'สุทิน' ซัด 'วิโรจน์' ชี้ต้องแยกให้ออก ระหว่างปฏิวัติกับปฏิรูป เผย 'กลาโหม'ใช้ไม้อ่อนปฏิรูปกองทัพจากภายใน
04 เม.ย.2567 - นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงภายหลัง สส.อภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ถึงการทำงานของกระทรวงกลาโหม ว่าการอภิปรายทั่วไป คือการซักถามหรือเสนอแนะต่อรัฐบาล แต่ฟังการอภิปรายแล้วก็พบว่า เป็นข้อกล่าวหา โดยเฉพาะที่นายวิโรจน์ ลักขณาดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล อภิปรายกล่าวหากระทรวงกลาโหม ว่ารัฐบาลหลอกลวงตบตาประชาชน
"ท่านวิโรจน์จั่วหัวว่า เราหลอกลวงประชาชนบ้าง ตบตาประชาชนบ้าง จริงๆ แล้วถ้าฟังวันนี้ คนที่หลอกลวงประชาชน คนตบตาประชาชน คือท่านวิโรจน์ ตบตาอย่างไร ท่านไปโฆษณาไว้ว่า การอภิปรายวันนี้จะคุณภาพคับแก้ว ชวนให้คนติดตามฟังเต็มบ้านเต็มเมือง แต่เอาเข้าจริงแล้วเป็นเรื่องเก่าๆ มาก เรื่องเดิมที่ท่านเคยพูด ผมเคยต่อ และ 90% เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในรัฐบาลเก่า"
นายสุทิน กล่าวต่อว่า ประเด็นที่นายวิโรจน์ยกมา เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ถ้าจะให้ตอบทั้งหมดคงใช้เวลานานมาก แต่ทุกกรณีที่ยกมาทั้งหมดสะท้อนโครงสร้างที่ล้มเหลวของกองทัพที่มีมายาวนาน ซึ่งถ้ารัฐบาลแก้โครงสร้างได้ดี เรื่องเหล่านี้จะหายไป และขอให้นายวิโรจน์ เสนอแนะทำงานร่วมกับรัฐบาลต่อไปในอนาคต เพียงแต่ต้องยืนยันตามที่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยังจำเป็นต้องมีกองทัพอยู่ และต้องทำกองทัพให้ดีมีคุณภาพ
นายสุทิน กล่าวอีกว่า เดิมทีต้องการจัดตั้งคณะกรรมการปฏิรูปกองทัพ โดยเอาผู้เชี่ยวชาญที่เป็นบุคคลภายนอกเข้าไปจัดการ แต่ก็คิดได้ว่าควรดูข้างในก่อน ว่าในกองทัพได้มีการปฏิรูปหรือตระหนักถึงปัญหา และดำเนินการแล้วหรือไม่ ซึ่งถ้าเขายังไม่ตระหนักเลยอาจต้องใช้ไม้แข็ง คือใช้กระบวนทัศน์จากภายนอก โดยเมื่อเข้าไปดูภายใน ก็พบว่าหลายสิ่งกองทัพได้ทำอยู่แล้ว เหมือนที่วิโรจน์บอก
"ท่านบอกว่าลุงตู่ทำอยู่แล้ว กองทัพทำอยู่แล้ว คุณสุทินไม่เห็นทำอะไร นั่นท่านก็ยอมรับว่าเขาทำอยู่แล้วนะ ซึ่งผมก็เห็นเหมือนกับท่านอยู่ ผมจึงเปลี่ยนใจว่าเอาไม้อ่อนก่อน ให้คนภายในเขาคิดและปฏิรูปเองก่อน ถ้าเขาไม่ทำ หรือทำไม่ได้ดั่งใจเรา ค่อยกลับมาว่ากันที่กรรมการปฏิรูปจากภายนอก ปฏิรูปกับปฏิวัติท่านต้องคิดให้ต่างกันนะ นโยบายของท่านคือปฏิวัติกองทัพ ไม่ใช่ปฏิรูปกองทัพ ถ้าปฏิวัติก็คือฉับพลันทันด่วน ทำเองเปรี้ยงเลย ไม่ต้องให้มีส่วนร่วมทำงาน ปฏิรูปต้องค่อยเป็นค่อยไป ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ ดังนั้น ท่านไปดูว่า ที่ท่านเขียนไว้คือปฏิวัติหรือปฏิรูป ของผมเนี่ยปฏิรูป"
นายสุทิน กล่าวด้วยว่า หากตนเองอายุเท่านายวิโรจน์ คงจะเลือกใช้วิธีแบบปฏิวัติ แต่เมื่ออายุเท่านี้แล้ว คิดว่าการร่วมคิดร่วมทำร่วมรับผิดชอบดีที่สุด ให้เขาทำเอง ถ้าเขาทำไม่ได้เราค่อยว่า ซึ่งการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปกองทัพขึ้นมา 8 ชุด ซึ่งได้ลงนามตั้งในเดือนที่ 2 หลังเป็นรัฐมนตรี ที่ประกอบด้วย 1.คณะทำงานขับเคลื่อนการปรับปรุงโครงสร้างการจัดส่วนราชการของ นขต.กห. และเหล่าทัพ 2.คณะทำงานขับเคลื่อนการพัฒนารูปแบบการตรวจเลือกทหารกองประจำการและการฝึกนักศึกษาวิชาทหาร 3.คณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินการและสวัสดิการของกำลังพล 4.คณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5. คณะทำงานขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ที่ดินในความครอบครองของกระทรวงกลาโหม 6.คณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ 7.คณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และ 8.คณะกรรมการศึกษาแนวทางที่เหมาะสมโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ระยะที่ 1
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท
'มาริษ' บอกยิ่งลักษณ์ยังไม่ประสานกลับไทยไม่รู้พ่อนายกฯ มีกี่สัญชาติ!
'มาริษ' เผยคืบตั้ง คกก.เจทีซี รอพิจารณาเพิ่มบุคคล ยันชง ครม. เร็วที่สุด ปัด 'ยิ่งลักษณ์' ยังไม่ประสานกลับไทย
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
'มาริษ' มั่นใจไม่ว่าใครเป็นประธานธิบดีสหรัฐความสัมพันธ์ก็ยังมั่นคงเหมือนเดิม!
'มาริษ' บอกไม่มีปัญหาใครมาเป็นหัวเรือสหรัฐฯ ความสัมพันธ์กับไทยยังมั่นคงชัดเจนเหมือนเดิม ตามนโยบาย 'นายกฯอิ๊งค์' ผลประโยชน์ต้องวินๆทั้งสองฝ่าย
'มาริษ' ยันเจรจาพื้นที่ทับซ้อน กต.จะทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพสูงสุด!
รมว.กต.ยืนยันผลการเจรจาเพื่อใช้ประโยชน์ปิโตรเลียมในพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนไทย-กัมพูชา ประชาชนไทยต้องเห็นชอบก่อน - ย้ำผลประโยชน์ต้องเป็นของประชาชน – ชี้ MOU44 เป็นกลไกทำให้การเจรจาเดินหน้าได้