เพื่อไทยคึกคัก! เปิดคลิป 'ทักษิณ' สอน สส.ต้องเข้าถึง ปชช. ทั้งใจกาย อวย 'เศรษฐา' เหมาะสถานการณ์ ชมเปาะ 'อิ๊งค์' ดีเอ็นเอส่วนดีของพ่อและแม่ มั่นใจผู้นำที่ดี นำทีมพลิกเกมได้ไม่ยาก
5 เม.ย. 2567 - เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย และบรรดารัฐมนตรีสัดส่วนพรรคเพื่อไทยรวมถึงแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ รวมถึงสส.พรรคเพื่อไทย ได้เข้าร่วมประชุมอย่างคึกคักอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจัดประชุมใหญ่ครั้งนี้ช่วงหนึ่งได้เปิดวีดิทัศน์การให้สัมภาษณ์ของ น.ส.แพทองธาร นายเศรษฐา รวมถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้แก่สมาชิกพรรคได้รับฟัง
ช่วงหนึ่งนายทักษิณ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยถูกกล่าวหาว่าเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมใหม่ เรื่องนี้บอกได้เลยว่าไม่ได้อยู่ในดีเอ็นเอของพรรคเพื่อไทยหรือไทยรักไทย แต่พรรคเพื่อไทยจริงๆ สร้างมาจากไทยรักไทย เป็นพรรคที่รีฟอร์มหรือเป็นพรรคผู้นำในการเปลี่ยนแปลง ถ้าจำได้พรรคไทยรักไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระบบประกันสุขภาพ การเอาเงินจากเมืองหลวงกลับไปสู่ชนบท กระจายเงินออกไป และเรื่องการดูแลสินค้าเกษตร ทุกเรื่องเป็นเรื่องใหม่หมดที่ไทยรักไทยทำ และพรรคเพื่อไทยก็ทำมาต่อเนื่อง
ซึ่งในวันนี้พรรคเพื่อไทยก็กำลังจะทำดิจิทัลวอลเล็ต โคตรใหม่ ไม่ใช่ใหม่ธรรมดา ฉะนั้น วันนี้เราไม่ได้อยู่กับเรื่องโบราณแน่นอนเพราะโลกเปลี่ยนไป เพื่อไทยก็ต้องปรับตัวเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ระบบทุนนิยมที่ไร้ความเมตตาธรรมจะไม่สามารถทำให้ประชาชนมีความสุขได้ และวันนี้ต้องเข้าใจว่าสังคมเปลี่ยนไปแล้ว การเข้าถึงประชาชนเป็นหัวใจสำคัญทั้งทางกายภายหรือทางสื่อ และต้องสะท้อนปัญหาของประชาชนในสภาได้ ถึงแม้จะไม่เป็นผู้บริหาร ฉะนั้นอยากให้ สส. ของพรรคเพื่อไทยเข้าถึงประชาชน การทำงานในสภาให้เข้มแข็ง และหัวใจคือต้องเป็นนักการเมืองที่รักประชาชน ประชาชนเดี๋ยวนี้มองตาเราก็รู้ว่ามีเมตตาธรรม หรือเราเป็นคนถือตัวไม่สนใจเขามองออกฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จะอยู่กับความรู้สึกของชาวบ้านจะมาเสแสร้งไม่กี่วัน หนึ่งเดือนตอนเลือกตั้งเขาก็รู้หมดแล้ว ฉะนั้นเราต้องอยู่กับชาวบ้านให้ได้
"ผมมั่นใจว่า นายกฯ เศรษฐา สามารถนำพาประเทศได้ เพราะท่านเป็นนักบริหาร มีประสบการณ์มาก การมีเครือข่ายที่ส่งเสริมช่วยเหลือ สนับสนุนกันเป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับผมเป็นคนบ้านนอก ตอนเป็นนายกฯ ก็ไม่มีเครือข่ายในกรุงเทพฯ มีทั้งจุดอ่อนจุดแข็ง เป็นการวางตัวที่เหมาะของพรรคเพื่อไทย นายกฯ เศรษฐา เหมาะที่จะลงไปในช่วงที่เปลี่ยนผ่านระหว่างการเมืองที่มีหลายพรรค สำหรับอิ๊งค์ ผมมั่นใจว่าจะสามารถนำทีมพลิกเกมได้ไม่ยาก เป็นดีเอ็นเอระหว่างคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ กับผม ผสมกันเป็น อิ๊งค์ คือเอาส่วนเข้มแข็ง อดทน เด็ดขาดมาจากคุณหญิงพจมาน และเขาเอาส่วนที่พบปะผู้คน เข้าใจการเมืองมาจากผม และเชื่อว่าเขาเป็นผู้นำที่ดีได้ ไม่ใช่มาเชียร์ลูก แต่ในเมื่อผมทำได้ ดีเอ็นเอผมก็ต้องทำได้และทำได้ดีกว่าด้วย" นายทักษิณ ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่เอาไว้ทำพ่อ! 'ทักษิณ' ขู่ฟ่อ ต่อไปนี้ใครเล่นงาน จะเล่นกลับหมด บางคนให้ตังค์ใช้ พอไม่เลี้ยงโดนมันกัด
ช่วงเย็นวานนี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาปราศรัยหาเสียงช่วยนายพิชัย เลิศพงษ์อดิศร ผู้สมัครนายกองค์การบริหาร
ฟุ้งปีใหม่โอกาสดีทุกคน มั่นใจ‘แม้ว-หนู’ไร้ปัญหา
นายกฯ อิ๊งค์อวยพรปีใหม่ ให้ทุกคนมีจิตใจเบิกบานยันปี 68
“พ่อเลี้ยง”เปลี่ยนสนามรบเป็นทุน “ดับไฟใต้-สันติภาพเมียนมา”
“ฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง” นับเป็นภาพการเมืองในฝ่ายบริหารที่ “วิญญูชน” พึงประจักษ์ได้ว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการขยับตัวและคำพูดของ “ทักษิณ ชินวัตร” วิทยากร-นักวิชาการของพรรคเพื่อไทย
ทักษิณจ่อพบอันวาร์ในไทย
"ทักษิณ" ยันเตรียมพบ "อันวาร์" กำลังรอคอนเฟิร์ม
'ทักษิณ' ปราศรัยเดือด ไม่ทนพวกเห่าหอน ซัดมาซัดกลับ เหน็บพรรคส้มขี้โม้
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เบอร์ 2 หาเสียง โดย ทันทีที่นายทักษิณมาถึงได้เดินทักทายประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัย
'เต้น' ปราศรัยเชียงใหม่ ขออย่าเปลี่ยนใจ ถามเลือกตั้ง สส. ทำไมเพื่อไทยได้แค่ 2 คน
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เบอร์ 2 หาเสียง โดยมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี