'สส.วิโรจน์' เกรี้ยวกราด! ซัดทำงบกดขี่เด็ก ไม่กล้าหือผู้มีอำนาจ โตเป็นบ่าวไพร่รับใช้นายสั่งในประเทศต้องคำสาป

"วิโรจน์" ซัดรัฐบาลจัดงบไม่ตรงวิกฤติการศึกษา ลดเป้าควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กแต่ดันของบเพิ่ม ลั่นตายไปก็ยังไม่เห็นด้วยจัดทำงบแบบเดิมๆที่สิ้นหวังยอมจำนนให้กับอำนาจนิยมกดขี่ หลักสูตรล้างสมอง โตเป็นผู้ใหญ่ไม่กล้าคิดกล้าฝัน ไม่กล้าตั้งคำถามเหมือนบ่าวไพร่ทำงานตามนายสั่งในประเทศที่ต้องคำสาป

5 ม.ค.2567 - เมื่อเวลา 13.34 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ อภิปรายถึงงบของกระทรวงศึกษาธิการ วิกฤตการศึกษาไทยกับการแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กว่า ที่ผ่านมาจนถึงปีงบประมาณ67 นี้กระทรวงศึกษาธิการไม่เคยคิดที่จะแก้ไขปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กอย่างจริงจัง เหมือนการป่วยเป็นโรคร้ายแต่ให้กินแค่ยาพารา ปล่อยให้ลุกลามแล้วตายไปเองตามยถากรรม ซึ่งการควบรวมโรงเรียนไม่เคยสำเร็จตามเป้าหมายแถมมีแนวโน้มว่าจะควบรวมน้อยลงเรื่อยๆราวกับว่าจะไม่แก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กแล้ว จากปี63 มีเป้าที่จะควบรวม 400 แห่ง แต่ทำได้แค่169 แห่ง ในปี64-66 มีการปรับเป้าหมายลงมาอีกเหลือ 350 แห่ง แต่ควบรวมได้ไม่มาก แต่มาปี67 ปรับเป้าหมายเหลือเพียง200 แห่ง หากพิจารณาจากงบโรงเรียนขนาดเล็กที่มีความสำคัญในการแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก ที่เอาไว้จ่ายค่าพาหนะจ่ายหาบริหารจัดการรถโรงเรียนให้กับโรงเรียนที่ถูกควบรวมที่มีความคงตัว อยู่ที่ 272-286 ล้านบาท แต่ในปี67 นั้นงามไส้ปรับเป้าหมายลงแล้วแต่ยังกล้าของบเท่าเดิม แต่อย่างไรก็ตามถ้าจะแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กงบบริหารจัดการจะต้องมากกว่าหลักร้อยล้านอยู่แล้ว

นายวิโรจน์ อภิปรายต่อว่า ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่งบหลักร้อยล้านจะเอาไปแก้ปัญหาวิกฤตนี้ได้ และนี่จึงสะท้อนได้ว่ารัฐบาลนายเศรษฐาไม่ได้มองปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กเป็นวิกฤต เรียกว่าไม่ได้ให้ความสำคัญเลย นอกจากจะควบรวมโรงเรียนไม่ได้ตามเป้าแล้ว ยังจะไปสร้างข้อพิพาทกับคนในชุมชนอีก ต้องยอมรับว่าโรงเรียนมีความผูกพันกับวิถีของชุมชน เพราะโรงเรียนบางแห่งเกิดขึ้นจากบรรพบุรุษสร้างมากับมือ โรงเรียนไหนถูกควบรวมก็ถูกปล่อยทิ้งร้างไม่มีแผนการถ่ายโอนให้กับท้องถิ่น ไม่มีงบสนับสนุนเพื่อนำสถานที่ไปใช้ในการอื่นเพื่อให้เกิดประโยชน์กับชุมชน

นายวิโรจน์ กล่าวว่า กรทรวงศึกษาธิการรู้อยู่แก่ใจว่าทางออกเรื่องนี้ไม่ใช่การจ่ายค่าชดเชยยานพาหนะ แต่ต้องเป็นการจัดรถโรงเรียนเพื่อให้เด็กทุกคนที่อยู่ไหนจังหวัดนั้นสามารถเดินทางไปโรงเรียนที่ตอบโจทย์ของเขาได้ และทำควบคู่กันไปคือการถ่ายโอนโรงเรียนที่ควบรวมให้กับท้องถิ่นพร้อมกับจัดงบอุดหนุนอาจจะเป็นแห่งละ 1 ล้านบาทเพื่อให้ท้องถิ่นนำงบนี้ไปปรับปรุงสถานที่ แต่ถ้ายังควบรวมตามยถากรรม ตนคำนวณว่าเราจะใช้เวลาในการแก้ปัญหานี้ถึง 91 ปี และต้องถูกผลการทดสอบPISA ประจานประเทศไปในเวทีโลกอย่างน้อย 30 ครั้ง ถ้าเราไม่กล้าหาญและบอกปัญหาตรงๆ เพราะถ้าเราไม่ยอมแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กจริงๆเราจะไม่มีวันยกระดับการศึกษาของไทยได้เลย ด้านTDRI ก็ยืนยันว่าเหตุที่PISAเราตกต่ำมาจากโรงเรียนขนาดเล็ก

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า มีการศึกษาและพบว่าโรงเรียนขนาดเล็กมีต้นทุนในการบริหารจัดการสูงกว่าโรงเรียนขนาดกลางที่ 13,600 บาทต่อคนต่อปี ถ้าเราแก้ปัญหานี้ได้เราจะประหยัดงบได้ถึงปีละ 12,985 ล้านบาท และเมื่อเอามารวมกับการปรับลดงบแผนงานและงบรายจ่ายอื่นรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสินจะทวีสินแน่นอน เพราะจะมีเงินจัดสรรได้ใหม่ถึง 15,102 ล้านบาท อย่างไรก็ตามที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้บอกกับประชนว่าประเทศอยู่ในภาวะวิกฤตในมิติการศึกษา แต่ตนก็ยอมรับว่าวิกฤตจริงๆแต่ทำไมจัดงบออกมาเช่นนี้ งบแบบนี้เหมือนกำลังบอกให้พ่อแม่ทุกคนยอมให้ลูกหลานของตัวเองเรียนหนังสือแบบเดิมๆในระบบการศึกษาที่สิ้นหวังยอมจำนนให้กับอำนาจนิยมกดขี่ ยอมให้ลูกหลานเรียนหลักสูตรที่ไม่ได้ปรับปรับที่เป็นหลักสูตรล้างสมอง สุดท้ายเด็กๆเติบโตมาเป็นคนที่ไม่กล้าคิดไม่กล้าฝันไม่กล้าตั้งคำถามกับผู้มีอำนาจ เป็นเหมือนบ่าวไพร่ที่ทำงานตามนายสั่งในประเทศที่ต้องคำสาปแห่งนี้ และนี่คือเหตุผลที่ตน วิโรจน์ ลักขณาอดิศรตายกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างไรก็ยังเป็นวิโรจน์ไม่สามารถเห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.งบฯปี67 ฉบับนี้ได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กมธ.ทหาร ถกที่ตั้งค่ายทหาร มทบ.26 ทับที่ชาวบ้าน รองผบ.ฯ รับมีคลาดเคลื่อน

ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กรณีการตั้งค่ายทหารมณฑลทหารบกที่ 26 หรือ มทบ.26

ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง

ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท   

รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง