'สังศิต' จวก ส.ส.โง่เขลา ตัดงบฯ 'ฝายแกนดินซีเมนต์' ผลักไสชาวบ้านจมลึกสู่ความยากจน

6 มี.ค.2567 - รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา เผยแพร่บทความ เรื่อง หยุดผลักไสชาวอีสาน ชาวเหนือจมลึกสู่ความยากจน!? ตัดงบประมาณ “ฝายแกนดินซีเมนต์” 2567

“มติตัดงบประมาณ “ฝายแกนดินซีเมนต์” 2567 ด้วยข้อมูลข้อเท็จจริง ที่ผิดพลาด ด้วยชุดความเห็นที่มโน ของผู้อภิปรายในที่ประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณ 2567 จะส่งผลให้กว่า 5 ล้านครัวเรือนจะขาดน้ำแล้งนี้ จมลึกสู่ความยากจนทันที! ใบหน้า ชื่อของพวกท่านจะถูกจารึกในความทรงจำของพี่น้องชาวอีสาน และชาวเหนือตลอดไป”

กรณีมี 2 นักการเมืองจาก 2 พรรคการเมือง ให้สัมภาษณ์ว่า
ให้ตัดงบประมาณ “ฝายแกนดินซีเมนต์” ขององค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศกว่า 4 พันโครงการ งบประมาณกว่า 2 พันล้านบาท นักการเมืองคนที่ถามว่า “ดินซีเมนต์” ซื้อที่ใด ผูกขาดหรือไม่ และตั้งข้อสังเกตว่างบประมาณโครงการฝายแกนดินซีเมนต์จะลงไปที่ภาคอีสาน และภาคเหนือมาก?!(https://www.thairath.co.th/news/politic/2765986) ส่วนนักการเมืองอีกพรรคหนึ่ง อภิปรายในที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ว่าเป็นโครงการ “แจกเสื้อโหล” ไม่คุ้มค่า และจะกลายเป็นพิษในระยะยาว จึงสมควรตัดงบประมาณ (https://web.facebook.com/MoveForwardPartyThailand/posts/pfbid0FWnFUexNcnRwahSEFppHNUrEb6dWyQGNrtC6zk3Kn6wAi4VwutqbJXb1qc5pMdSXl?_rdc=1&_rdr) // (https://mgronline.com/politics/detail/9670000017907#)

มีประเด็นอภิปรายในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (14 กพ.2567) ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ว่าจะตัดงบประมาณโครงการสร้างฝายแกนดินซีเมนต์ของ อปท.ทั้งประเทศหรือไม่ ? ที่น่าห่วงใยก็คือ คณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณก็ไม่มีความรู้ หรือมีข้อมูลจริงที่ถูกต้องหรือไม่?

หากคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณฯ มีมติตัดงบประมาณ “โครงการฝายแกนดินซีเมนต์“ ทิ้งทั้งหมดด้วยชุดข้อมูลที่ผิดพลาด ไม่รู้จริง นั่นหมายความพี่น้องชาวอีสาน และพี่น้องชาวเหนือกว่า 5 ล้านครัวเรือนจะขาดน้ำปลูกพืชสร้างรายได้ทันที!?

ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณฯ และนักการเมืองผู้อภิปรายด้วยชุดความเห็นที่ผิดพลาดต้องรับผิดชอบ!!

สำหรับประเด็นที่นักการเมืองใช้ชุดความเห็นส่วนตนและข้อมูลนำมาอภิปรายในที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณฯ บ่งว่า มีความเขลาไม่รู้ ไม่ศึกษาข้อเท็จจริงนับเป็นอันตราย และผิดศีลธรรมอย่างยิ่งในการป้อนข้อมูลที่ผิดพลาด ดัดแปลงแปลความไม่ถูกต้อง (fake) สู่สาธารณะและอาจะเป็นพาหะให้คณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณฯ มีมติผิดพลาด ”ผลักไสให้พี่น้องชาวอีสานและพี่น้องชาวเหนือจมลึกสู่ความยากจนต่อไป

ประเด็น ชุดความเห็น บิดเบือน ข้อเท็จจริงที่ผิดพลาดของผู้อภิปราย แบ่งเจตนาได้ดังนี้

1. แปลความ บิดเบือนข้อเท็จจริง

1.1 วิธีคิดฉ้อฉล เฉลี่ยราคาฝายฯ เท่ากัน !!??
โดยรวมโครงการ 4,345 รายการ งบประมาณกว่า 2,021 ล้านบาท เฉลี่ย 465,047 บาทต่อรายการ ตั้งข้อสังเกตชี้นำด้วยวิธีคิดส่วนตนว่า เพื่อไม่ต้องแข่งขัน (e-bidding) ในการจัดซื้อจัดจ้าง การแปลความบิดเบือนเช่นนี้ เป็นการใส่ข้อมูลพิษเพื่อโน้มน้าวชักนำให้คณะกรรมการการพิจารณางบประมาณฯ และประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดว่าจะเป็นโครงการไม่โปร่งใส และราคาฝายแกนดินซีเมนต์ทุกรายการเท่ากันหมด

โดยข้อเท็จจริงแล้ว โครงการฝายแกนดินซีเมนต์ 4,345 รายการ ที่ อปท.ทั่วประเทศยื่นของบประมาณมานั้น มีขนาดต่างกันตามลักษณะพื้นที่ ภูมิประเทศ ราคาอาจมีตั้งแต่ระดับหมื่นถึงแสนบาท แล้วแต่ขนาดของฝาย (มีระบุรายละเอียดตามแบบฟอร์มยื่นขอ) หากเกิน 5 แสนก็ต้อง e-bidding ตามกฎหมายอยู่แล้ว ชาว อปท.ทราบดีอยู่แล้ว ฉะนั้น หลักคิดเฉลี่ยราคาฝายแกนดินซีเมนต์ เท่ากับ 465,047 บาทต่อรายการ เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง (ฝายขนาดต่างกัน ราคาย่อมต่างกัน คำนวณเป็นราคาเฉลี่ย เป็นวิธีคิดที่ฉ้อฉล) (ตามที่อภิปรายที่ประชุมฯและใน : (https://web.facebook.com/MoveForwardPartyThailand/posts/pfbid0FWnFUexNcnRwahSEFppHNUrEb6dWyQGNrtC6zk3Kn6wAi4VwutqbJXb1qc5pMdSXl?_rdc=1&_rdr)

1.2 กล่าวหา บิดเบือนข้อเท็จจริงว่า โฆษณาเกินจริง?

ส.ส ผู้อภิปรายในที่ประชุม และกล่าวไว้ในเฟสบุ๊คของพรรคฯ ว่า “ปัญหาคือเก็บน้ำได้นิดเดียว ไม่เพียงพอกับการทำเกษตรแน่นอน แต่มักถูกนำมาโฆษณาเกินจริง” เป็นการกล่าว จากมโนส่วนตน ขาดการค้นคว้าใฝ่รู้ การนำชุดความเห็น ไร้ความจริง (fake) สู่สาธารณะจัดเป็นชุดความคิดพิษที่เป็นภัยต่อสังคมยิ่ง

ความจริงจากการวิจัยการประเมินผลด้านเศรษฐกิจและสังคมการพัฒนากลุ่มผู้ใช้น้ำนอกเขตชลประทาน สนับสนุนการวิจัยโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) 29 กุมภาพันธ์ 2567 // รศ.ดร.ทวนทันกิจไพศาลสกลุ คณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ตาราง A) วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาวิเคราะห์ต้นทุนผลประโยชน์ของฝายแกนดินซีเมนต์

จากตาราง A จะพบว่า ฝายแกนดินซีเมนต์แต่ละขนาด (S M L) เก็บน้ำได้เท่าไร? พื้นที่เกษตรไ้ด้ประโยชน์กี่ไร่ ชาวบ้านได้ประโยชน์กี่ครัวเรือน? และงบประมาณก่อสร้างมีตั้งแต่ 5,000 - 3,000,000 บาท

ยังมีข้อเท็จจริงที่ถูกบิดเบือน แปลความตามมโนส่วนตนอีกหลายประเด็น จะนำเป็นแบนเนอร์เป็นข้อเท็จจริงให้เข้าใจง่าย อย่างไรก็ตาม จากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น วินิจฉัยได้ว่า เมื่อผู้อภิปรายให้ข้อมูล พยานคำพูด หลักฐานไม่น่าเชื่อถือคำอภิปรายประเด็นอื่นๆ ก็ไม่ควรเชื่อถือเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องหยิบยกขึ้นพิจารณาวินิจฉัยต่อไป ?

ประธานคณะกรรมาธิการ ฯ กล่าวว่า“ ผมได้รับแจ้งจากนายกอบต. บ่อเกลือใต้ จังหวัดน่านว่า อบต. เสนอ โครงการฝายแกนดินซีเมนต์ ไว้ 6 โครงการ เพื่อกักเก็บน้ำเอาไว้ทำน้ำประปาใช้ในหน้าแล้งสำหรับประชาชน 40 หมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านไม่เคยมีน้ำใช้ในหน้าแล้งมาก่อน หากโครงการนี้ตกไป พวกเราคงผิดหวังกันมาก”

ประธานคณะกรรมาธิการ ฯ เห็นว่าการเข้าใจผิด เป็นเรื่องธรรมดา แต่การไปเอาฝายดินที่ผสมกับปูน ชนิดอื่น มาแอบอ้าง กับคณะอนุกรรมธิการงบประมาณ ว่าเป็นฝายแกนดินซิเมนต์ ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิด แต่เป็นการจงใจกระทำผิดทางด้านคุณธรรมและจริยธรรมของบุคคลสาธารณะ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง และไม่สมควรทำเลย

การทำฝายแกนดินซีเมนต์ไม่ใช่เป็นการเอาดินมาผสมกับปูนอย่างมั่วๆ โดยไม่มีหลักวิชาการ เราทำงานมีหลักการและหลักวิชาการรองรับจากนักวิชาการคืออาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ฝายแกนดินซิเมนต์มีคุณสมบัติพิเศษประการหนึ่งที่แตกแตกต่างจากฝ่ายทุกประเภท คือไม่สามารถ ถูกทำลายด้วยกระแสน้ำในน้ำ ฝาย ทุกประเภทสู้ความรุนแรงของ กระแสน้ำในหน้าน้ำไม่ได้ แต่ฝาย ประเภทนี้อยู่ได้ เพราะเป็นฝายที่ถูกออกแบบมา เพื่อเอาชนะปัญหาในอดีตทั้งหมด คือฝายประเภทนี้มีแกนที่ฝังลึกลงไปใต้ท้องน้ำเป็นสองเท่าของความสูงของตัวฝาย เพื่อไม่ให้น้ำสามารถลอดใต้ท้องฝายออกได้ นอกจากนี้เพื่อป้องกันหูของฝายมิให้ฉีกขาดจากกระแสน้ำ หูของฝายทั้งสองด้านจึงถูกฝังลึกเข้าไปอยู่ที่ตลิ่งทั้งสองด้าน ด้วยความยาวเป็นสองเท่าของความสูงของตัวฝาย น้ำจึงไม่สามารถกัดเซาะทำลายหูฝายได้

ท่านบอกว่าฝายที่แค่ใช้ดินผสมกับปูนไม่น่าเชื่อถือ ฟังแล้วก็น่าเชื่อถือจริงๆ แต่เพราะคุณสมบัติของดินในภาคอีสานและภาคเหนือเป็นดินที่ เป็นกรวด ต้องส่วนนี้แหละเมื่อเอาไปผสมกับปูนมันจึงมีคุณสมบัติที่แข็งแรงมาก คณะนักวิชาการจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้วิจัยคุณภาพของดินทุกแห่งในประเทศประเทศไทย เพื่อค้นหาสูตรที่ใช้ผสมกับปูนแล้วมีความแข็งแกร่งมากที่สุด เพราะฉะนั้นดินแต่ละแห่งจะใช้ผสมกับปูนในสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน นี่เป็นหลักวิชาการทางด้านวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นผลได้จริง

ประธานคณะกรรมาธิการ ฯ เสนอว่าเพื่อยุติความเห็นที่แตกต่างกัน คณะกรรมาธิการยินดีเรียนเชิญสส. ของทั้งสองพรรคไปดูของจริงด้วยกัน ให้ชาวบ้านเป็นคนอธิบาย และให้ซักถามได้เต็มที่ เมื่อซักถามเรียบร้อยแล้ว ท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อเป็นสิทธิ์ของท่าน ไม่ต้องเถียงกัน หากท่านมีดวงตาเห็นธรรม ถือว่าเป็นเรื่องดี เรื่องราวต่างๆยุติลงอย่างมีความสุขกันทั้งสองฝ่าย ไม่ถือสาหาความต่อกันอีกต่อไป

หากท่านฟังชาวบ้านแล้วยังไม่เชื่อ ก็ไม่เป็นไร ปล่อยไป ให้ไปคิดให้ดีๆ อีก 10 ปี 20 ปีค่อยคุยกันใหม่กับชาวบ้าน คุยแล้วยังไม่เชื่อชาวบ้าน ถือว่าท่านไม่เคยทำบุญร่วมกับชาวบ้านมาก่อนก็แล้วกัน อย่าไปถือเป็นอคติต่อกันอีกต่อไป

ประธานคณะกรรมธิการ ฯ ให้ความเห็นส่วนตัวว่า หลักเกณฑ์ในการทำงานร่วมกับชาวบ้านควรจะประเมินผลงานอย่างไรดี “ ผมเห็นว่าเมื่อทำโครงการแล้ว ให้ชาวบ้านเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินผลงาน ถ้าชาวบ้านบอกว่าดี แต่ไม่มีประโยชน์ มีแล้วก็ไม่ได้ทำให้พวกเขามีความสุข อย่างนี้ไม่ควรทำ ควรยุติโครงการเสีย หากทำแล้วชาวบ้านบอกว่ามีประโยชน์ดี แต่ไม่มีความสุขเลย โครงการอย่างนี้ก็อย่าไปทำเลย ควรเลิกเสีย จะทำโครงการอะไรก็ตาม ต้องให้ประชาชนบอกว่าเป็นโครงการดี มีประโยชน์ดี มีแล้วทำให้ชาวบ้านมีความสุข อย่างนี้จึงควรจะทำ ความทุกข์ และปัญหาของชาวบ้านเป็นจุดเริ่มต้นของการทำโครงการทุกอย่างของเรา ทำแล้วต้องให้ชาวบ้านอยู่ได้อย่างร่มเย็นเป็นสุขมากกว่าเดิมเล็กน้อย เล็กน้อยถือว่าดี มากกว่าเล็กน้อยถือว่าดีกว่า ไม่ต้องคาดหวังอะไรมาก ให้ชาวบ้านพอใจ เราก็พอใจแล้ว