'ทบ.' เปิดแผนรับมือ สถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-เมียนมา

22 เม.ย. 2567 – รายงานข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เปิดเผยแนวทางการปฏิบัติในการรองรับสถานการณ์ความไม่สงบด้านเมียนมา กรณีการปะทะระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อย/กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมาอย่างต่อเนื่อง บริเวณ บ.เยปู่ อ.เมียวดี ในพื้นที่ตอนในฝั่งเมียนมา ห่างจากชายแดนไทย ระยะทางประมาณ 2 – 3 กิโลเมตร ใกล้พื้นที่สะพานมิตรภาพไทย – เมียนมา แห่งที่ 2 ด้านตรงข้าม บ.วังตะเคียนใต้ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก จนส่งผลให้ด่านพรมแดน สะพานมิตรภาพไทย – เมียนมา แห่งที่ 2 ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ต้องปิดทำการชั่วคราว

สำหรับการปฏิบัติภารกิจที่สำคัญของกองทัพบก โดยศูนย์สั่งการชายแดนไทย – เมียนมา จังหวัดตาก การดูแลด้านมนุษยธรรมแก่ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ที่เดินทางเข้ามายังฝั่งไทย ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จังหวัดตาก จำนวน 6 พื้นที่ จำนวน 3,027 คน คือ ท่าทรายรุจิรา, สำนักสงฆ์วังข่า, บ้านวังตะเคียนใต้, ท่าข้ามที่ 33 และ ท่าข้ามที่ 35 บ.วังตะเคียน ม.7 อ.แม่สอด และ บ.หนองหลวง อ.อุ้มผาง จ.ตาก

การเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดนไทย – เมียนมา ตลอด 24 ชั่วโมง ตามแผนเผชิญเหตุของกองกำลังป้องกันชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ด้านจังหวัดตาก แนวทางการปฏิบัติในการรองรับสถานการณ์ความไม่สงบด้านเมียนมา

ส่วนแนวทางการปฏิบัติกรณีประชาชน, ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) หรือผู้ที่มีการบาดเจ็บ เข้ามายังฝั่งไทย ประชาชน/ผภสม. เข้ามายังฝั่งไทย ศูนย์สั่งการชายแดนไทย – เมียนมา จังหวัดตาก, ฉก.ราชมนู กกล.นเรศวร และ อ.แม่สอด ได้เตรียมพื้นที่รองรับ ผภสม. ชาวต่างชาติ และราษฎรไทย ในขั้นต้นไว้ คือ ในพื้นที่รองรับชาวต่างชาติ ณ โรงแรม ภูอินทร์ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ,พื้นที่รองรับราษฎรไทย ณ, สนามกีฬา 5 อำเภอชายแดน และ ม.ราชภัฏกำแพงเพชร (สาขาแม่สอด) ต.แม่ปะ และโรงเรียนแม่ตาว ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ,พื้นที่รองรับ ผภสม. ปัจจุบันจัดพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวน 5 พื้นที่ คือ ท่าทรายรุจิรา, สำนักสงฆ์วังข่า, บ.วังตะเคียนใต้, ท่าข้ามที่ 33 และ ท่าข้ามที่ 35 บ.วังตะเคียน

สำหรับผู้ที่มีการบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือฝ่ายใด หากถูกส่งตัวมาเข้ารับการรักษาพยาบาล ยังฝั่งไทย ทางการไทยต้องให้การรักษาพยาบาลตามหลักสิทธิมนุษยชน ตามปกติ ดังเช่นที่เคยปฏิบัติมา แม้ว่าจะทำให้ทางการไทย ต้องสูญเสียงบประมาณเป็นจำนวนมาก ในการรักษาพยาบาล และเป็นการเพิ่มภาระบุคลากรทางการแพทย์ของไทย ไปโดยปริยาย อย่างไรก็ตาม ได้มีการเตรียม การสนับสนุนเพิ่มเติมไว้แล้ว

กรณีทหารเมียนมา เข้ามายังฝั่งไทย แนวทางการปฏิบัติลำดับแรก กกล.ป้องกันชายแดน จะดำเนินการปลดอาวุธทหารเมียนมาที่ข้ามแดนเข้ามา จากนั้นจะดำเนินการตรวจสอบ คัดกรอง ตามหลักสากล และแนวทางที่ กองทัพบก ยึดถือและปฏิบัติมา หลังจากนั้น จะนำทหารเมียนมาเข้าพื้นที่รองรับที่จัดเตรียมไว้ โดยจะให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมพื้นฐานในขั้นต้น ทั้งนี้ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว จะดำเนินการส่งกลับ ทหารเมียนมา (โดยความสมัครใจ) ให้กับทางการเมียนมาต่อไป

สำหรับพื้นที่รองรับที่จัดเตรียมไว้ แบ่งเป็น 2 พื้นที่ ดังนี้ ทหารเมียนมา ประเภทนายทหารสัญญาบัตร จัดพื้นที่รองรับไว้ ณ ฉก.ราชมนู กกล.นเรศวร ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ส่วนทหารเมียนมา ประเภทนายทหารประทวน จัดพื้นที่รองรับไว้ ที่ร้อย.ตชด.346 กกล.นเรศวร ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก

หากเป็นกรณี ทหารเมียนมาสู้รบปะทะกับ ชกน./กตต. และล้ำเข้ามายังฝั่งไทย กรณีมีการสู้รบล้ำเข้ามาในเขตไทย เช่น มีเครื่องบินรบ/เฮลิคอปเตอร์/อากาศยานไร้คนขับ ทิ้งระเบิด หรือมีกระสุนตกเข้ามายังฝั่งไทย แนวทางการปฏิบัติ ทาง ฉก.ราชมนู กกล.นเรศวร ได้วางกำลังตลอดแนวด้านตรงข้าม พื้นที่การสู้รบ ซึ่งสามารถส่งสัญญาณ หรือป้องปราม/ป้องกันการปฏิบัติการดังกล่าว จากเบาไปหาหนักได้ เช่น การยิงกระสุนควันเพื่อแจ้งเตือน เป็นต้น

โดยสถานการณ์ปัจจุบัน มีเพียงกระสุนปืนขนาดเล็ก (ปลย. เช่น AK – 47) ตกมายังฝั่งไทย ทำให้ทรัพย์สินของราษฎรไทยได้รับความเสียหายเล็กน้อย เช่น บ้านเรือน และรถยนต์ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต โดยทางการไทยจะมีมาตรการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นตามความเหมาะสมต่อไป

สำหรับการประเมินสถานการณ์ แนวโน้ม และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น (เพื่อติดตามผลกระทบต่อไทย) ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับไทยโดยตรง ไม่ว่าจะมีผลกระทบด้านการค้าชายแดน ศุลกากรแม่สอด สามารถจัดเก็บภาษี ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – เมียนมา แห่งที่ 2 ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เข้ารัฐได้เป็นจำนวนมากในแต่ละปี

โดยมีการค้าขายชายแดนระหว่างผู้ประกอบการชาวไทยกับผู้ประกอบการชาวเมียนมาปีละหลายแสนล้านบาท และไทย ได้เปรียบดุลการค้าปีละแสนกว่าล้านบาท นับว่าเป็นช่องทางการค้าชายแดนระหว่างประเทศด้านเมียนมา ที่ทำรายได้สูงสุดของไทย ดังนั้น การปิดด่านพรมแดนฯ จึงไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย

กรณีที่กองกำลังชนกลุ่มน้อยฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา สามารถยึดครองพื้นที่ ได้แบบเบ็ดเสร็จ ไทยอาจจะต้องปิดด่านพรมแดนฯ หลายแห่ง เนื่องจากฝั่งเมียนมาไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายปฏิบัติงานประจำอยู่ เช่น ตำรวจ ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านต่างๆ ต่อไปได้

สำหรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับไทยในอนาคต อาจทำให้มีผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายชาวเมียนมาลักลอบเข้ามายังฝั่งไทยเพิ่มมากขึ้น และอาจหลบหนีเข้าไปทำงานในพื้นที่ชั้นในของไทยเพิ่มมากขึ้นด้วยซึ่งจะส่งผลกระทบต่อไทย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และด้านสาธารณสุข เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม กองทัพบก และหน่วยงานในพื้นที่ ได้ร่วมกันเตรียมการและซักซ้อมการปฏิบัติในการรองรับสถานการณ์ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ก็ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ด้วยการเฝ้าตรวจและวางกำลังป้องกันตามแนวชายแดน ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งได้ประเมินสถานการณ์และได้ประสานการปฏิบัติร่วมกัน ระหว่าง กองกำลังป้องกันชายแดนของกองทัพบก กับหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาอธิปไตย และปกป้องความปลอดภัยของพี่น้องคนไทย โดยถือเป็นความสำคัญสูงสุด และขอให้ประชาชนชาวไทยมั่นใจว่ากองทัพจะไม่ยอมให้มีการละเมิดอธิปไตยของไทยโดยเด็ดขาด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผบ.ทบ. เซ็น แต่งตั้ง-โยกย้าย ผู้บังคับกองพันทั่วประเทศ 461 นาย

การแจกจ่ายคำสั่งกองทัพบกที่ 442/ 2567 โดยมี พ.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ลงนาม เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567 แต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับผู้บังคับกองพันทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 461 นาย

ผบ.ทบ. ถอด 'คอแดง' ใส่ชุดฝึก 'คอเขียว' หลังปรับโครงสร้างหน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904

พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก นำคณะผู้บังคับบัญชาของกองทัพบก เดินทางไปตรวจเยี่ยมติดตามการดำเนินงานของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ และศูนย์การบินทหารบก

ดิ้นหนัก! 'โรม' ชี้ 'พรรคประชาชนพม่า' เป็นเฟกนิวส์ ลั่นรักษาผลประโยชน์คนไทยมาตลอด

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน จัดแถลง Policy Watch ในเรื่องประเทศไทยควรทำอย่างไรกับปัญหาเมียนมา

19 เหยื่อค้ามนุษย์ วอนนายกฯช่วยด่วน ถูกกักขังทรมานอยู่ในแหล่งอาชญากรรมริมน้ำเมยฝั่งพม่า

ความคืบหน้ากรณีที่เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ (Civil Society Network for Victim Assistance in Human Trafficking) ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย และหน่วยงานต่างๆของไทย