16 ม.ค.2567- เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง อยู่ระหว่างการเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 19-21 ม.ค. ขณะวันเดียวกันนี้มี ครม. แจ้งลาการประชุม 5 คน ประกอบด้วย 1.นายเศรษฐา 2.นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ อยู่ระหว่างร่วมคณะนายกฯไปประชุม WEF 3.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ร่วมคณะนายกฯ ไปประชุม WEF 4. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และ5.นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย
นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม. ถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทผ่าน Digital Wallet ที่เดิมจะมีการประชุมในวันเดียวกันนี้ ว่า การประชุมดิจิทัลเลื่อนไปแล้ว รอช่วงสั้นๆเพราะเราได้รับหนังสือมาจากกฤษฎีกาแล้ว และได้ทราบว่าจะมีหนังสือจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย ก็เลยคิดว่าจะเอาทั้ง 2 ฉบับเข้าทีเดียวไม่ต้องประชุมหลายครั้ง เพราะเราไม่รู้ข้อเสนอแนะกับมาตรการต่างๆไปด้วยกันหรือเปล่า หรือว่ามันมีอะไรที่แตกต่างกัน ฉะนั้นวันนี้ทราบมาว่าหนังสือทาง ป.ป.ช.จะมีมา ก็จะรอดูว่ามีอะไรบ้าง และคิดว่าถ้าเรียบร้อยก็จะจัดประชุมทั้ง 2 เรื่องทันที ไม่เช่นนั้นถ้าออกมาตรการจากทางกฤษฎีกาไป หาก ป.ป.ช. มีเห็นต่างเราก็อาจจะติดขัดได้ ก็เลยรออีกสักนิดซึ่งอาจจะดีด้วยถ้านายกฯกลับมาพอดีจะได้ประชุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลให้น้ำหนักการเดินหน้าเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ป.ป.ช.จะมีความเห็นมาอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกคนมีน้ำหนักเท่ากัน ประชาชนเสนอมา การเมืองเสนอ พรรคร่วมฝ่ายค้านหรือพรรคร่วมรัฐบาลเสนอมาก็ให้น้ำหนักเท่ากัน คือจะรับฟังภายใต้เงื่อนไขวัตถุประสงค์ของโครงการ หากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์และไปไกลจากวัตถุประสงค์ที่จะทำอาจจะต้องพิจารณาให้ความสำคัญในอีกระดับหนึ่ง ถ้าเป็นเรื่องที่ตรงกับวัตถุประสงค์และมีข้อเสนอแนะที่น่ารับฟังก็จะเป็นเรื่องใช้ในการพิจารณาประกอบให้มากขึ้น
เมื่อถามว่าจะมีคำตอบให้ประชาชนได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องมีเพราะเป็นนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอน เนื่องจากเรามาในช่วงที่รัฐบาลอยู่ในสภาพที่เศรษฐกิจประเทศแย่ และความไม่ต่อเนื่องของงบประมาณก็มีอยู่ ฉะนั้นการดำเนินการจึงไม่ใช้เงื่อนไขเหมือนปกติที่เราเข้ามาแล้วสามารถใช้เงินงบประมาณในการจัดสรรได้ ขณะนี้ต้อง รอถึงเดือนพฤษภาคม งบปี 2567 ถึงจะได้ใช้ วันนี้งบปี 67 ใช่แค่เฉพาะงบประจำกับเงินเดือนข้าราชการเป็นหลัก ส่วนงบลงทุนยังใช้อะไรไม่ได้ ฉะนั้นเราอยู่ในสภาพแบบนี้แต่เราไม่ได้ให้ข้อจำกัดเหล่านี้มาเป็นข้อสะดุดหยุดลงของโครงการ เพราะถือเป็นโครงการสำคัญ เราเริ่มต้นจากการประเมินว่าเศรษฐกิจมีปัญหา รู้ทั้งหลักวิชาการ ซึ่งอาจจะมองแตกต่างกันได้ ดูทั้งเงื่อนไขประชาชนที่เราประสบพบตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้า คนยากคนจน หรือแม้กระทั่งคนชั้นกลาง เอสเอ็มอี หรือธุรกิจทั้งหมด ทุกคนรู้สึกว่ามันเป็นปัญหา มีสภาพที่ไม่ขยับขับเคลื่อน หลายบริษัทต้องปิดกิจการลง โดยเฉพาะเอสเอ็มอีในช่วงวิกฤตที่ผ่านมาปิดลงไปเยอะ ฉะนั้นความจำเป็นที่เราคิดว่าจะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้วงจรเศรษฐกิจหรือความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจทั้งหมดขับเคลื่อนมีความสำคัญ
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เราอยู่ในระบบทุนนิยมจะนิ่งเฉยอย่างนี้ไม่ได้ ฉะนั้นเราจำเป็นต้องขับเคลื่อน แต่การขับเคลื่อนในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการขับเคลื่อนที่ให้พี่น้องประชาชนได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจร่วมกัน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและการสร้างงาน ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะดูแลพี่น้องประชาชนทุกคน วันนี้เราเถียงกันในเรื่องหลักการ และเถียงในเรื่องวิธีคิด ในเรื่องระบบการจัดการ ไม่ได้หมายความว่าไม่สำคัญ แต่การเถียงกันทั้งหมดต้องอิงฐานที่พี่น้องประชาชนประสบอยู่ เราอยู่ในระบบทุนนิยม จะขยับระบบทุนนิยมให้เดินหน้าไปได้ ก็ต้องคำนึงถึงจิตใจและความมนุษย์ของประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ฉะนั้นโครงการนี้เป็นโครงการที่เราพุ่งเป้ากระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่โครงการแจกเงิน และเชื่อว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้า จะทำให้การจ้างงานเกิดขึ้นภายใต้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังมีโครงการอื่นๆของรัฐบาลอีกหลายเรื่องทั้งเรื่องเศรษฐกิจการค้า การขับเคลื่อนองค์กรของรัฐ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญอีกตัวหนึ่งที่จะทำให้เกิดขึ้นมา
“ฉะนั้นขอความกรุณาอย่าเอาวิชาการมานั่งเถียงกัน แต่เอาวิชาการมาเป็นข้อพึงระวังได้และต้องคำนึงถึงชีวิตที่เป็นจริง เพราะเวลาเราถกเถียงกันในหมู่ข้าราชการระดับสูงหรือนักวิชาการก็ดี เราเถียงบนพื้นฐานที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ประสบปัญหาที่พี่น้องประชาชนได้รับ จึงอยากเชิญชวนให้เรื่องนี้มาช่วยกันพูด ช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้ปัญหามันดีขึ้น ถ้ามีวิธีการที่ดีกว่านี้เราไม่ขัดข้องอะไรยินดีรับฟัง มีอะไรที่บอกว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่กลไลราชการในปัจจุบันถือเป็นกลไกเดิมที่ทำอยู่ในรัฐบาลเดิม และทำวิธีการเดิมๆ ดังนั้นเรายังไม่เห็นว่าภายใต้กลไกที่เคยทำปฏิบัติมาแบบเดิมๆจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรให้ดีขึ้น การที่เราเสนอสิ่งใหม่ควรดูในกรอบของสิ่งใหม่ และดูว่าตรงนั้นต้องปรับปรุงแก้ไขอะไรเพื่อให้เดินหน้าได้ ฉะนั้นผมขอเชิญชวนทุกฝ่ายเริ่มต้นจากความเป็นจริง เอากรอบวิชาการมาจับ อย่าใช้ความรู้สึกเฉพาะด้านของตัวเอง และต้องยอมรับว่าเรื่องต่างๆในการแก้ไขต้องใช้ความร่วมมือด้วยกันทุกๆเรื่อง วันนี้เป็นระบบทุนนิยมเราแข่งขันสู้กัน พยายามจัดการให้ระบบดีที่สุดแต่ก็ต้องเป็นทุนนิยมที่มีหัวใจและคำนึงถึงความเป็นจริงของมนุษย์และคนในประเทศไทยด้วยกัน”รองนายกฯกล่าว
เมื่อถามว่า ความเห็นของ ป.ป.ช.จะมาตอนไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ได้ยินว่าจะมาเร็วๆนี้ เมื่อรับทราบมาเราก็เลยรอ ตนว่าอาทิตย์สองอาทิตย์ก็ควรรู้แล้ว พอดีนายกฯก็กลับมา และอีก 2 วันตนต้องไปสหรัฐอเมริกาและกลับมาใกล้ๆกัน จะพร้อมกันทันทีจะเป็นวันที่ประชุมครม.สัญจร หลังจากนั้นทุกอย่างมันมาก็อาจจะเดินหน้าได้ทุกเรื่องหลังจากครม.สัญจรจะเอาเรื่องเข้า ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและอีกหลายๆเรื่อง
ถามว่าความเห็นของ ป.ป.ช.จะสร้างเงื่อนไขให้เป็นข้อจำกัดของรัฐบาลหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบต้องถาม ป.ป.ช. จะออกมาจริงหรือเปล่ายังไม่รู้เลย แต่เราได้ยินว่าจะมีเราก็รอ แต่เรายังไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการว่าให้รอก่อนเดี๋ยวจะส่งมา อันนั้นไม่มี เราทราบว่าจะมีจึงคิดว่าถ้ามีจริงก็จะรอได้อีก ไม่มีปัญหาที่จะขยับไปอีกอาทิตย์สองอาทิตย์ เดือนสองเดือน หากทุกอย่างพร้อมเราเดินได้ทันที เพราะทุกอย่างเตรียมการไว้หมดแล้ว
เมื่อถามว่ารัฐบาลจะดันไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้เริ่มต้นเลย จะมาบอกว่าให้ดันไปถึงศาลรัฐธรรมนูญท่านคิดเอง ถ้าอยากให้ดันไปถึงศาลรัฐธรรมนูญตัดสินหรือเปล่านั่นเป็นแนวทางหนึ่ง ถ้าเป็นข้อเสนอจากท่าน ซึ่งเราพูดชัดเจนแล้วว่าไม่มีธงที่จะเดิน เราดูตามความเป็นจริงแล้วว่าตามความเป็นจริง อย่าจินตนาการมาก ยิ่งจินตนาการมากพวกตนยิ่งเหนื่อย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภูมิธรรม' เมินเสียงต้าน 'กิตติรัตน์' นั่งประธานบอร์ด ธปท. ไม่ขาดคุณสมบัติก็เป็นได้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสต้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.คลัง สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั่งตำแหน่งประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะเกรงว่าการเมืองจะเข้ามาแทรกการทำงานของธปท
'ภูมิธรรม' แจง MOU ปี 44 ไม่เกี่ยวเกาะกูด เป็นของไทย 100% เอาให้ชัดจะให้ยกเลิกอะไร
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลว่าในที่ประชุมจะมีการหยิบยกประเด็นการยกเลิกเอ็มโอยู 44 ที่เคยทำในสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีพิจารณาหรือไม่
สอน 'เพื่อไทย' หัดเอาอย่าง 'อภิสิทธิ์' นักการเมืองรักษาสัจวาจา
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เพื่อไทย ไม่นิรโทษ มาตรา 112 ไม่แคร์มวลชน แต่แคร์พรรคร่วม
ระแวง-ระวัง “ประโยชน์ทับซ้อน” ถกขุมทรัพย์ไทย-กัมพูชาไปถึงไหน?
การเคลื่อนไหวต่อต้านบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาเขตแดนและแผนพลังงานเมื่อปี 2544 หรือ MOU44 และการปลุกกระแสการเสียเกาะกูดให้กัมพูชา ถ้ามีการเจรจาผลประโยชน์ระหว่างรัฐบาล 2 ชาติ
'ภูมิธรรม' เชื่อไม่เสียมวลชน เพื่อไทยไม่แตะคดี 112 เสนอร่างนิรโทษกรรม
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่ไม่แตะประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
'ภูมิธรรม' ชี้ แม้คดี 'ดิไอคอน กรุ๊ป' อยู่ในมือดีเอสไอ แต่เป็นผลงานร่วม สตช.-ปปง.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบ