
ทีมสว จ่อเคาะรายชื่อผู้อภิปราย แง้ม อาจมี ‘โครงการแลนด์บริดจ์’ แต่ขอดูจุดประสงค์ก่อน ย้ำ ต้องการส่งเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่จับผิดความล้มเหลว
28 ม.ค.2567 – นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังจากยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติในที่ประชุมวุฒิสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 เพื่อให้รัฐบาลชี้แจง และตอบข้อซักถาม ว่า ตามที่เราได้ขอช่วงเวลาอภิปรายรัฐบาล จะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งขณะนี้ อยู่ในช่วงที่ประธานวุฒิสภา กำลังตรวจสอบรายชื่อเพื่อส่งเรื่องไปให้รัฐบาล และจะมีคณะทำงานเจราจาตกลง โดยมี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา เป็นผู้นำเจรจา และในส่วนของ สว. ก็จะทำหนังสือแจ้งสมาชิก ที่จะอภิปรายในประเด็นที่กำหนดไว้
เมื่อถามว่า จะใครร่วมอภิปรายบ้าง นายเสรีกล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนให้สมาชิก แสดงเจตจำนงเพื่อขออภิปราย ซึ่งเรากำหนดว่า จะไม่ปิดกั้น สว. ที่สนใจอภิปรายในประเด็นต่างๆ ตามความรู้ความสามารถของตน และจะให้ สว. แต่ละคนอภิปรายไม่เกินสองประเด็น อีกประมาณ 7-10 วัน ถึงจะมีการพิจารณาบุคคลที่จะเข้าร่วมอภิปราย
เมื่อถามว่า จะมุ่งโฟกัสประเด็นไหนเป็นพิเศษหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ประเด็นหลักเราก็เรียงตามความเหมาะสมไว้ สิ่งสำคัญคือเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจ ซึ่งนิด้าโพลทำสำรวจก็ปรากฏว่า เรื่องเศรษฐกิจ เป็นปัญหาที่ประชาชนกำลังประสบอย่างหนัก แต่ในขณะเดียวกันประชาชนก็ไม่เห็นด้วย กับโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เพราะอาจจะมีปัญหาอื่นตามมาอีกมาก ซึ่งปัญหาเศรษฐกิจก็มีปัญหาทุกยุคทุกสมัย อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะสร้างเศรษฐกิจโดยรวมอย่างไร ที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นจริง
“ส่วนจะอภิปรายเรื่องโครงการแลนด์บริดจ์ด้วยหรือไม่นั้น เราต้องดูก่อนว่าโครงการนี้กระทบกับเศรษฐกิจหรือไม่ เพราะรัฐบาลก็อยากให้โครงการนี้เกิดขึ้น เพราะน่าจะช่วยสร้างอาชีพ ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ แต่หากมองอีกมุม ในเรื่องความคุ้มค่าของทุน ปัญหาอยู่ที่ว่าต้องการให้เป็นอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ก็สามารถพูดอภิปรายได้” นายเสรี ระบุ
เมื่อถามว่า รัฐบาลทำงานมาเพียง 4-5 เดือน จะมีประเด็นเพียงพอที่ สว. จะอภิปรายได้จริงหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า เรื่องระยะเวลาที่รัฐบาลทำงาน แม้จะเป็นเพียงแค่ 4 เดือน แต่ต้องเข้าใจว่าญัตติที่เราเสนอ เราไม่ได้พูดถึงการทำงานล้มเหลวของรัฐบาล แต่เราพูดเพื่อให้รัฐบาลมาแถลงในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ซึ่งผลจากการหาเสียง การแถลงนโยบายต่างๆ หรือการดำเนินโครงการให้เป็นรูปธรรม คงยังไม่เกิดขึ้นได้ทันทีในเวลาแค่ 4 เดือน ฉะนั้นเราไม่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่เรากำลังส่งเสริมรัฐบาล ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งประเด็นที่เราได้เสนอไปก็มีจำนวนมากพอ ที่จะหยิบยกเพื่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชน นอกจากเรื่องเศรษฐกิจ ก็มีเรื่องกระบวนการยุติธรรม ที่สามารถแนะนำรัฐบาล เป็นการเสนอทางออกให้กับสังคมได้ มีอีกหลายหลายเรื่องที่เป็นประโยชน์ ระยะเวลาทำงาน 3-4 เดือน ไม่ใช่ปัญหา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ธกส. ช่วยคนชายแดน ยกหนี้กรณีเสียชีวิต ให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
ธกส. ออกมาตรการช่วยลูกค้าได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ยกหนี้กรณีลูกหนี้เสียชีวิตหรือสาบสูญ พร้อมปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 2 หมื่นบาท
เริ่มแล้ววันนี้! รัฐบาล ชวนฝากบ้านกับตำรวจ 4.0 อุ่นใจเดินทางไกลปีใหม่ 2569
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินหน้าโครงการ ตำรวจร่วมใจ ยกระดับความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ (ฝากบ้าน 4.0)
รัฐบาลขอบคุณทัพนักกีฬาไทย ครองเจ้าเหรียญทองทุบสถิติซีเกมส์
รัฐบาลขอบคุณทัพนักกีฬาไทย คว้า 233 เหรียญ ครองเจ้าเหรียญทอง สมัยที่ 14 ทำลายสถิติของกีฬาซีเกมส์
สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง
หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี
'อนุทิน' ระวัง! ติดกับดักตัวเอง ปมคำถามประชามติ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี วางกับดักตัวเอง ในการส่งคำถามประชามติของคณะรัฐมนตรี
รัฐบาลปลื้ม 'กทม.' คว้าแชมป์เมืองคนเที่ยวมากสุดในโลก สั่งพร้อมรับช่วงปีใหม่
รัฐบาลปลื้ม 'กรุงเทพมหานคร' คว้าอันดับ 1 เมืองที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุด ประจำปี 68 สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรองรับเที่ยวบินเพิ่มขึ้นช่วงเทศกาลปีใหม่

