'พิธา' ควง 'ชัยธวัช' ขึ้นศาลคดี 112 มั่นใจไม่ถึงขั้นยุบพรรค

‘พิธา’ พกความมั่นใจขึ้นศาล รธน. เข้าไต่สวนคดี 112 ยันไม่มีเจตนาล้มล้างการปกครอง ‘ชัยธวัช’ เชื่อคดีนี้ไปได้ไกลแค่ให้ยุติการกระทำ

25 ธ.ค. 2566 – ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานบุคคลในคดีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษตร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในขณะที่เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลและพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ใช้เป็นนโยบายหาเสียง ถือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่

โดยวันนี้ศาลนัดนายพิธา และนายชัยธวัช ตุลาธน ในฐานะเลขาธิการพรรคก้าวไกลขณะนั้น มาเข้ารับการไต่สวนในเวลา 09.30 น. พร้อมทั้งได้นำบันทึกคำให้การของพยานอีก 6 ปากมาประกอบการไต่สวน

นายพิธา พร้อมคณะ เดินทางมาถึงเวลา 08.50 น. ระบุว่า จะใช้ข้อเท็จจริงและหลักกฏหมายในการชี้แจงว่าในการเสนอนโยบายถูกต้องตามกฎหมาย ยืนยันว่านโยบายดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายและชอบด้วยรัฐธรรมนูญทุกประการ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่การล้มล้างการปกครอง ส่วนรายละเอียดขอชี้แจงในชั้นศาล ยืนยันว่าไม่หนักใจในการต่อสู้คดี เพราะมั่นใจในเจตนาของการกระทำและข้อเท็จจริง รวมถึงข้อกฎหมาย จะพยายามอธิบายให้ศาลเข้าใจและเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม รวมถึงอธิบายต่อสังคมด้วย

เมื่อถามว่า ได้เตรียมแผนอะไรหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้เตรียมอะไรรองรับ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการไต่สวน พร้อมย้ำว่าจะพูดถึงเจตนาในการเสนอแก้กฎหมายเพื่อเป็นการลดวิกฤตการเมือง และเป็นทางสายกลาง ที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติการเมือง 1 ทศวรรษ

นายพิธา ยืนยันว่า ผลคดีนี้ หากพิจารณาตามคำร้อง ไม่นำไปสู่การยุบพรรค แต่ตามคำร้องเข้าใจว่าสมมติว่าศาลชี้ออกมาไม่เป็นคุณ ก็ให้หยุดการนำเสนอนโยบายแก้ไขมาตรา 112 เท่านั้น ไม่มีคำร้องที่จะนำไปสู่การยุบพรรค ทั้งนี้ ไม่กังวลว่าผลของคำวินิจฉัยคำร้องนี้ จะนำไปสู่การมีผู้ยื่นยุบพรรคอีกครั้งในภายหลังหรือไม่ ส่วนจะมีผู้ร้องต่ออีกหรือไม่ ให้เป็นเรื่องของอนาคต ย้ำว่าตนสามารถอธิบายได้ในข้อเท็จจริงของคดีนี้ ซึ่งสิ่งที่ทำไม่ใช่การล้มล้างการปกครองแต่อย่างใด

ด้านนายชัยธวัช กล่าวถึงการเข้ารับการไต่สวนในวันนี้ว่า มั่นใจ เพราะคดีนี้ไปได้ไกลแค่ให้ยุติการกระทำ ส่วนเรื่องการชี้แจง หลักฐานต่างๆ ได้ยื่นเอกสารไป 2 รอบแล้วก่อนหน้านี้ ขึ้นอยู่กับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะมีประเด็นไต่สวนอะไรเพิ่มเติม ซึ่งเรายืนยันทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและเจตนาว่า การกระทำของพรรคก้าวไกลไม่ได้นำไปสู่การล้มล้างการปกครอง

เมื่อถามว่า มีแผนรองรับอะไรหรือไม่ หากศาลให้ยกเลิกนโยบายแก้ไขมาตรา 112 นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องดูในรายละเอียดคำวินิจฉัยอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการเตรียมการอะไรไว้ เตรียมแค่การอภิปรายงบประมาณที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' มั่นใจแจงศาลรัฐธรรมนูญได้ทุกเรื่องปมให้อำนาจแทรกแซงคดีฮั้ว สว.

ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานและผู้เกี่ยวข้อง คดีสถานะ อดีตรองนายกฯและอดีตรัฐมนตรียุติธรรม แทรกแซงคดีฮั้วเลือก สว. 'ภูมิธรรม' มั่นใจชี้แจงได้ทุกประเด็น

‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง

ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ

ศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวน 'ภูมิธรรม-ทวี' แทรกแซงคดีฮั้ว สว.

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่ ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

พรรค‘ปชน.’ขอโทษจากใจ วอน‘ประชาชน’ไปต่อด้วยกัน

ภาพที่หัวหน้าพรรคสีส้มทุกยุคสมัยมาปรากฏตัวพร้อมหน้าบนเวทีเดียวกันไม่ได้เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยนัก เอาเข้าจริงอาจจะยิ่งกว่าเวทีปราศรัยใหญ่ก่อนเลือกตั้งทุกครั้งด้วยซ้ำ เพราะในกิจกรรม

'ธนาธร' กล้าพูด หาก 'พิธา' เป็นนายกฯ สถานการณ์ชายแดนจะไม่มาถึงจุดนี้เด็ดขาด

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวในกิจกรรม “ปิกนิก พรรคประชาชนพบประชาชน ขอโทษจากใจขอไปต่อด้วยกัน”