'แก้วสรร' จัดหนัก Soft Power ไม่ใช่ ศัลยกรรมพลาสติก

รัฐบาลฟังทางนี้ “แก้วสรร” ออกความ Soft Power ไม่ใช่ ศัลยกรรมพลาสติก  กรุณาอย่าฟุ้งซ่านลามปามมาทำศัลยกรรมวัฒนธรรมของผู้คนในบ้านนี้เมืองนี้ จัดหนัก อย่าหลงไปเห่าชิ้นเนื้อที่มองเห็นในน้ำด้วยความหิวโหย 

3 ธ.ค.2566 – นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ ออกบทความในรูปถาม- ตอบ เรื่อง Soft Power ไม่ใช่ ศัลยกรรมพลาสติก มีเนื้อหาว่า

ถาม   Soft Power คืออะไรครับ ?

ตอบ  ตอบอย่างนี้ดีกว่า…ผมขอถามว่าถ้าพูดถึงประเทศอังกฤษแล้ว   มีอะไรที่คุณชมชอบอยากไปเที่ยว อยากจะมี อยากจะเลียนแบบกับเขาบ้าง

ถาม   ผมอยากไปดู แข่ง FA-Cup, ไปพระราชวังบั้คกิ้งแฮม, ชมพิพิธภัณฑ์, แข่งม้าข้ามเครื่องกีดขวาง, อยากส่งลูกไปเรียนต่อที่อังกฤษ ฯลฯ

ตอบ  ที่พูดมานั่นแหละครับ Soft Power ของอังกฤษ   ที่พัฒนาก่อตัวขึ้น สั่งสมขึ้นโดยธรรมชาติตามรากเหง้าของเขา   รัฐบาลอังกฤษพึ่งโผล่หัวมาสำรวจ มาสอบถามกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง แล้วปรึกษาตกลงวางมาตรการช่วยเหลือส่งเสริม ตามเท่าที่จะทำได้ในกรอบของรัฐเท่านั้น เหตุเพราะได้คิดว่าเป็นหน้าตาเป็นประโยชน์ในทางการค้าทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย

ถาม   รัฐเป็นเจ้ากี้เจ้าการ สร้าง Soft Power ได้ไหม ?

ตอบ  ไม่ได้  เป็นได้แค่พันธมิตรเข้ามีส่วนช่วยเหลือส่งเสริมเท่านั้น  อย่าง FA-Cup มันเป็นวิวัฒนาการในสังคมกีฬาของเขาเอง  พอมีคุณภาพทอดเงาออกมาเป็นหน้าเป็นตาของอังกฤษ   ถึงมากี๊บก๊าบวี้ดบึ้มเชียร์กันในภายหลังว่า  นี่คือ Soft Power ของเรา

ถาม   เห็นคณะกรรมการของรัฐบาล ประกาศจะจัดการให้งานสงกรานต์เป็น Soft Power ของไทย เป็นซุปเปอร์เฟสติวอลของโลก ให้สาดน้ำกันทั้งเดือนไปเลย

ตอบ  สงกรานต์เป็นประเพณี   เดิมมีวันเดียว แล้วต่อมาถึงขยายอีกสองวันจะได้เป็นวันกลับบ้านรวมครอบครัวไปด้วย    ส่วนที่เป็นวันไหล คือไหลไปมีที่พระประแดง ที่ชลบุรีตามหลังมาด้วยนั้น   นั่นก็เป็นประเพณีเฉพาะถิ่นเขา    รัฐบาลจะให้ไปจัดตามจังหวัดอื่น เรียงไล่กันไปทั้งเดือนทั้งประเทศด้วย อย่างนี้มันก็เป็นของปลอมของแต่งสมมติขึ้นมา  ชาวบ้านเขาก็ไม่เอา ไม่ออกมาสาดน้ำด้วยหรอกครับ   

ขืนทำไปมันก็เป็นเหมือนทำศัลยกรรมพลาสติก สร้างใบหน้าใหม่ขึ้นมาลวงโลกเท่านั้นเอง  อยู่กับใบหน้าเดิมแล้วแต่งให้ดูใสสดชื่นบ้างก็พอแล้วนะครับสำหรับการอยู่ในโลกนื้ ใครที่ผ่าตัดทำหน้าเทียมจนจำหน้าไม่ได้ไปแล้ว ก็กรุณาอย่าฟุ้งซ่านลามปามมาทำศัลยกรรมวัฒนธรรมของผู้คนในบ้านนี้เมืองนี้เขาเลยนะครับ

ถาม   มันไม่มีมีอะไรในไทยที่พอจะตกแต่งจัดการให้เป็นหน้าเป็นตาจนขึ้นชื่อในโลกบ้างไม่ได้เชียวหรือ 

ตอบ  ถ้าว่าเฉพาะที่ทอดเงาออกมาให้โลกเห็นแล้วชื่นชมแล้วนั้น ผมก็ว่าประเพณีศิลปวัฒนธรรมที่เกาะเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ของเรานั่นก็แรงมากนะครับ  ดังนั้นเมื่อต่างชาติเขาเข้ามาชมพระบรมมหาราชวังกับวัดพระแก้วแล้ว เราก็น่าจะเติมพิพิธภัณฑ์ประมวลภาพและข้อมูลเหล่านี้เข้าไปด้วย ทั้งขบวนพระพยุหะยาตราทางชลมารค, พระราชพิธีแรกนาขวัญฯลฯ

เรื่องอาหารไทยผลไม้ไทยนี่เหมือนกัน  ถ้ารู้จักพัฒนายุทธศาสตร์ทั้งระบบแล้วให้ร้านอาหารไทยทั่วโลกเป็นเรือธง ก็น่าจะไปได้อีกไกลมาก  

ถาม   หนังไทย แฟชั่นไทย ได้ไหมครับ

ตอบ  ผมยังไม่เห็นศักยะภาพรวมหมู่  ที่จะเกิดเป็นกลุ่มการผลิตอันเข้มแข็งขึ้นมาได้ อย่างกลุ่มผ้าไทยเรามีแล้ว  แต่กลุ่มออกแบบ กลุ่มจัดแฟชั่น กลุ่มผลิดเสื้อผ้าแบรนด์เนม พวกนี้มันต้องได้ฝีมือพร้อมหน้าพร้อมตา  ถึงจะเกิด Soft Power ในทางแฟชั่นแบบฝรั่งเศสเขาได้  ศักยะภาพพร้อมหน้าแบบนี้ไม่มีเลย

ถาม   สรุปแล้ว  เรื่อง Soft Power นี้  รัฐควรต้องทำอะไรได้บ้าง

ตอบ อย่าเอาเรื่องนี้มาวี๊ดบึ้ม   อย่าทำศัลยกรรมสร้างหน้าเทียม  เลือกเป้าหมายที่มีศักยะภาพมีตัวตนและต้นทุนอยู่แล้วมาเสริมต่อตามครรลองเดิมของเขาเช่นนี้จึงจะเห็นผลได้ ความเข้าใจนั้นก็ต้องให้ชื่อโครงการไปตามเนื้อผ้า เช่นโครงการพัฒนาครัวไทยเป็นครัวโลก  โครงการพิพิธภัณฑ์ศิลปะวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ์ ฯ ทั้งหมดนี้ไม่ต้องเอ่ยอ้างคำว่า Soft Power เลยก็ได้

Soft Power เป็นแค่เงาไม่ใช่ตัวตน  อย่าหลงไปสร้างเงา คนไม่ใช่หมา  อย่าหลงไปเห่าชิ้นเนื้อที่มองเห็นในน้ำด้วยความหิวโหย 

                                     ………………………………

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.

หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ

‘แก้วสรร’ ออกบทความสุดกินใจ ‘คุณค่า‘ ในชีวิตของคนชื่อ ’ภูมิพล‘

๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ชีวิตในหลวงของเรา..ได้จากโลกนี้ไปแล้ว พวกเราคนไทยเศร้าโศกยิ่งและแสดงความรักอาลัยออกมามากมายหลายลักษณาการ จนมีผู้คนเป็นอันมากแปลกใจและไต่ถามขอคำตอบจากพวกเราอย่างจริงจังว่า “คุณค่า” ในชีวิตของพระองค์ท่านอยู่ที่ตรงไหน ต่างจากชีวิตอื่นๆที่จากไปในทุกๆวันอย่างไร?