคมจำแลงย้อนยุค ถามใครได้ประโยชน์ ติงทบทวนอาชีพนักธุรกิจอสังหาก่อนเป็นนายกฯ หวังสังคมติเตียน

'จตุพร' ชี้ปมอัยการไม่ค้านประกันตัวคดี 112 ไม่มีใครหยุดอหังการ 'ทักษิณ' ได้

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า อัยการสูงสุดไม่คัดค้านการประกันตัวของทักษิณ ชินวัตร คดี ม.112 จึงเป็นสิ่งน่ากังวลของบ้านเมือง เพราะไร้หลักการยึดถือเป็นแบบอย่างในคดีแบบเดียวกัน

สู้หรือเผ่น! ‘จตุพร’ หยัน ‘ทักษิณ’ อย่าตาขาว อ้างป่วย เบี้ยวนัดอัยการส่งฟ้อง112

‘จตุพร’ แนะทักษิณ เหลืออีก 3 วันต้องไปศาลคดี ม.112 ให้ทบทวนสถานการณ์ด้วยเกียรติยศ ให้ใช้ตาดำมากกว่าตาขาว อย่าจมจ่อมกับคิดเผ่นหนีอีกรอบ ฟาดปากกล้าด่าต้นไม้พิษ ซัดควรไปศาลฟังคำวินิจฉัยให้ประกันตัวหรือไม่ด้วยตัวเอง