30 พ.ย.2566 - นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า ยืนยันยึดมั่นหลักการสนับสนุนปรองดองนิรโทษกรรมคดีการเมือง คัดค้านนิรโทษกรรม 3 คดีมั่นคงสำคัญคือการทุจริตชาติ คดีอาญาร้ายแรง เช่น คดีฆ่ากันตายแล้วอ้างเหตุทางการเมืองและคดีความผิด ม.112 โดยเฉพาะคดีนี้ ที่กลุ่มแกนนำ หัวหน้าพรรคได้เคลื่อนไหวเป็นนโยบายในการล้ม แก้ไขกฎหมาย และปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วจะมาอ้างเหตุเพื่อนิรโทษกรรมนั้น เป็นการเขียนกฎหมาย เพื่อช่วยในสิ่งที่ตัวเองกระทำความผิด ทั้งที่หากสำนึกว่ากระทำผิด ก็สามารถทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษเป็นรายบุคคลได้ เช่นเดียวกับแกนนำหลายบุคคลที่เป็นนักวิชาการในอดีตก็เคยได้รับระราชทานอภัยโทษมาแล้ว
ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วยโดยเฉพาะ ร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ ของพรรคก้าวไกลที่มีรากมาจากความเคลื่อนไหวของพรรคอนาคตใหม่ คณะก้าวหน้า ต่างกรรมต่างวาระในการสนับสนุนให้มวลชน สมาชิก สส. คณะกรรมการบริหาร รวมถึงผู้นำทางความคิดหลายคน ที่ไปจาบจ้วงละเมิดจนผิดกฎหมาย ตนไม่เห็นด้วย 100% และเชื่อว่าหากเสนอมา สว. ก็คงไม่ให้ความเห็นชอบ ส่วนคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อส้ม ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องทางการเมืองก็ให้นิรโทษกรรมได้ และเห็นว่าเรื่องนี้รัฐบาลสามารถออกเป็นพระราชกำหนดได้เลย ซึ่งหากไม่มีเงื่อนไข 3 เรื่องดังกล่าวก็พร้อมที่จะสนับสนุน
“สรุปว่าเห็นด้วยกับกระบวนการความปรองดองสมานฉันท์และขั้นตอนที่จะทำนั้น ไม่จำเป็นต้องออกเป็นพระราชบัญญัติ รัฐบาลนี้สามารถออกเป็นพระราชกำหนดได้เลย แต่ต้องชัดเจนว่ามีเรื่องใดบ้างและต้องไม่มี 3 เรื่องนี้ ซึ่งถ้าออกเป็นพระราชบัญญัติก็ต้องใช้เวลานานหน่อย ต้องผ่านสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา แต่ก็เห็นด้วยในหลักการว่า ถ้าจะนิรโทษกรรมจะต้องยึดหลักเรื่องนิรโทษกรรมและกระบวนการยุติธรรมเปลี่ยนผ่าน ต้องยึดหลักความเข้าใจที่มีต่อกันแบบมีผลในระยะยาวและเป็นจริงได้
ไม่ใช่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดแล้วกลับไปทำความผิดอีกต่อไป เพราะจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มั่นใจว่า สังคมไทยชัดเจนหรือยังว่า จะปรองดองสมานฉันท์กันแบบถาวรจริงหรือไม่ เพราะเงื่อนไขที่ยื่นมาในการนิรโทษกรรมคดี ม.112 ก็ดีหรือคดีทุจริต ล้วนเป็นเงื่อนไขที่เขียนกฎหมายเพื่อให้ตัวเองซึ่งกระทำผิดแล้วไม่ต้องรับโทษมากกว่า ที่จะเดินหน้าไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์อย่างแท้จริง“นายสมชาย กล่าว
ส่วนหากพรบดังกล่าวผ่านสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบและส่งมาวุฒิสภาจะคว่ำหรือไม่นั้น นายสมชาย กล่าวว่า จะไม่คว่ำ และจะช่วยกลั่นกรองแก้ไขให้ดีขึ้นโดยต้องยึดในหลักการปรองดองสมานฉันท์แท้จริง สว. ส่วนใหญ่ก็คงจะเห็นด้วยเช่นนั้นในเรื่องความปรองดองสมานฉันท์มีความพยายามทำมาหลายรอบแล้วแต่ไม่เคยสำเร็จ เพราะหลักการปรองดองที่ดีที่ทั่วโลกดำเนินการได้ผลคือการยินยอมพร้อมใจกันทุกฝ่ายที่จะปรองดองในความเห็นต่าง พร้อมแสดงออกยอมรับผิดในสิ่งที่เคยกระทำต่อกันและกัน ซึ่งสังคมไทยต้องมีความเห็นพ้องร่วมกันทั้งสังคมด้วย จึงจะปรองดองสมานฉันท์กันได้จริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด่วน! อดีตสว.สมชาย ปูดแว่วข่าวเลื่อนประชุม สรรหาประธานธปท.
อดีตสว.สมชาย แจ้งแว่วข่าวว่า เลื่อนประชุม สรรหาประธานธปท. แล้ว
คนไทยไม่ได้โง่! อดีตสว.สมชาย จี้รัฐบาลชงยกเลิก MOU2544 เข้าสภาเห็นชอบ
อดีตสว.เสนอ รัฐบาล นำเรื่องยกเลิก MOU2544 เข้าสู่รัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา178 โดยเร็ว
'เทพไท' เรียกร้องนิรโทษกรรมทุกกลุ่ม รวมคดี 112 ด้วย
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "พรบ.นิรโทษกรรม:ปรองดองจริงหรือ?" ระบุว่ากรณีนายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.
'พระเอกพิธา' บอกยื้อ 'นิรโทษฯ-แก้ รธน.' กระทบประชาชนที่โดนลิดรอนสิทธิ!
'พิธา' มองกระบวนการ 'แก้ รธน.-นิรโทษกรรม' ถูกประวิงเวลา' เหตุมัวแต่ศึกษาแล้วศึกษาอีกโดยไม่จำเป็น บอก เป็นห่วงสัญญาที่ 'รัฐบาล' เคยให้ไว้กับ ปชช.
ชทพ.หนุนนิรโทษกรรมแต่ต้องไร้ ม.110-ม.112
'ชาติไทยพัฒนา' หนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ต้องเว้น ม.110 และ 112 เชื่อก้าวข้ามความขัดแย้งได้
'ภูมิธรรม' เชื่อไม่เสียมวลชน เพื่อไทยไม่แตะคดี 112 เสนอร่างนิรโทษกรรม
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่ไม่แตะประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112