'ถวิล' ร้องขอ 'ป.ป.ช.' ประสาน 'อสส.' ยื่นอุทธรณ์ คดี 'ยิ่งลักษณ์' โยกย้ายไม่เป็นธรรม ก่อนครบกำหนด 26 ม.ค. ยันไม่ต้องการเอาชนะหรือเจ็บแค้น แต่อยากให้กฎหมายไปให้ถึงที่สุด
24 ม.ค.2567 - นายถวิล เปลี่ยนศรี สว. ในฐานะอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงข่าวถึงการยื่นเรื่องขอให้อัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม ว่าในกรณีของตนเองมีหลายศาล หลังจากมีคำสั่งโยกย้ายได้ร้องศาลปกครองเมื่อปี 2554 และศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ชนะคดีจนได้รับการคืนตำแหน่ง ต่อมา สว.ได้มีการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลมีคำวินิจฉัยให้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ พร้อม ครม.ที่ลงมติ พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ต่อมาในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามมาตรา157 และส่งให้อัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จนกระทั่งศาลยกฟ้อง แต่คดีนี้ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด เพราะตามกฏหมายสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ ซึ่งตามกฏหมายผู้ที่จะสามารถยื่นอุทธรณ์คดีนี้ได้คืออัยการ และในขณะนี้ใกล้ครบกำหนด 30 วันคือวันที่ 26 ม.ค.นี้ ในการยื่นอุทธรณ์คดี
“ผมร้อนใจเพราะใกล้วันสิ้นสุดการยื่นอุทธรณ์ เมื่อกฎหมายเขียนเอาไว้ว่าสามารถไปให้ถึงที่สุดได้ ก็อยากให้เรื่องไปถึงที่สุด ไม่ได้หมายความว่าผมต้องการเอาชนะคะคาน หรือเจ็บแค้นอะไรต่างๆ ส่วนตัวไม่มี และเมื่อวานนี้ผมก็ได้ไปยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดแล้ว และในความเห็นผมคิดว่าคุณยิ่งลักษณ์และคณะ มีเจตนาพิเศษแน่นอน ที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับญาติและพรรคพวกและมีเจตนาที่จะทำให้ผมเสียหาย แต่ว่าศาลยกฟ้อง ผมจึงเห็นว่าควรจะไปให้ถึงชั้นอุทธรณ์ ผมเหมือนนักมวยแม้ไม่ได้เป็นผู้ฟ้องเองแต่ก็เป็นผู้เสียหายในคดี เหมือนนักมวยที่เขาไปจัดชก อัยการก็เปรียบเหมือนโปรโมเตอร์ ที่จับผมไปชก ผมก็แพ้ในครั้งแรก ผมก็อยากจะแก้มือเพราะผมเป็นผู้เสียหาย เมื่อขอแก้มือเองไม่ได้ คนที่จะทำให้ผมแก้มือได้ในชั้นอุทธรณ์ ก็คืออัยการ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอัยการสูงสุดจะเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ ไม่ปล่อยให้คดีนี้จบไปในชั้นต้นโดยที่ยังมีความสงสัยกันอยู่” นายถวิล กล่าว
นายถวิลกล่าวอีกว่า ในวันนี้(24 ม.ค.) จะไปยื่นเรื่องต่อป.ป.ช.ซึ่งเป็นต้นเรื่องที่จับเรื่องนี้มาไต่สวน ชี้มูลและนำมาสู่การฟ้องร้อง รวมถึงจะไปขอบคุณที่ได้นำเรื่องนี้ขึ้นมา และขอให้ประสานงานไปยัง อสส.เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป อย่างไรก็ตามเมื่อได้ดำเนินการมาถึงขั้นนี้ก็อยากให้รักษากระบวนการยุติธรรม ในเมื่อยังไปไม่สุดทาง หากเลิกกลางคันก็จะเป็นที่เคลือบแคลง แต่ถ้าไปถึงที่สุดแล้วสุดท้ายตนเองจะแพ้หรือชนะไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ ไม่ได้มุ่งหวังว่าจะต้องชนะให้ได้ อีกทั้งกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอน ตั้งแต่พนักงานสอบสวนไปจนถึงราชทัณฑ์ บางทีมีอะไรที่ไม่ปกติเกิดขึ้นทุกวัน ก็อยากรักษากระบวนการยุติธรรมให้เป็นที่พึ่งของประชาชน สร้างความเท่าเทียมความเสมอภาคให้เกิดขึ้น ไม่อยากให้เรื่องนี้มาเป็นจุดเล็กๆ ที่ทำให้สำนักงานอัยการฯต้องมีมลทิน
เมื่อถามว่า ยังมีความหวังอยู่หรือไม่เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 2 วันก็จะครบกำหนดแล้ว นายถวิล กล่าวว่า ยังหวังว่า ถ้าเวลาจะหมด อัยการสูงสุดหรือ ป.ป.ช. ก็น่าจะไปขอขยายระยะเวลาเพื่อให้มีเวลามากขึ้น ในการดำเนินการเรื่องนี้ให้มันไปถึงที่สุดได้
ด้านนายสมชาย แสวงการ สว. กล่าวว่าเรื่องนี้ยังไม่สิ้นสุดเพียงแต่เป็นอำนาจของอัยการ ดังนั้นอัยการสูงสุดมีหน้าที่และอำนาจ ในการตรวจสอบและเหลือเวลาในการยื่นอุทธรณ์อีกไม่กี่วัน แต่ท่านยังไม่ดำเนินการใดๆ ก็ทำให้เห็นว่าความยุติธรรมล่าช้าคือความอยุติธรรม จึงอยากฝากเรื่องนี้ไปยังอัยการสูงสุด อยากเห็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ ตั้งแต่ศาล อัยการ ตำรวจ ราชทัณฑ์ ซึ่งตอนนี้กำลังสั่นคลอนมาก สำหรับเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่มีความเสื่อมศรัทธา ไม่อยากเห็นองค์กรอัยการถูกกล่าวหาว่าไม่อุทธรณ์คดีเหมือนหลายคดีใหญ่ที่ผ่านมา เพราะองค์กรอัยการทำหน้าที่เป็นทนายแผ่นดิน เรื่องนี้ยังไม่ยุตติและสามารถใช้อำนาจหน้าที่ในกระบวนการอุทธรณ์ได้ จึงขอเรียกร้องช่วยให้ความอนุเคราะห์ทำหน้าที่ให้เต็มกำลัง ในการยื่นอุทธรณ์ ส่วนศาลจะตัดสินอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่พวกเรารับได้ แต่อย่าตัดตอนกระบวนการยุติธรรมด้วยการไม่ยื่นอุทธรณ์คดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ชาญชัย' จ่อยื่นศาลฎีกาฯครั้งที่ 3 เอาผิดเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำ 'ทักษิณ' เข้าคุก
'ชาญชัย' แจงข้อเท็จจริง 2 คำร้องต่อศาลฎีกาการเมือง 2 ครั้ง เหตุใด 'ทักษิณ' จึงไม่ถูกจำคุกตามคำพิพากษาของศาลแม้แต่วันเดียว ศาลชี้ให้ดูประเด็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทำผิดกฎหมายเรื่องใด เผยรวบรวมพยานหลักฐานได้50% จ่อยื่นครั้งที่ 3 เอาผิดเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำ'ทักษิณ'เข้าคุก
ย้อนตำนานจำนำข้าว 'ณัฐวุฒิ' ใช้โวหารตอบโต้ เป็นอุทาหรณ์ให้ 'อุ๊งอิ๊ง' จะจบแบบ 'ยิ่งลักษณ์'
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กกรณี น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตผอ.ครอบครัวเพื่อไทย และอดีตแกนนำคนเสื้อแดง เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ ว่า
บ้านเมืองไม่ใช่ของเล่น 'ทักษิณ' พาลูกเสี่ยงคุก ซ้ำรอย 'พ่อ-อาปู'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า
เอาแล้ว 'อุ๊งอิ๊ง' เป็นนายกฯ จะเป็นสารเร่งให้คนออกมาลงถนนมากกว่า 'เศรษฐา'
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
ครองแชมป์ตำแหน่ง 'บิดาแห่งข้อยกเว้น' ภารกิจนำ 'ยิ่งลักษณ์' กลับประเทศไทย
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นักเคลื่อนไหวทางการเมือง อดีตผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ว่า บิดาแห่งข้อยกเว้น ภารกิจนำยิ่งลักษณ์กลับประเทศไทย
'เนติบริกร' โชว์กึ๋นมือกฎหมายบอกคดี 40 สว.มีช่องสู้
นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี