‘สังศิต’ ระบุพฤติการณ์คนในรัฐบาล เข้าข่ายแทรกแซงแบงก์ชาติ ยันสถานการณ์ไม่เข้าข่ายปลด ’เศรษฐพุฒิ’ ได้
6 พ.ค.2567-นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบ.ธนาคารแห่งประเทศไทยพ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นกฎหมายธปท.ที่ใช้ในปัจจุบัน ที่ออกมาในสมัยรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งเป็นกฎหมายธปท.ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมหลายเรื่องโดยเฉพาะการทำให้การปลดผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ทำได้ยากขึ้นกว่าในอดีต
โดยนายสังศิต กล่าวว่า กฎหมายธปท.พ.ศ. 2551 ดังกล่าว ตอนที่มีการยกร่างขึ้นมา ทางผู้ยกร่างกฎหมายต้องการแยกอำนาจของฝ่ายการเมืองออกจากแบงก์ชาติ เพื่อให้แบงก์ชาติมีความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายทางการเงิน แล้วให้รมว.คลัง ไปรับผิดชอบเรื่องทางการคลังไป ที่เป็นหลักการที่ประเทศในโลกเสรีใช้กันและเป็นที่ยอมรับกันทั้งโลก คือแยกให้ธนาคารกลางดูแลเรื่องการเงิน ส่วนรมว.คลังก็รับผิดชอบเรื่องการคลัง ทางกรรมาธิการยกร่างพรบ.ธปท. จึงเขียนกฎหมายเพื่อไม่ให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซงนโยบายการเงิน
นอกจากนี้ ในการเขียนกฎหมายดังกล่าว ก็ได้มีการปรับปรุงแก้ไขเรื่อง การตั้งผู้ว่าฯธปท.ใหม่ จากในอดีต รัฐบาลสามารถเอาคนของกระทรวงการคลังมาเป็นผู้ว่าฯแบงก์ชาติได้เลย ก็มีการแก้ไขเป็นรัฐมนตรีต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาคัดเลือก รวมถึงการแก้ไขเรื่องการให้ผู้ว่าฯธปท.พ้นจากตำแหน่ง ที่มีการแก้ไขเพื่อให้ทำได้ยากขึ้น
“เมื่อก่อน รัฐบาลมีอำนาจเหนือผู้ว่าฯแบงก์ชาติ และเกือบจะเป็นประเพณีปฏิบัติ ที่ฝ่ายการเมืองจะสามารถแทรกแซงแบงก์ชาติได้ ตอนที่มีการยกร่างกฎหมายธปท. ทางคณะผู้ยกร่างก็เห็นว่า ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป โอกาสที่แบงก์ชาติจะถูกแทรกแซงก็จะเกิดขึ้นได้ง่าย ซึ่งหัวใจสำคัญของกฎหมายธปท.ปัจจุบันคือทำให้ฝ่ายการเมืองแทรกแซงแบงก์ชาติยาก ไม่ให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซงนโยบายการเงินของประเทศได้ง่ายๆ ไม่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลจะแทรกแซงได้ตลอด หากรัฐบาลไม่พอใจ ก็เปลี่ยนตัวผู้ว่าฯแบงก์ชาติเลย แต่ว่าตัวผู้ว่าฯธปท.ที่เข้ามาทำงานเอง ก็ต้องมีความสามารถ มีการบริหารงานที่โปร่งใส มีความน่าเชื่อถือ ทำงานโดยสุจริต โดยหากมีพฤติการณ์ไม่สุจริต กฎหมายก็เปิดช่องให้บอร์ดธปท.ลงโทษผู้ว่าฯธปท.ได้ “
ถามถึงกรณี ขณะนี้คนในรัฐบาลปัจจุบันหลายคน ออกมาให้สัมภาษณ์กดดันให้ ธปท.และคณะกรรมการนโยบายการเงิน เพื่อให้มีการลดดอกเบี้ยนโยบาย นายสังศิตกล่าวว่า ก็เป็นการแทรกแซง หากเป็นสมัยก่อน เขาปลดผู้ว่าฯแบงก์ชาติได้แล้ว หากสั่งแล้วไม่ฟัง เขาปลดผู้ว่าฯเลย แล้วก็ส่งคนของเขาไปนั่งแทน อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายทางการเงินของแบงก์ชาติเป็นเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ไม่สามารถใช้อำนาจไปแทรกแซงได้ แต่การกล่าวอ้างว่า การที่รัฐบาลไปเปลี่ยนแปลงนโยบายของผู้ว่าฯธปท.ไม่ได้ และทำให้มีผลกระทบทางเศรษฐกิจ ทั้งที่เรื่องทางเศรษฐกิจมีตั้งเป็นร้อยเรื่อง ไม่ใช่มีเรื่องนี้เรื่องเดียว แต่มันเป็นเรื่องที่เขาขัดใจ ก็เลยไม่ได้ดั่งใจเท่านั้นเอง
“แต่หากจะเอาเรื่องนี้มาอ้างเหตุในการปลดผู้ว่าฯธปท.ตอนนี้คงทำไม่ได้ ก็ต้องเคารพกฎหมาย คือวิจารณ์ได้ แต่ขอให้อยู่บนหลักวิชาการ เพราะผู้ว่าฯธปท.เอง ก็แตะต้องได้ หากเห็นว่านโยบายที่เขาทำมันไม่เหมาะสม ก็ถกเถียงกันในทางวิชาการ ทำแบบนี้จะเป็นประโยชน์กับประเทศมากกว่า “
อนึ่ง พ.ร.บ.ธปท.พ.ศ. 2551 ที่ใช้ในปัจจุบัน บัญญัติถึงกรณี หากจะมีการปลดผู้ว่าฯธปท.ให้พ้นจากตำแหน่ง จะอยู่ในส่วนของ มาตรา 28/19 ที่จะทำได้สองกรณี โดยอยู่ใน (4) คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกโดยคําแนะนําของรัฐมนตรี เพราะมีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงหรือทุจริตต่อหน้าที่ (5) คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกโดยคําแนะนําของรัฐมนตรีหรือการเสนอของรัฐมนตรี โดยคําแนะนําของคณะกรรมการ ธปท. เพราะบกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง หรือหย่อนความสามารถ โดยมติดังกล่าวต้องแสดงเหตุผลในการให้ออกอย่างชัดแจ้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ศิริกัญญา' ชี้อดีตไล่ล่า 'กิตติรัตน์' สังคมกังวลนั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงการสรรหาประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศ
'ภูมิธรรม' เมินเสียงต้าน 'กิตติรัตน์' นั่งประธานบอร์ด ธปท. ไม่ขาดคุณสมบัติก็เป็นได้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสต้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.คลัง สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั่งตำแหน่งประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะเกรงว่าการเมืองจะเข้ามาแทรกการทำงานของธปท
'หมอวรงค์' จับโป๊ะ! ยิ่งฟังรัฐบาลแจง ยิ่งต้องรีบยกเลิก 'MOU 44'
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ยิ่งฟังคำชี้แจงต้องยิ่งยกเลิก MOU 44
'นายกฯอิ๊งค์' ถกหัวหน้าส่วนราชการ ลุยลงทุน 9.6 แสนล้าน กระตุ้นจีดีพีประเทศ
นายกฯ ถกหัวหน้าส่วนราชการฯ กำชับผลักดันเม็ดเงินลงทุน 9.6 แสนล้าน สู่ระบบเศรษฐกิจ กระตุ้น ‘จีดีพี’ ประเทศ
คปท.-ศปปส.-กองทัพธรรม ยื่นหนังสือค้านกระบวนการคัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติ
กลุ่มมวลชน ซึ่งเป็นตัวแทนจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม