ศาลยกคำร้องประกัน 'ตะวัน-แฟรงค์' หลังทิชาขอความกล้าหาญ ชักฟืนออกจากกองไฟ

ภาพจากเฟซบุ๊ก Tawan Tantawan

ศาลอาญายังยกคำร้องประกันค้านฝากขังตะวัน – แฟรงค์ หลัง ‘ทิชา-พ่อตะวัน’ร้องขอศาลไม่รับฝากขัง-ปล่อยตัว วอนขอให้ชักฟืนจากกองไฟก่อนสูญเสียกว่านี้

10 มี.ค.2567 –  ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพนางทิชา ณ นคร ผอ.ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน พร้อมด้วยนายสมหมาย ตัวตุลานนท์ บิดาของ น.ส.ทานตะวัน   นายเอกชัย หงส์กังวาน น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ และมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาที่ศาลอาญาเพื่อยื่นคำแถลงขอให้ศาลพิจารณาไม่รับฝากขังตะวันและแฟรงค์

โดยนางทิชา ผอ.ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน กล่าวว่า ตนเองอยากเรียนข้อมูลให้สาธารณะได้รับทราบว่าในปัจจุบันเรือนจำทั่วประเทศมีการคุมขังผู้ต้องโทษกว่า 250,000 ราย โดย 80% เป็นนักโทษเด็ดขาด ส่วนอีก 20% เป็นนักโทษที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีและไม่ได้รับการประกันตัว ต่อมามีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าถึงที่สุดศาลยกฟ้อง แสดงให้เห็นว่าการคุมขัง 20% ดังกล่าวเป็นการคุมขังผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเราต้องมาคำนวณเกี่ยวกับวันเวลาอิสรภาพ โอกาสในการทำมาหากินของพวกเขา ถ้าเราทำงานวิจัย นี่คือความสูญเสียมหาศาล นอกจากนี้ ตนเองยังอยากย้ำว่าสิทธิในการประกันตัวเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ได้กำหนดไว้ แต่เรากลับปล่อยให้คนจำนวน 20% เข้าไปอยู่ในเรือนจำฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้สะท้อนให้เห็นว่าการต่อสู้ของ น.ส.ตะวัน น.ส.แบม น.ส.บุ้ง นายแฟรงค์ และนักกิจกรรมทางการเมืองคนอื่น ๆ พวกเขาไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเอง แต่ตั้งคำถามกับระบบที่เกิดก่อนเขา และเขาก็สงสัยในระบบเหล่านี้ มันเป็นคำถามที่ใหญ่และตบหน้าคนที่เกิดก่อนด้วยซ้ำ

นางทิชา กล่าวอีกว่า ตนเองมั่นใจว่าทุกคนรู้สึกว่าระบบยุติธรรมของไทยตอนนี้กำลังเดินทางเข้าสู่วิกฤติศรัทธา ดังนั้นการต่อสู้ของเด็กๆทั้งหมด เป็นเรื่องที่บุคคลภายนอกอย่างเราต้องไม่อยู่เฉย และถ้าทุกคนรู้สึกว่าการอดอาหารประท้วงของพวกเขาเป็นการตัดสินใจกันเอง และถ้าอยากสาปแช่งให้เด็กเหล่านี้ติดคุกและเสียชีวิต เเละถ้าพวกคุณรู้สึกเกรี้ยวกราดต่อการท้าท้ายอำนาจรัฐของเด็ก เราก็อยากบอกว่าพวกคุณกำลังลดทอนคุณค่าของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ เพราะถ้าในอนาคตกฎหมายยังไม่ได้ถูกออกแบบไว้เป็นอย่างดี วันนั้นอาจเป็นชะตากรรมของลูกหลานของพวกคุณก็ได้ที่เจอกฎหมายไม่เป็นธรรม 

นางทิชา ระบุว่า สรุปแล้วการประท้วงเรียกร้องให้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมของตะวันแฟรงค์และบุ้งโดยการเอาชีวิตเป็นเดิมพันจึงไม่ใช่การเรียกร้องเพื่อตัวเอง แต่ต้องการระบบที่มันยุติธรรม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเด็ดเดี่ยวของเด็กๆในนาทีนี้มันเข้าสู่สัญญาณอันตราย ตนเองและคนข้างนอกไม่อาจอยู่เฉยได้แม้ผลจะเป็นอย่างไร  การที่เรามาที่ศาลเพราะยังเหลือศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น จึงหวังว่าจะยังคงมีผู้พิพากษาที่มีความเป็นมนุษย์ในสถาบันแห่งนี้จะกล้าหาญพอที่จะชักฟืนออกจากกองไฟให้ได้ เพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้ เพราะในอดีตเรามีประวัติศาสตร์บาดแผลมามากมายแล้ว นี่จึงเป็นอีกครั้งที่เราจะเลือกว่าจะสร้างประวัติศาสตร์บาดแผลหน้าใหม่ หรือจะเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นระบบที่เหมาะสมอยู่ร่วมกันได้

“แม้ผู้ใหญ่จะรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาท ไม่น่ารัก แต่คำถามคือมันสมเหตุสมผลหรือไม่ที่จะใช้กฎหมายตั้งข้อหาอย่างรุนแรงขนาดนี้ ดิฉันขอถามว่าพวกคุณตอนเด็กน่ารักทุกวันหรือไม่ คำตอบคือไม่ใช่ ลูกหลานในบ้านคุณน่ารักทุกวันนี้หรือไม่ ก็ไม่ใช่ ทั้งนี้ ดิฉันเชื่อว่ามีคนจำนวนมากในสถาบันนี้จะมีความกล้าหาญที่จะช่วยชักฟืนออกจากกองไฟก่อนที่เราจะสูญเสียมากไปกว่านี้”นางทิชา ระบุ

ด้านนายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ กล่าวว่า นอกจากวันนี้ทางป้ามลจะยื่นคำแถลงต่อศาลเพื่อคัดค้านการฝากขังยังมีคุณพ่อของตะวันที่มายื่นขอประกัน เพราะเขาห่วงลูกสาวมาก นอนไม่หลับ และจะอยู่ฟังผลของศาลว่าจะอนุญาตหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นางทิชาและนายสมหมาย บิดาของตะวันได้ขึ้นไปยื่นเอกสารคำร้องคัดค้านการฝากขังและขอปล่อยตัวชั่วคราว ทั้งหมดได้ลงมาทำกิจกรรมจุดเทียนบนขั้นบันไดหน้าศาลอาญาพร้อมร้องเพลงเเสงดาวแห่งศรัทธา จากนั้น รปภ. ได้ขอความร่วมมือให้ทั้งหมดไปจุดเทียนที่ด้านนอกบริเวณศาล ต่อมาได้เคลื่อนไปยังพื้นที่อนุญาตและจุดเทียนพร้อมร้องเพลงเพื่อมวลชน

 นอกจากนี้ เมื่อช่วงเวลา 09.30 น.ที่ผ่านมา ได้มีเยาวชนหญิงน้องหยก  ได้ใช้ลิปสติกสีแดงเขียนลงบนเสาหน้าศาลอาญาด้วยอักษร ค. ก่อนที่มวลชนโดยรอบจะขอให้น้องหยกยุติการกระทำดังกล่าวและนำผ้ามาเช็ดทำความสะอาด จากนั้นน้องหยกได้เดินไปยังบริเวณด้านหน้าศาลและใช้ลิปสติกแท่งเดิมเขียนลงบนพื้นปูนว่า “ศาลส้นตี_” และมวลชนก็ได้มาห้ามปรามการกระทำดังกล่าวพร้อมเช็ดทำความสะอาดให้อีกครั้งก่อนที่น้องหยกและเพื่อนชายจะนั่งรถยนต์ส่วนบุคคลออกไป

โดยต่อมานายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความได้ยื่นคำร้องประกอบหลักทรัพย์ขอประกันตะวันกับเเฟรงค์อีกครั้ง โดยศาลอาญาได้มีคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องว่าพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในการไต่สวนคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 3 ศาลมีคำสั่งกำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดการสอบสวนให้เสร็จในการฝากขังครั้งนี้ แม้ผู้ต้องหาทั้งสองมีอาการวิกฤตตามที่ผู้ร้องอ้างแต่เมื่อผู้ร้องทั้งสองอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเชื่อว่าผู้ต้องหาจะไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตกรณีนี้ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมยกคำร้องแจ้งคำสั่งให้ผู้ร้องและผู้ต้องหาทราบ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทนายตั้ม' พร้อมนอนคุก! เตรียมหลักทรัพย์ยื่นประกันเฉพาะเมีย

ทนายเผย 'ตั้ม' ยังไม่ยื่นประกันตัววันนี้ เตรียมหลักทรัพย์ประกันเฉพาะเมียแทน 'ทนายเจ๊อ้อย’ โผล่ ยื่นค้านประกันตัวชี้มีพฤติกรรมหลบหนี หวั่นยุ่งเหยิงพยาน

ลุ้นศาลรับคำร้อง! 'หมอวรงค์' ชี้พฤติการณ์ชั้น 14 มัด 'ทักษิณ-พท.'

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ "ทักษิณจะถือว่าล้มล้างการปกครองหรือไม่?" โดยระบุว่า

'ปธ.วิปรัฐบาล' ลั่นไม่มีหน้าที่ตามจับ 'พล.อ.พิศาล' โวย 'โรม' ปั่นกระทู้ปลุกแตกแยก

'วิสุทธิ์' บอกไม่รู้ตอนนี้ 'พิศาล' อยู่ไหน วิปรัฐบาลไม่มีหน้าที่ตามจับใคร ยันไม่ได้ปกป้อง แต่ไม่มีใครใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ ข้องใจ 'โรม' ตั้งกระทู้ปั่นในสภาฯ เพื่ออะไร หวั่นจุดชนวนแตกแยก

ศาลยกฟ้อง 'หลานชายอดีตรมต.' ล่วงละเมิดทางเพศ 'ดาราสาว'

ศาลอาญายกฟ้อง ‘เอ็ม’ หลานชาย อดีต รมว.ต่างประเทศ ไม่ผิดล่วงละเมิดทางเพศหญิง ชี้หลักฐานจำเลยชัดผู้เสียหายมีสติยินยอม ผลตรวจเเพทย์ไม่พบยานอนหลับ

นักร้องหนาว! อดีตผู้พิพากษาฯ เตือนระวังกระทบสิทธิส่วนบุคคล ผิดหมิ่นประมาท-พรบ.คอมพ์

นายเกษม ศุภสิทธิ์ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพัทยา ได้ให้ความเห็นตามกรณี ที่ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้แถลง