'มนุษย์เงินเดือน-คนว่างงาน' ทุกข์หนัก! สำรวจกระเป๋าเงินประชาชนต้นปี

ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจกระเป๋าเงินประชาชนต้นปี พบทุกข์หนักเป็นของกลุ่มมนุษย์เงินเดือน –คนว่างงาน พ่วงด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ กลุ่มผู้สูงอายุ

7 ม.ค.2567 – ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจความรู้สึกของประชาชน (Sentiment Survey) เรื่อง เงินในกระเป๋า กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,020 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 2 – 6 มกราคม พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา

เมื่อสอบถามถึงเงินในกระเป๋าของประชาชนช่วงต้นปี พบว่าประชาชนเป็นทุกข์มากถึงมากที่สุดร้อยละ 23.9 เป็นทุกข์ปานกลางร้อยละ 30.1 เป็นทุกข์น้อยถึงไม่ทุกข์เลยร้อยละ 46.0 เมื่อแบ่งออกตามกลุ่มอาชีพพบว่ากลุ่มคนว่างงาน กับ กลุ่มมนุษย์เงินเดือนเป็นกลุ่มคนที่ทุกข์มากถึงมากที่สุด สูงสุดคือกลุ่มคนว่างงานเป็นทุกข์มากที่สุดร้อยละ 37.5 รองลงมาคือ มนุษย์เงินเดือนทำงานบริษัทเอกชนร้อยละ 32.6 ค้าขายอิสระร้อยละ 28.2 เกษตรกรรับจ้างร้อยละ 20.7 และข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐร้อยละ 18.7 ซึ่งมีสัดส่วนของผู้เป็นทุกข์น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอาชีพอื่น

เมื่อแบ่งออกตามกลุ่มเพศ พบว่า ชายเป็นทุกข์มากถึงมากที่สุดเมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าของตนช่วงต้นปีนี้ร้อยละ 25.2 มากกว่า หญิงร้อยละ 18.2 และเมื่อแบ่งตามช่วงอายุพบว่า คนสูงวัยตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปเป็นทุกข์มากถึงมากที่สุดเมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าของตนร้อยละ 27.1 มากกว่าทุกกลุ่มช่วงอายุคืออายุ 50 – 59 ปีร้อยละ 24.6 อายุไม่เกิน 39 ปี ร้อยละ 23.7 และอายุ 40 – 49 ปี ร้อยละ 18.5 ซึ่งเป็นสัดส่วนของผู้เป็นทุกข์น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงอายุอื่น ๆ

เมื่อแบ่งตามกลุ่มคนที่รู้สึกมั่นคงในอาชีพการงานและรายได้ พบว่า กลุ่มคนที่รู้สึกไม่มั่นคงมีสัดส่วนของผู้เป็นทุกข์มากถึงมากที่สุดสูงสุดคือร้อยละ 35.4 รองลงมาคือกลุ่มคนที่รู้สึกมั่นคงรายได้ปานกลางร้อยละ 20.9 และกลุ่มคนที่รู้สึกมั่นคงดีรายได้ดีแต่เป็นทุกข์ใจมีอยู่ร้อยละ 16.7 ตามลำดับ

เมื่อแบ่งตามภูมิภาค พบว่ากลุ่มคนภาคใต้เป็นกลุ่มคนที่รู้สึกเป็นทุกข์มากถึงมากที่สุดเมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าของตนช่วงต้นปีคือร้อยละ 32.1 รองลงมาคือกลุ่มคนภาคกลางร้อยละ 29.4 กลุ่มคนกรุงเทพมหานครร้อยละ 27.3 กลุ่มคนอีสานร้อยละ 18.8 และกลุ่มคนภาคเหนือร้อยละ 11.5 ตามลำดับ

ผู้ก่อตั้งซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลเรื่อง เงินในกระเป๋าของประชาชนต้นปีนี้ชี้ให้เห็นประเด็นที่น่าพิจารณาหลายมิติได้แก่มิติด้านอาชีพ เพศ ช่วงอายุ ความรู้สึกมั่นคงในอาชีพการงานการเงิน และประชาชนในแต่ละภูมิภาคมีความรู้สึกเป็นทุกข์แตกต่างกันเมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าของตนเอง ที่วิเคราะห์มาจนอาจกล่าวได้ว่าในช่วงที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลประชาชนในภาคเหนือและภาคอีสานรู้สึกเป็นทุกข์มากถึงมากที่สุดน้อยกว่าคนในภาคใต้และภาคอื่น ๆ และยังพบด้วยว่ากลุ่มข้าราชการเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความทุกข์วิกฤตน้อยกว่ากลุ่มอาชีพอื่น ๆ

 ดังนั้นแนวนโยบายจะเพิ่มเงินในกระเป๋าของประชาชนด้วยโครงการเงินดิจิทัลของรัฐบาลและนโยบายเพิ่มเงินเดือนให้ข้าราชการอาจจะต้องพิจารณาใช้เม็ดเงินหยอดเข้ากระเป๋าของประชาชนให้ตรงกลุ่ม ที่น่าพิจารณาคือกลุ่มสูงวัย กลุ่มคนว่างงาน กลุ่มมนุษย์เงินเดือนบริษัทเอกชน และกลุ่มคนในภาคใต้ ที่รัฐบาลน่าจะตัดสินใจออกนโยบายลดความทุกข์ของประชาชนให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ซูเปอร์โพล' เผยประชาชน 51.7% เชื่อมั่นนายกฯ 'อุ๊งอิ๊ง'

สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ความเชื่อมั่น ต่อ นายกรัฐมนตรี คนใหม่ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)

ปรบมือ ตร.ท่องเที่ยวพะงันทำงานรวดเร็ว ช่วยสาวอิสราเอลได้กระเป๋าเงินคืน

11 ส.ค.2567 – เมื่อวันที่ 10 ส.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันได้รับแจ้งว่านักท่องเที่ยวชื่อ MISS NOGA LEV อายุ 24 ปี สัญชาติ อิสราเอล เดินทางมายังหน่วยบริการตำรวจท่องเที่ยวเพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อเวลา 19.00 น ว่าตนเองได้ทำกระเป๋าสตางค์หล่นบริเวณหน้าเซเว่นอีเลฟเวน สาขาศรีธนู ม.8 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และได้มีหญิง ไม่ทราบสัญชาติ ลักษณะเป็นหญิงสาวเอเชีย ได้หยิบกระเป๋าผู้แจ้งขึ้นมาแล้วหยิบเอาไป โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 เวลา 00:30 น. ได้รายงานให้ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันออกสืบสวนสอบสวนบริเวณที่เกิดเหตุ ต่อมาเวลา 19:30 น. ของวันที่ 10 สิงหาคม 2567 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันเก็บรวบรวมข้อมูล พยาน หลักฐาน จึงได้ออกสืบสวนบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง บริเวณรอบนอก พบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่หน้าร้านอาหาร บริเวณบ้านศรีธนู เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันจึงได้เข้าไปตรวจสอบภายในร้าน พบผู้ต้องสงสัย รูปพรรณตรงตามหลักฐานจากกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบถามผู้ต้องสงสัยถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ทราบชื่อ นางสาวจุฑารัตน์ เทพทุ่งหลวง สัญชาติไทย อายุ 23 ปี นางสาวจุฑารัตน์ให้การยอมรับ ตนเองได้ไปที่เซเว่นอีเลฟเว่นจริงเพื่อไปซื้อสินค้า และได้พบกระเป๋าสตางค์สีน้ำเงินลายดอกไม้ วางอยู่บนพื้นหน้าตู้กดเงินสด ตนจึงได้หยิบกระเป๋าสตางค์ใบนั้นขึ้นมาและเดินเข้าไปข้างในเซเว่นอีเลฟเว่น โดยมีการเปิดดูเพียงเล็กน้อยทราบว่าบัตรและเงินสดจำนวนหนึ่ง ตนเองก็ได้ทำการเลือกซื้อสินค้าต่อ จนกระทั่งเลือกซื้อสินค้าเสร็จและได้เดินมาชำระเงินที่เคาท์เตอร์ได้เดินออกจากร้านพร้อมสินค้าและกระเป๋าสตางค์ ได้เอาเงินผู้เสียหายไปใช้จำนวน 2,959 บาท เบื้องต้นเชิญตัวพบพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน เพื่อสอบปากคำ และ ให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป ทั้งนี้ MISS NOGA LEV นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมตำรวจท่องเที่ยวในการช่วยเหลือตนได้อย่างรวดเร็วในครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนและภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวตามนโยบายกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว.

‘หมอมนูญ’ ยกเคสผู้ป่วยหญิงวัย 81 เตือนไทยเข้าสู่ฤดูระบาดเชื้อRSV ผู้สูงอายุควรรับวัคซีนป้องกัน

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูระบาดของเชื้อ RSV คือ เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปถึงเดือนพฤศจิกายน เรากำลังจะเห็นโรค RSV เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  ปีนี้เป็นปีแรกที่วัคซีนป้องกัน  RSV เข้าประเทศไทย ผู้สูงอายุ 75 ปีขึ้นไปทุกคนที่สามารถจ่ายเงินเองได้

กลุ่ม LGBTQ ยังไม่เข้าใจกม.สมรสเท่าเทียม

นายนพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง เสียงของ LGBTQiA+ กรณีศึกษาตัวอย่างกลุ่ม LGBTQiA+ ทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)