กรณีนักโทษชั้น 14 รพ.ตำรวจ เมื่อวันหนึ่งถ้าประชนเห็นว่าทนไม่ไหวแล้ว รัฐบาลคงจะเอาไม่อยู่กันเลย แม้จะใช้อำนาจจัดการทุกสิ่งอย่าง แต่ถ้าอำนาจเอาไม่อยู่อีก ลงท้ายจะนำพาไปสู่การฆ่ากันอีกหลายรอบ มีคนตาย บาดเจ็บอีกจำนวนมากและคงไม่จบสิ้น
6 ก.พ.2567-นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า ดีลกลับบ้านของอภิสิทธิ์นักโทษชั้น 14 รพ.ตำรวจ จะได้รับการปฏิบัติตามพันธะสัญญาที่ทำกันไว้หรือไม่ หลังวันที่ 18 ก.พ.นี้ มีคำตอบจากผลกระทบของสถานการณ์จะเบี้ยวหรือรักษาคำมั่นนายกฯเศรษฐา ทวีสิน พอแค่นี้ ไปต่อไม่ได้
นายจตุพร กล่าวว่า การเริ่มต้นดีลที่ไม่ถูกต้องย่อมแสดงถึงใบเสร็จการสมคบคิดยึดอำนาจเมื่อ 22 พ.ค. 2557 แต่มายื่นแสดงผลการกระทำเมื่อ 22 ส.ค. 2566 เพราะถ้าไม่มีดีลทำข้อตกลงกันแล้ว คงมาลงเอยแบบกลับบ้านไม่ต้องติดคุกสักวันไม่ได้เลย อีกอย่างดีลแบบนี้เป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กระบวนการยุติธรรมหลายแวดวงมาก
นอกจากนี้ตำรวจต้องการนำตัวนักโทษเด็ดขาดทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ไปส่งอัยการสั่งฟ้องคดี 112 ยังต้องทำเรื่องถึงเรือนจำ แต่คำตอบกลับให้เข้าพบไม่ได้ ดังนั้นเมื่อแจ้งข้อกล่าวหาไม่ได้ วันที่ออกจากชั้น 14 จะถูกตำรวจอายัดตัวทันที เพราะต้องปฏิบัติกับผู้ต้องหาเด็ดขาดเหมือนกันทุกคดี
นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ประชาชนสั่งสมในเรื่องความไม่ยุติธรรม ไม่ว่ากรณีถวายสัตย์ไม่ครบข้อความ เป็นนายกฯ 8 ปีเป็นอีกไม่ได้ และการนิยามหัวหน้า คสช.ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการสั่งสมความรู้สึกของคน พอมาถึงเรื่องพรรคก้าวไกลเจอข้อหาล้มล้างการปกครอง ยิ่งเพิ่มการสั่งสมอารมณ์ประชาชนมากขึ้นในเรื่องความไม่ยุติธรรม
ดังนั้น การทำตัวไม่เสมอกันมาตั้งแต่ต้นจึงกลายเป็นปัญหา ถ้ามีความเป็นธรรมและปฏิบัติแบบเสมอกันแล้วประเทศยอมมีหลัก ดังนั้น แต่ละฝ่ายต้องคิดกันว่า การดีลขณะนี้เป็นการสร้างปัญหาไต่บนเส้นลวดกันแล้วหรือไม่?
นายจตุพร กล่าวว่า กรณีนักโทษชั้น 14 รพ.ตำรวจ เมื่อวันหนึ่งถ้าประชนเห็นว่าทนไม่ไหวแล้ว รัฐบาลคงจะเอาไม่อยู่กันเลย แม้จะใช้อำนาจจัดการทุกสิ่งอย่าง แต่ถ้าอำนาจเอาไม่อยู่อีก ลงท้ายจะนำพาไปสู่การฆ่ากันอีกหลายรอบ มีคนตาย บาดเจ็บอีกจำนวนมากและคงไม่จบสิ้น
“เมื่อสถานการณ์ละเอียดอ่อนแล้วมีแต่การทำให้ถูกต้องจึงจะแก้ไขได้ เพื่อคนจะไม่มีความรู้สึกสั่งสมความไม่ยุติธรรม แต่พวกหนึ่งสร้างอภิสิทธิ์ชนอยู่ชั้น 14 โดยไม่มีใครรู้สึกรู้สาอะไรเลย ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งถูกกระทำไม่ได้รับความยุติธรรม ยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกขึ้นทันที สิ่งนี้คือปัญหาใหญ่และกระทบไปอย่างกว้างขวาง”
พร้อม กล่าวว่า ใครที่เป็นองค์ประกอบการดีลทั้งหลาย คิดว่าจะคุมสถานการณ์อยู่จนถึงวันจะครบกำหนดการดีลหรือไม่ ถ้าดีลถูกหักจะลงท้ายด้วยการยึดอนาจหรือไม่ เหมือน รธน.ปี 2540 เปิดช่องให้พรรคไทยรักไทยเติบโตจนคุมไม่ได้ ตรวจสอบไม่ได้ เมื่อมา รธน. 2560 คิดว่าจะคุม สว.ได้ แต่ สว.กำลังพ้นวาระและพรรคการเมืองอีกฝ่ายเริ่มมีโอกาสเข้ามาคุมแทนที่หมด ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากกรณีความยุติธรรมที่ไม่ยุติธรรมเสมอหน้า เท่าเทียมกันทางกฎหมาย
ส่วนกรณีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายจตุพร กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลเพื่อไทยกล้าทำต้องลงมือทำ ไม่ต้องรอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ส่งเอกสารผลการศึกษามาให้ตรวจสอบ เพราะรัฐบาลไม่ได้สั่งให้่ศึกษา อีกทั้งไม่ได้ส่งหนังสือขอ ปปช.ส่งมาให้ ดังนั้น ถ้าอยากเห็นผลการศึกษารัฐบาลต้องลงมือทำเลย แล้ว ปปช.จะส่งเอกสารมาให้เอง
อีกทั้ง กล่าวว่า การประกาศว่า ไม่กู้แล้วมากู้จึงเป็นความผิดมาตั้งแต่ต้น แล้วโครงการดิจิทัลยังเกิดทำให้หาประโยชน์ได้ทุกช่องทาง ยิ่งมีการดีลที่เป็นสัญญาไม่ต้องติดคุกและนายเศรษฐา เป็นนายกฯ ทำให้ประเทศเสียหาย เพราะเสียโอกาสในการใช้งบประมาณ 2567 ที่ถูกดึงให้ล่าช้า
“สิ่งเหล่านี้อธิบายความถูกต้องไม่ได้ เพราะมันเป็นดีลที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนและประเทศเสียหายในการใช้จ่ายงบประมาณ 2567”
นายจตุพร กล่าวว่า หลังจาก 18 ก.พ.เมื่อนักโทษทักษิณ ได้กลับบ้านไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะการไม่ยอมติดคุกสักวันเป็นพฤติกรรมของพวกอภิสิทธิ์ชน ทั้งที่อ้างถึงความสำนึกยอมรับการกระทำผิดในคดีทุจริตที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้น จึงเป็นห่วงข้าราชการที่มาเกี่ยวข้อง เพราะชีวิตถูกแขวนขาข้างหนึ่งเข้าคุกไว้แล้ว แล้วจะกลายเป็นคนสิ้นอนาคต ไม่เพียงเท่านั้นยังลากเอาครอบครัวมารับผลกระทบอีกด้วย
“เมื่อตัวเองเป็นคนกระทำผิดเองทั้งนั้น ก็อย่าไปโทษใครเลยว่า ถูกรังแก ถูกกระทำ เพราะตัวเองสารภาพยอมรับความผิดในคดีทุจริตคอรัปชันเอง หากเป็นนักสู้เพื่อประชาธิปไตยมาจริง จนถูกยึดอำนาจ ถ้าก้มหน้ารับโทษ 8 ปีโดยไม่สะทกสะท้านแล้ว ประชาชนจะเข้าใจการยอมรับกระบวนการยุติธรรมและจะเห็นใจ”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชนักติดหลัง-หอกดาบ ที่ค้างอยู่ของ"ทักษิณ"
แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานะ ผู้ถูกร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง-ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ "คดีล้มล้างการปกครอง" ที่ศาล รธน.มีมติยกคำร้องไปเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา
'ดร.ณัฏฐ์' ชี้กรณี 'ทักษิณ-พท.' รอดคดีล้มล้างฯ ไม่ตัดอำนาจ 'กกต.' ไต่สวนยุบพรรคได้
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยว่าการกระทำของนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยเป็นการ
'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน
ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
'นันทเดช' ลั่น! อย่ากลัว 'ทักษิณ' จะใหญ่โตไปกว่านี้
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ อย่ากลั
ทวีโยงคาร์บ๊องป้องแม้วพักชั้น14
ตามคาด "ทักษิณ" ไม่เข้าชี้แจง กมธ.ปมนักโทษชั้น 14 "ทวี" แจงแทน
'ทวี' ยันให้ข้อมูลความจริงที่ไม่มีกฎหมายห้าม ใครเห็นต่างก็หาหลักฐานมาหักล้าง ปมทักษิณชั้น 14
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร