ระทึก! ศาลรธน. นัดอ่านคำวินิจฉัย ‘ก้าวไกล’ หาเสียงแก้ไขมาตรา 112

30 ม.ค.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 31 ม.ค. เวลา 09.30 น. องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ ลงมติและออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในเวลา 14.00 น. กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความอดีตพระพุทธะอิสระ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่าการกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลขณะนั้น ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 1 และ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 2 เสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. … เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งและยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่

สำหรับมาตรการการรักษาความปลอดภัยโดยรอบอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ยังคงยึดตามระเบียบสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญที่จะเป็นพื้นที่ควบคุมตามระเบียบศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในที่ทำการศาล พ.ศ.2562 กำหนดห้ามผู้ใดเข้ามาในพื้นที่ควบคุม เว้นแต่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มาปฏิบัติงาน หรือมาติดต่อราชการ และต้องผ่านการตรวจตัวบุคคลและสิ่งของที่นำมา ตามวิธีการของเจ้าหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย เนื่องจากหน่วยงานทางความมั่นคง ได้แจ้งต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าอาจมีสถานการณ์ที่มีสิ่งบอกเหตุหรือข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าอาจจะมีเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยและความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้นได้ โดยมีการนำแผงรั้วเหล็กมากั้นโดยรอบพื้นที่ทั้งด้านในและด้านนอกอาคารฯ

ขณะที่บุุคคลที่จะเข้ารับฟังการอ่านคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณีและบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้น โดยจะต้องแลกบัตร ฝากสิ่งของ อาทิ กระเป๋า โทรศัพท์มือถือ เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมทั้งต้องผ่านจุดตรวจค้นอาวุธ ซึ่งจะอยู่บริเวณเชิงบันไดทางขึ้นห้องพิจารณาคดี นอกจากนี้ ทางสำนักงานฯ ยังได้อำนวยความสะดวกให้สื่อมวลชนและประชาชนที่เดินทางมารับฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเองด้วยการติดตั้งจอทีวีพร้อมลำโพงไว้เพื่อถ่ายทอดการอ่านคำวินิจฉัย จำนวน 2 จุดใหญ่ คือ ที่บริเวณโถงกลาง ชั้น 2 และบริเวณเชิงบันไดด้านนอกอาคาร ฝั่งทิศเหนือของ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ส่วนประชาชนทั่วไป สามารถติดตามผลการอ่านคำวินิจฉัยผ่านช่องทางยูทูบของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความอดีตพระพุทธะอิสระ ในฐานะผู้ร้อง แจ้งว่าจะเดินทางไปรับฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเอง โดยจะถึงที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ เวลาประมาณ 13.30 น. ส่วนทางพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้อง แจ้งว่านายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะไม่ไปรับฟังคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากต้องปฎิบัติหน้าที่ที่สภาผู้แทนราษฎร

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางแกนนำพรรคก้าวไกล จะไม่ได้เดินทางมารับฟังคำวินิจฉัย แต่ทางสำนักงานฯได้มีการประสานทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาดูแลความปลอดภัยโดยรอบอาคารสถานที่เช่นเดียวกับวันอ่านคำวินิจฉัยคดีของนายพิธา ถือหุ้นสื่อบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน ) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจะมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตามสถานการณ์ เฝ้าติดตามกรณีมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ซึ่งการพิจารณาคดีสำคัญๆ ที่ผ่านมาการจัดกำลังดูแลความปลอดภัยจะใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.ทุ่งสองห้อง เป็นกำลังหลัก ร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไพบูลย์' เบรกหัวทิ่มมือกฎหมายเพื่อไทย  คลอดประชามติ 2 ครั้ง

“ไพบูลย์” โต้ ”ชูศักดิ์“ ใช้คำวินิจฉัยส่วนตน 6 ตุลาการอ้างทําประชามติ 2 ครั้งไม่ได้ บอก ต้องยึดคําวิฉัยกลาง ชี้มีแค่แก้รายมาตราเท่านั้นไม่ต้องทำ

'ธนกร' ฟาด 'พิธา' หยุดโยงมั่ว ซัดพรรคการเมืองจะอยู่หรือตายเพราะทำตัวเอง

'ธนกร' ฟาด 'พิธา' ตรรกวิบัติ ชี้ พรรคการเมืองไม่ได้ตายด้วยองค์กรอิสระ แต่ตายเพราะทำตัวเอง ชี้ กกต.-ศาลวินิจฉัย ยึดตามข้อกฎหมาย เชื่อ ถ้าไม่ทำผิดก็ไร้โทษ จี้ หยุดพ่นหลักการพิษ โยงไกลถึงรัฐประหาร ทำปชช.สับสน ไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมของประเทศได้

โยงได้! พิธาซัด 'ศาล-กกต.-รัฐประหาร' ปมทักษิณครอบงำพรรค

'พิธา' ชี้ 'เพื่อไทย' ควรได้สิทธิชี้แจง ปม 'คำร้องทักษิณครอบงำ' มอง ไม่ควรมี 2 มาตรฐานยุบพรรค แต่ต้องเป็นไปตามสัดส่วนความผิด บอกขนาดคนทำรัฐประหาร ยังไม่เห็นเคยรับโทษ

'พระเอกพิธา' บอกยื้อ 'นิรโทษฯ-แก้ รธน.' กระทบประชาชนที่โดนลิดรอนสิทธิ!

'พิธา' มองกระบวนการ 'แก้ รธน.-นิรโทษกรรม' ถูกประวิงเวลา' เหตุมัวแต่ศึกษาแล้วศึกษาอีกโดยไม่จำเป็น บอก เป็นห่วงสัญญาที่ 'รัฐบาล' เคยให้ไว้กับ ปชช.