'จตุพร' ฟังธง! ที่นักข่าวฝรั่งเศสถาม รัฐประหาร ไม่ใช่โคมลอย

“การปฏิบัติการทวงดีลถัดจากนี้ไป ใครทำอะไรกันไว้ ต้องรับผิดชอบ ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะหนักกว่าเดิม และไปไม่รอดด้วย ที่นักข่าวฝรั่งเศสถาม ไม่ใช่โคมลอย เพราะการข่าวของเขามีอยู่ในด้านลึกมากมาย”

2 เม.ย.2567-นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ระบุว่า ตั้งแต่สัปดาห์นี้ (1-7 เม.ย.) จะเกิดปฏิบัติการเริ่มทวงดีลกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน หากผู้ดีลยังเพิกเฉยแล้ว ถือดีลยุติ และในสัปดาห์ถัดไปจะมีอีกชุดหนึ่งเข้ามาจัดการอย่างเด็ดขาด ด้วยรูปแบบวิธีที่ได้ปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ยิ่งขึ้น

พร้อมย้ำว่า ผู้ดีลกลับบ้านได้ปล่อยข่าวจากวงกินข้าวว่า มีการชื่นชอบการทำหน้าที่อย่างมาก จนได้รับการขยายเวลาให้อยู่ครบวาระจึงไม่เป็นความจริง และยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย เพราะสื่อโชเชียลชื่อ “บิ๊กแดงแฟนเพจ” ถึงกับโพสต์ด้วยอารมณ์คำรามว่า ไม่ได้กลับบ้านมาเลี้ยงหลาน แต่มาเลี้ยงหมาในคอก ย่อมเป็นสัญญาณไม่พอใจการไม่ทำตามดีล ซึ่งหมดเวลาลงเมื่อสิ้นเดือนมีนาคมแล้ว

ส่วนนักข่าวฝรั่งเศสถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ถึงการรัฐประหารนั้น นายจตุพร กล่าวว่า นายเศรษฐา บอกไม่กังวล เพราะแท้จริงแล้วถ้ากังวลก็ไม่มีประโยชน์อะไร อีกอย่างฝ่ายค้านจะอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรม ม.152 ในวันที่ 3 เมษายนนี้ โดยคาบเกี่ยวกับศาล รธน.จะรับคำร้องยุบพรรคก้าวไกล แต่การข่าวยืนยันว่า ศาลจะไม่มีคำสั่งให้กรรมการบริหารหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามมาทันที เพราะต้องการให้อภิปรายรัฐบาลได้เต็มที่ แต่การยุบพรรคก้าวไกลมีขึ้นภายในเดือนเมษายนนี้ค่อนข้างแน่นอน

สำหรับวันที่ 10 เมษายนนี้ อัยการสูงสุดนัดทักษิณ ชินวัตร ไปฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ในคคี ม.112 ถ้าถูกสั่งฟ้องแสดงถึงการดำเนินคดี หากเลื่อนคำสั่งออกไปอีกสะท้อนถึงสถานการณ์ดีลปีศาจยังไม่ชัดเจน

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อสถานการณ์เริ่มแรงขึ้น โดยสังเกตบิ๊กแดงแฟนเพจถึงกับนำคำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มาโพสต์ทวงดีลว่า จะหยุดนักการเมือง ข้าราชการ นายทุนที่โกงชาติได้ คือ ต้องทำให้เสียชีวิต

ดังนั้น การส่งสัญญาณแรงเพื่อทวงดีลนั้น เขาก็จะให้ทวงกันอีกอาทิตย์หนึ่ง สิ่งสำคัญคือ การขัดพระบรมราชโองการขออภัยโทษจนลดจาก 8 ปีเหลือ 1 ปีและไม่มีติดคุกสักวันเดียว ทั้งๆที่มีการสำนึกและยอมรับการกระทำผิดจริงในคดีทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ หากเรื่องนี้ถูกขยายออกไปย่อมทำให้สถานการณ์คิดเบี้ยวดีลตกอยู่ในสภาพยากลำบากมากขึ้น

“ผมบอกว่า ถ้ามีการขยายเรื่องภาพ 2,000 กว่าภาพที่ถ่ายทุกชั่วโมง หรือการกู้กล้องวงจรปิด รพ.ตำรวจ หรือเปิดภาพสภาพแวดล้อม รพ.ตำรวจ ถ้าเอากันจริงสามารถตรวจสอบได้หมด ไม่มีใครไปปิดตากันได้ ถ้าเรื่องนี้ได้หลุดออกมาและไม่ได้เป็นดั่งว่า ดังนั้น การขัดพระบรมราชโองการฯ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ของสังคมไทยเลย”

นายจตุพร ย้ำว่า เมื่อสิ้นเดือนมีนาคมวันครบดีลแล้วยังไม่ปฏิบัติตาม ต้องรอดูเมษายนต่อไป ถ้าสถานการณ์ลุกลามจนถึงขั้นอยู่เป็นนายกฯ จนเกิน 11 พ.ค. วันที่ สว.ครบวาระแล้ว สว.จะยื่นให้ศาล รธน.ตีความทันทีว่า ช่วงรักษาการจะทำหน้าที่ต่อจนครบทุกประการหรือไม่ ดังนั้น การเลือกตั้ง สว.ใหม่อีก 5-6 เดือนไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นและจะสำเร็จลุล่วงได้หรือไม่

“การดีลด้วยสัญญาปีศาจระหว่างกันแล้ว เมื่อเบี้ยวคงรอดยาก อย่างไรก็ตาม ถ้าไปกินข้าวกันจริง ชื่นชอบกันจริงแล้ว บิ๊กแดงแฟนเพจจะโพสต์ด้วยข้อความแบบนี้หรือ และบิ๊กแดงตัวจริงยังไม่ปฏิเสธสักคำ ถ้าเป็นความจริงว่า ชื่นชอบกัน ให้อยู่ยาวแล้ว บิ๊กแดงแฟนเพจจะโพสต์ทวงดีลแบบอารมณ์คำรามกันทำไม เพราะการดีลแล้วได้ประโยชน์ฝ่ายเดียวไม่มีที่ไหนทำกัน แบบนี้เขาเรียกว่า เป็นการปล้นกัน”นายจตุพร ตั้งข้อสังเกตและเปรียบเปรย

อีกทั้ง ระบุว่า “การปฏิบัติการทวงดีลถัดจากนี้ไป ใครทำอะไรกันไว้ ต้องรับผิดชอบ ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะหนักกว่าเดิม และไปไม่รอดด้วย ที่นักข่าวฝรั่งเศสถาม ไม่ใช่โคมลอย เพราะการข่าวของเขามีอยู่ในด้านลึกมากมาย”

พร้อมกล่าวว่า เรื่องราวต่างๆ เริ่มเข้าอยู่สถานการณ์ชุลมุนแล้ว จนนายเศรษฐา เครียดชกกระสอบทรายโชว์ หากถามตำแหน่งนายกฯ ได้แต่ใดมาแล้ว ตอบว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีและอดีตนายกฯ ไม่ให้มาตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. 2566 ก็คงไม่ได้เป็นนายกฯ แน่นอน

“ดังนั้น เมื่อเดินมาถึงจุดนี้แล้ว เวลาใกล้เข้ามาเต็มที ให้ดูภายในสัปดาห์นี้ (1-7 เม.ย.) ถ้าทวงแล้วไม่ไป หน้าที่ของคนดีลถือว่ายุติ คุณได้หมดหน้าที่ไปแล้ว หลังจากนั้นจะเป็นอีกชุดหนึ่งเข้ามาจัดการ”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่นทันที! นายกฯมาเอง ลงพื้นที่ห้วยขวาง สั่งสอบป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ต

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สน.ห้วยขวาง ติดตามสอบถามข้องเท็จถึงกรณีที่พบมีการติดแผ่นป้ายโฆษณาซื้อขายหนังสือเดินทางและพาสปอร์ตที่แยกห้วยขวาง พบว่ามีการขึ้นป้ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2567 เนื้อหาเป็นข้อความเกี่ยวกับการรับจ้างทำหนังสือเดินทาง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ แก่ 'เศรษฐา ทวีสิน'

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ 20 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องราชอิสริยา