'ชวน' คาดปี 65 จะมีกฎหมายเข้าสภามากขึ้น

“ชวน” คาด ปี 65 ก.ม.เข้าสภามากขึ้น แนะ รมต.มาตอบกระทู้ส.ส. ชี้แจงให้ปชช.ทราบความจริง ปัด ตอบอายุรัฐบาล ลั่น สภาฯไม่เป็นปัญหาของรบ.

2 ม.ค. 2565 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติในปี 65 ว่าช่วงที่ผ่านมากฎหมายของฝ่ายบริหารทุกฉบับผ่านไปได้ด้วยดี แต่ส่วนที่ยังค้างการพิจารณาอยู่ส่วนใหญ่เป็นญัตติทั่วไปประมาณ 200 ญัตติ และคิดว่าปีหน้าจะมีกฎหมายใหม่ๆเข้ามามากขึ้น ส่วนเรื่องที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว ถือเป็นผลงานของทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ซึ่งเรื่องเหล่านี้ควรจะผ่านการพิจารณา ถ้าไม่ผ่านเท่ากับผลงานไม่ออกมาเลย สำหรับเรื่องที่มีปัญหาบ้าง และแนะนำเป็นการภายใน เป็นเรื่องของการตั้งกระทู้ถาม ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมา ไม่มีสภาก็ไม่มีตัวอย่างในการตั้งกระทู้ ทำให้มีการตั้งกระทู้ลักษณะขัดต่อข้อบังคับ เพราะการตั้งกระทู้ไม่ใช่ลักษณะของการอภิปราย แต่เป็นการตั้งคำถามเพื่อต้องการคำตอบ ที่ผ่านมามีสมาชิกส่วนหนึ่งไม่เข้าใจ

“การตั้งกระทู้ถามตรวจสอบฝ่ายบริหารในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิม เดิมเป็นกระทู้ถามทั่วไป แต่ตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญในขณะนี้ และข้อบังคับ ให้มีกระทู้ถามสดด้วยวาจา ซึ่งรัฐมนตรีไม่มีโอกาสทราบคำถามล่วงหน้า เพราะเป็นเรื่องด่วน เรื่องที่ประชาชนสนใจ และกระทบผลประโยชน์ของประเทศ และยังมีกระทู้ถามแยกเฉพาะ ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะที่ เฉพาะเรื่อง รวมทั้งยังมีกระทู้ทั่วไปที่เป็นเรื่องในอดีตที่เคยทำมา ซึ่งสมาชิกมีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบฝ่ายบริหารด้วยการใช้กระทู้เพิ่มขึ้นใน 2 ระบบ ทั้งนี้ เรื่องกระทู้ต่างๆ ถือเป็นวาระที่รัฐมนตรีจะต้องเตรียมตัว ส่วนฝ่ายนิติบัญญัติจะทำหน้าที่ตรวจสอบ และสอบถามข้อมูล” นายชวน กล่าว

นายชวน กล่าวด้วยว่า ในภาวะวิกฤตโควิด–19 ที่ผ่านมา ส.ส.ถือว่าเป็นส่วนที่ช่วยได้มาก ตนขอชื่นชมทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน จากการลงพื้นที่ด้วยตนเอง จึงได้เห็นการช่วยเหลือจากทั้งส่วนรวม และส่วนตัว จากนั้น ได้นำปัญหาเข้ามาหารือในที่ประชุมสภา ดังนั้น แนวทางในการช่วยเหลือประชาชนช่วงวิกฤตโควิด – 19 ส.ส.ถือเป็นกลุ่มแรกที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนมากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่ชาวบ้านร้องเรียนมาที่ตน ประมาณ 1 พันกว่าเรื่องในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งสมัยก่อนไม่มีคนร้องทุกข์มากขนาดนี้ แสดงว่าประชาชนหวังให้สภาเป็นที่พึ่งในหลายเรื่อง อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มการประชุมในปี 65 จะมีการนัดประชุมชดเชยวันหยุดช่วงปีใหม่ โดยนัดประชุมนัดพิเศษวันที่ 14 และ 28 ม.ค.65 และในวันพุธ พฤหัสบดี ของการประชุมสภาฯ จะเพิ่มเวลาการประชุมขึ้นอีกประมาณ 2 ชม. ซึ่งคาดว่าในปี 65 จะพิจารณาเรื่องที่ค้างอยู่ทั้งหมดให้แล้วเสร็จได้ ขณะที่ การประชุมรัฐสภา มีเรื่องที่ค้างอยู่ 3 เรื่อง โดยจะมีการหารือเพื่อกำหนดวันประชุมร่วมรัฐสภาต่อไป

เมื่อถามว่า มองว่าสถานการณ์ทางการเมืองในปี 65 จะเป็นอย่างไร เพราะยังมีความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้นพอสมควร นายชวน กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าความคิดเห็นทางการเมืองที่ขัดแย้งกันนั้นยังคงมีอยู่ แต่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูการทำงาน เชื่อว่าระบบนี้ยังสามารถเดินไปได้ปกติ ไม่น่าเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน การปฏิบัติภารกิจของนักการเมืองก็อยู่ในสายตาของประชาชนมากขึ้น ใครที่สร้างปัญหา ประชาชนจับตาดูอยู่ อีกทั้งในสมัยนี้ก็ปฏิเสธยาก เพราะมีการสื่อสารในหลายที่ แต่ถึงจะมีความขัดแย้งไม่พอใจเรื่องใดก็ตาม ก็ควรต้องอยู่ในกรอบที่สามารถควบคุมได้

ถามต่อว่า ประเมินแล้วรัฐบาลจะสามารถอยู่จนครบวาระหรือไม่ ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่สามารถประเมินฝ่ายบริหารได้ แต่ในส่วนของสภาคิดว่าไม่น่าจะเป็นอุปสรรคในการทำงานของฝ่ายบริหาร และฝ่ายอื่น ๆ และเชื่อว่าในระบบนี้ เราสามารถที่จะผ่านการปฏิบัติภารกิจของแต่ละฝ่ายไปได้ด้วยดี ตนได้ย้ำเตือนทุกครั้ง เมื่อพบฝ่ายบริหารก็ได้ย้ำว่าถึงอย่างไรก็ต้องมาตอบกระทู้ของสภา และเมื่อมีการเสนอญัตติในสภา ฝ่ายรัฐบาลต้องมาชี้แจงต่อสภา เพราะถือว่าเป็นหน้าที่และโอกาสที่จะได้ชี้แจงข้อมูลความจริงที่มีการตั้งประเด็น หากฝ่ายบริหารไม่ตอบสภา ประชาชนก็ไม่รู้ข้อมูล อย่างน้อยรัฐมนตรีควรเข้ามานั่งฟัง จะได้รู้ว่าเขากล่าวหาอย่างไร และใช้สิทธิชี้แจงว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่จริง

เมื่อถามถึงการทำหน้าที่ประธานสภาฯ และประธานรัฐสภา มีความลำบากใจหรือมีความยากเย็นมากกว่าในอดีตหรือไม่ เพราะทุกพรรคการเมืองมีอุดมการณ์ และความขัดแย้งมากขึ้นกว่าเดิม นายชวน กล่าวว่า ยอมรับว่าในช่วง 5 ปีที่ไม่มีสภา เมื่อมีการเลือกตั้งสภาชุดใหม่ ทำให้ส.ส.บางคนไม่เคยชินกับระบบ ดังนั้น เวลาใช้สิทธิ์ในสภาบางคนก็ออกนอกกฎเกณฑ์ข้อบังคับ แต่เมื่อตนติหรือบอกให้รับทราบถึงข้อบังคับ ทุกคนก็ยอมรับ ทั้งนี้ การที่งานในสภาเป็นไปได้ด้วยดีต้องขอบคุณรองประธานสภาฯทั้งสองท่าน เพราะระบบปัจจุบันทำให้ต้องรับภาระหนักขึ้น ส่วนสมาชิกโดยรวม ข้อสังเกตที่เห็น คือ สมาชิกรัฐสภาปัจจุบันมีความรู้ แต่ที่อภิปรายปากเปล่าหรือที่ไม่อ่านหนังสือหรือไอแพดจะมีอยู่ส่วนหนึ่ง ขณะที่ สมาชิกอีกส่วนหนึ่งยังต้องอ่านเวลาขณะอภิปราย ซึ่งตามข้อบังคับการประชุมห้ามอ่านเอกสาร ทำให้ตนต้องคอยเตือนเรื่อยๆ เป็นเรื่องที่ต้องประคับประคองให้สมาชิกได้ใช้สิทธิภายใต้กรอบและกติกา หากมีใครคนใดละเมิดกติกา ย่อมทำให้อีกคนทำตาม แต่ตนก็ให้โอกาสกับทุกคน เพราะเข้าใจดีว่าในสภานั้นคือที่พูดที่อภิปราย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อิ๊งค์-อ้วน' ยัน MOU44 สำคัญ ไทยต้องคุยกัมพูชาชัดเรื่องเขตแดนภายใต้ JTC แล้วนำเข้ารัฐสภา

นายกฯ ยัน MOU44 สำคัญ ย้ำไม่ยกเลิกฝ่ายเดียวจะเกิดปัญหาระหว่างประเทศ ไทยต้องคุยกับกัมพูชาชัดเรื่องเขตแดน ภายใต้คกก. JTC เพื่อเป็นหลักฐานการคุย คาดตั้งเสร็จกลาง พ.ย.นี้ ลั่นผลประโยชน์ใต้ทะเลยังไม่คุยจนกว่าจะชัดเจนและนำเข้ารัฐสภา ยอมรับกัมพูชาถามคืบหน้า

สส.พรรคส้ม แจงเหตุการณ์รถชนสนั่นในลานจอดรถสภาฯ เพจดังถามหาผลตรวจเลือด

นายสิริน สงวนสิน สส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในบริเวณที่จอดรถอาคารรัฐสภาในวันนี้

ชนสนั่น! กลางลานจอดรถสภาฯ สส.พรรคส้ม ยันไม่ได้ซิ่ง ปกติขับแค่ 80 กม./ชม.

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ บริเวณชั้น B2 ซึ่งเป็นที่จอดรถของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พบว่าเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งคันสีขาวของนายสิริน​ สงวนสิน​ สส.​กทม.​พรรคประชาชน​ ชนกับรถเก๋งคันสีดำของข้าราชการสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา

'ชวน' เตือนรัฐบาลปล่อย 'พล.อ.พิศาล' ลอยนวล  ส่งผลรุนแรงใต้

“ชวน” เตือนรัฐบาลไม่สามารถนำตัว พล.อ.พิศาล เข้าสู่ขบวนการยุติธรรม ส่งผลความรู้สึกประชาชนในพื้นที่ เสี่ยงความรุนแรง ระบุถ้าคิดว่าไม่ผิดควรออกมาสู้คดี

สภาหมื่นล้าน ฝ้าเพดานพังถล่ม แถมเจอน้ำรั่วซึมไหลนองพื้น

มีเรื่องร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่สภาฯ ว่าเกิดเหตุฝ้าถล่มบริเวณห้องจัดเลี้ยง ชั้น B2 อาคารรัฐสภา ซึ่งห้องดังกล่าวเพิ่งจะมีงานเลี้ยงเกษียณข้าราชการสภาฯ เมื่อปลายเดือนก.ย. ที่ผ่านมา