25 เม.ย.2567 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า #เศรษฐาซื้อเวลาเงินหมื่นสุดท้ายทำไม่ได้ แปลกใจไหมครับ ทำไมวันที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯแถลงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จึงมีบทสรุปแค่ครม.เห็นชอบหลักการของโครงนี้ แต่ยังไม่ใช่อนุมัติโครงการ แถมนายเศรษฐายังกล่าวทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า "ส่วนข้อห่วงใยใดๆเช่นประเด็นอำนาจหน้าที่ของ ธกส. ได้สั่งการหากมีประเด็นข้อสงสัยใดๆให้ส่งเรื่องไปสอบถามยังกฤษฎีกา"
ทำไมรัฐบาลจะทำโครงการใหญ่ขนาดนี้ ระดับนายกฯลงมาแถลงเองเป็นครั้งที่สาม ยังไม่มีความชัดเจน ไม่ปรึกษากฤษฎีกาให้เรียบร้อยก่อนที่จะมาแถลง โดยเฉพาะประเด็นการใช้เงินของธกส.ตามมาตรา 28 ของพรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561
ผมคิดว่านายเศรษฐาคงซื้อเวลา และสุดท้ายโครงการทำไม่ได้ หรืออาจต้องลดขนาด เพราะผมได้คุยกับ "อดีตคนธกส." ที่มีส่วนร่วมแก้ไขมาตรา 9 ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ของธกส. ได้ข้อสรุปชัดเจนว่า "ไม่สามารถเอาเงินธกส.ไปแจกได้"
ท่านผู้นี้จึงได้เขียนคำอธิบาย ว่าทำไมทำไม่ได้มาให้ผมช่วยเผยแพร่ ให้ประชาชนเข้าใจขอบวัตถุประสงค์ ธกส. กำหนดไว้ใน พรบ. ธกส. มาตรา 9 มี 4 ข้อคือ มาตรา 9 (1) (2) (3) และ (4) ที่ผ่าน มา ธกส.ดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นนโยบายจากภาครัฐหลายโครงการที่สำคัญๆคือ
1. โครงการรับจำนำข้าวธกส.ดำเนินการภายใต้ขอบวัตถุประสงค์มาตรา9(1) ข้อ(ก)…..ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกรสำหรับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม….
2. โครงการประกันรายได้ ธกส. ดำเนินการภายใต้ขอบวัตถุประสงค์มาตรา9(1)ข้อ(ง) ….ดำเนินกิจการตามโครงการที่เป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนการ ประกอบเกษตรกรรม..เพื่อเพิ่มรายได้…
3. โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผู้ปลูกข้าว(จ่ายไร่ละ 1000 บาทสูงสุดไม่เกินคนละ 20 ไร่) ธกส. ดำเนินการ ภายใต้ขอบวัตถุประสงค์มาตรา9(1)ข้อ(ง)…ดำเนินกิจการตามโครงการที่เป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนการประกอบเกษตรกรรม…เพื่อเพิ่มรายได้…
สำหรับโครงการดิจิตอล Wallet จ่ายคนละ 10,000 บาทรายที่เป็นเกษตรกรมอบหมายให้ ธกส. ดำเนินการตามพรบ. วินัยการเงินการคลังมาตรา 28 ….ซึ่งให้กระทำได้เฉพาะกรณีที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจตามกฏหมายและอยู่ภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์ของหน่วยงานของรัฐนั้น…..
ตามมาตรา9(1) ข้อ(ง)โครงการดิจิตอล Wallet จ่ายคนละ 10,000 บาทไม่อยู่ในขอบวัตถุประสงค์ข้อนี้ ดังนี้:-
(1) ไม่ได้เป็นโครงการที่ส่งเสริมหรือสนับสนุนการประกอบเกษตรกรรมเพราะโครงการมีวัตถุประสงค์กระตุ้นเศรษฐกิจ เกษตรกรผู้รับเงิน 10,000 บาทนำไปใช้จ่ายดำรงชีวิตทั่วไป ไม่ได้นำไปประกอบอาชีพเกษตรกรรมอย่างชัดเจน
(2)ไม่ได้เป็นโครงการที่ส่งเสริมหรือสนับสนุนการประกอบเกษตรกรรมเพื่อเพิ่มรายได้….เพราะเกษตรกรผู้รับเงิน 10,000 บาทสามารถนำใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องการประกอบอาชีพจึงไม่เป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนการประกอบกิจการเพื่อเพิ่มรายได้
(3)ไม่ได้เป็นโครงการที่ส่งเสริมหรือสนับสนุนการประกอบเกษตรกรรมเพื่อเพิ่มรายได้หรือพัฒนาคุณภาพชีวิต…เพราะ การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามกฎกระทรวง ท้ายมาตรา9 ขยายความมาตราเก้า(1)ข้อ(ง) นี้จะต้องเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เกี่ยวกับการการศึกษา,การอบรม,การดูงาน,การรักษาพยาบาล,การปรับปรุงการจัดหาที่อยู่อาศัยเท่านั้น
สำหรับวัตถุประสงค์ ของธกส. ตามมาตรา9(3) นั้นเนื่องจาก มาตรานี้เป็นมาตราที่มีการเพิ่มเติม เพื่อขยายวัตถุประสงค์ของ ธกส. ใน ปีพ.ศ. 2549 (ธกส.จัดตั้งปี 2509) โดยสภาฯ เห็นชอบให้ ธกส. ขยายบทบาทจากการให้ความช่วยเหลือจากเดิม ได้เฉพาะเกษตรกรตามมาตรา9(1) ให้สามารถให้ความช่วยเหลือทางการเงินและการบริหารจัดการไปยังกลุ่มอื่นๆ ..ได้แก่..บุคคลกลุ่มบุคคล ผู้ประกอบการ กองทุนหมู่บ้านหรือชุมชน..ทั้งนี้ เพื่อให้ธกส. สามารถ ให้ ความช่วยเหลือเกษตรกร..ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่สินค้าเกษตร ตั้งแต่ การผลิต การแปรรูป การตลาด…
ดังนั้น การพิจารณา การดำเนิน โครงการดิจิตอล Wallet จ่าย10,000 บาท แก่ เกษตรกร ว่าอยู่ ในขอบวัตถุประสงค์ของ ธกส. หรือไม่นั้น จึงให้พิจารณา ขอบวัตถุประสงค์ ธกส. ในมาตรา9(1) ที่เป็น วัตถุประสงค์หลักในการให้ความช่วยเหลือ เกษตรกร
ส่วน มาตรา9(3) เป็นวัตถุประสงค์สำหรับกลุ่มอื่น ..ได้แก่…บุคคล กลุ่มบุคคล ผู้ประกอบการ กองทุนหมู่บ้านหรือชุมชน..(บุคคลหมายถึง คนที่ประกอบอาชีพ ที่ไม่ใช่เกษตรกร ก็ได้ )โดยมีการระบุ เจตนารมณ์ การเพิ่มเติมมาตรานี้ ไว้ อย่างชัดเจน ในเอกสารประกอบ การขอแก้ไข พรบ. ธกส. ปี 2549 เอกสารการบันทึก การอภิปราย ในสภาฯ
รวมทั้ง ได้มีการออกกฎกระทรวง ปี 2550 มารองรับ อย่างชัดเจนเพื่อให้เป็นไป เจตนารมณ์ ของสภาฯ ว่า ……การให้กู้ กับกลุ่มอื่น …ตามมาตรา9(3) นี้ ต้องไม่เกิน ร้อยละ20 ของยอดเงินกู้ที่จ่าย ทั้งหมด ในรอบปีบัญชี (ต้องเป็นเงินกู้ไม่ใช่แจกเงิน)
นอกจาก มาตรา9(3) มีการเขียนคำว่า…..สถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาชนบท….ไว้ ซึ่งมีความหมายให้ธกส. ให้ความช่วยเหลือกลุ่มอื่นๆได้นอกเหนือจากเกษตรกรที่ระบุในขอบวัตถุประสงค์ไว้แล้วในมาตรา9(1) ยังมีคำว่า….การส่งเสริมชุมชนให้มีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจ…..จะถูกระบุรายละเอียดไว้ในกฎกระทรวงปี 2550 ข้อ6(2) ..ส่วนการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน…ก็ถูกระบุรายละเอียด ไว้ในกฎกระทรวงปี 2550 ข้อ6(3)..
-ยกตัวอย่าง…โครงการที่ธกส. สนับสนุน ตามกฎกระทรวง ข้างต้น เช่น ชุมชน ก. ขอสินเชื่อ ธกส. ไปดำเนินการจัดหาน้ำดื่มสะอาดให้กับคนในชุมชน…ซึ่งเป็นการจัดหาปัจจัยที่จำเป็นในการดำรงชีวิตให้กับชุมชน….
หรือชุมชน ข. ขอสินเชื่อ ธกส. ไปจัดหา ปรับปรุงบ้านพักผู้สูงอายุ..ซึ่งเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐาน…
-ทั้ง2 กรณี เป็นไปตามกฎกระทรวงปี 2550 ข้อ6(3) ข้อ(ข)และ(ง)
สรุปอีกครั้ง ว่าการพิจารณา การดำเนิน โครงการดิจิตอล Wallet จ่าย10,000 บาท แก่ เกษตรกร ว่าอยู่ ในขอบวัตถุประสงค์ของ ธกส. หรือไม่นั้น ให้พิจารณา ขอบวัตถุประสงค์ ธกส. ในมาตรา9(1) ที่เป็น วัตถุประสงค์หลักในการให้ความช่วยเหลือ เกษตรกร
ซึ่ง โครงการดิจิตอล Wallet จ่ายคนละ 10,000 บาทไม่อยู่ในขอบวัตถุประสงค์ข้อนี้ รวมทั้ง ข้ออื่นๆ ในมาตรา 9 ตลอดจน ไม่อยู่ในอำนาจให้กระทำได้ ตามมาตรา10 แต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สุริยะใส' เขย่า 'แจกเงินหมื่น' หอกทิ่มแทง วัดใจจุดเปลี่ยนรัฐบาลแพทองธาร
“สุริยะใส” ชี้จุดสลบใหญ่เรื่องเศรษฐกิจ นโยบายเรือธงอย่างดิจิทัล แจกเงินหมื่นเป็นหอกทิ่มแทง วัดใจจุดเปลี่ยนของรัฐบาลแพทองธาร
บี้ MOU44 เดือด ‘นพดล’ เกทับ! จบออกซ์ฟอร์ด
ปะทะคารมเดือด! “นพดล” โต้ “หมอวรงค์” หาความรู้เรื่องเอ็มโอยู 44 ให้ลึกซึ้ง โต้คนอย่างตนไม่ตอบมั่วๆ เพราะจบกฎหมายจากออกซ์ฟอร์ดและจบเนติบัณฑิตไทยและเนติบัณฑิตอังกฤษ
'หมอวรงค์' โต้ยิบ! 'นพดล' ช่วยใช้สติอ่าน MOU 44 อย่าเอาแต่พูดวนเวียนซ้ำซากแบบอุ๊งอิ๊ง
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า ถึงนายนพดล ปัทมะ อีกครั้งช่วยใช้สติอ่านด้วยหมอจะสอนกฏหมายคุณ
'นพดล' หยัน 'หมอวรงค์' ศึกษา MOU 44 ให้ลึกซึ้งค่อยมาโต้กัน ย้ำไทยไม่ยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา
นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการที่นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ตอบโต้ว่านายนพดลตอบมั่วๆเรื่องที่ว่าไทยไม่เคยยอมเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา และหมอวรงค์อ้างแผนผังแนบท้ายเอ็มโอยู 44 ว่าเป็นหลักฐานว่าไทยยอมรับเส้นของกัมพูชา
'นิพนธ์' ซัดรัฐบาลแจกเงินหมื่น เฟส 2 หวังผลการเมือง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายก อบจ. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนในระบบและยืนยันตัวตนแล้ว รวมกว่า 4 ล้านคน
ป้า 67 ป่วยหลายโรค หาบเร่ขายของเลี้ยงชีพ หวังได้เงินหมื่น เฟส 2 หวั่นตกหล่น บัตรคนจนก็ไม่มี
บุรีรัมย์ ป้า 67 ป่วยความดัน มีก้อนเนื้อที่คอ แต่ต้องหาบเร่ขายของเลี้ยงชีพและลูกพิการ หวังได้เงินหมื่น เฟสสอง มาแบ่งเบา