
จับตา ศาลฎีกาฯนักการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาคดี “ยิ่งลักษณ์” ใช้อำนาจโดยมิชอบโยกย้าย “ถวิล เปลี่ยนศรี”ครั้งที่ 3 วันที่ 26 ธ.ค.นี้ หลังได้ “กษิดิศ มงคลศิริภัทรา”มาเป็นองค์คณะเเทนคนเดิม
3 ธ.ค.2566 – ศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง ได้นัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำอม.11/2565 ที่ อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีเมื่อช่วงเดือน ก.ย.54 น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีคำสั่งโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ขณะนั้นมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โดยมิชอบ อีกครั้งวันที่ 26 ธ.ค.นี้เวลา 13.30 น.
กรณีเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมาศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมืองได้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปก่อน เนื่องด้วยนายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ องค์คณะผู้พิพากษาในคดีนี้ถึงแก่อนิจกรรม อันต้องด้วยกรณีที่ผู้พิพากษาคนใดในองค์คณะผู้พิพากษามีเหตุสุดวิสัยทำให้ผู้พิพากษานั้นไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาดำเนินการเลือก นายกษิดิศ มงคลศิริภัทรา เข้ามาเป็นองค์คณะผู้พิพากษาแทนที่ให้ครบจำนวนตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ตาม พรป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560มาตรา 11ดังนั้น เพื่อให้ผู้พิพากษาที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นองค์คณะแทนที่มีเวลาเพียงพอที่จะตรวจสำนวนร่วมประชุมปรึกษาคดีและทำความเห็นในการวินิจฉัยคดีได้โดยไม่กระชั้นชิด จึงมีคำสั่งให้ยกเลิกวันนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมาก็เคยเลื่อนอ่านคำพิพากษามาวันที่ 29 พ.ย.โดยสาเหตุมาจากปัญหาของสุขภาพขององค์คณะท่านที่พึ่งเสียชีวิตไป
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ลงนามในคำสั่งให้นายถวิลไปปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ ครม.มีมติแต่งตั้งพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งเลขา สมช. ซึ่งนายถวิลได้ยื่นต่อศาลปกครองสูงสุดและศาลได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าว อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญก็มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย
และ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในวันที่ 1 ก.ค. 2563 และส่งให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยอัยการสูงสุดจึงได้ส่งฟ้องต่อศาลฎีกา และมีการออกหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากไม่เดินทางมาศาลโดยไม่ได้แจ้งเหตุผล.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘หัวเขียง’ ไม่รับปาก ฝ่ายค้านแตะ ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ ประท้วงทันทีหรือไม่ ขอดูเจตนาหน้างาน
'ประยุทธ์' ยัน ไม่ประท้วงพร่ำเพรื่อ ในศึกซักฟอก แต่ต้องมีข้อเท็จจริง-ไม่ขัดข้อบังคับ ขอรอดูหน้างานเป็นหลัก ทั้งคำพูด-เจตนา
'ยิ่งลักษณ์' รอเก้อเดือน เม.ย. 'พี่ชาย' เคาะ ยังกลับไทยไม่ได้
“ทักษิณ” รอดูความเหมาะสมหลังมีกระแสยิ่งลักษณ์กลับไทย เม.ย.นี้ ชี้ มีหลายปัจจัยยังไม่ได้กลับ กล่าวติดตลก ความจริงอยากกลับตั้งแต่เมื่อวาน
'คุมขังนอกเรือนจำ'ความหวังใหม่ ระบบยุติธรรมหรือประตูสู่ความลำเอียง
ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระบบยุติธรรม โดยในปี 2568 กรมราชทัณฑ์จะเริ่มใช้ ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อลดความแออัดในเรือนจำ
ยธ.กรุยทาง 'ยิ่งลักษณ์' ต้องยื่นอภัยโทษก่อนพิจารณาขังนอกคุก
“ยธ.” เผยเตรียมประเดิมใช้กม.คุมขังนอกเรือนจำหลุง ม.ค.นี้อัตราโทษไม่เกิน 4 ปี แจงยิบปม "ยิ่งลักษณ์" ต้องยื่นอภัยโทษก่อนเข้าเกณฑ์พิจารณา
'ทวี' เผยเงื่อนไข 'คุมขังนอกเรือนจำ' ต้องไม่หลบหนี-ได้รับอภิสิทธิ์อย่างอื่น
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการรับฟังความเห็นระเบียบว่าด้วยการคุมขังนอกเรือนจำที่แล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา ว่า ต้องดูว่าหลังจากนี้มีคนเห็นด้วยหรือเ