บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นที่รู้จักอย่างดี ในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน อีกความโดดเด่นของไทยเบฟ เป็นการมุ่งมั่นสู่การเป็นองค์กรแห่งความเป็นเลิศด้านการพัฒนาบุคลากร จนกระทั่งล่าสุดคว้า รางวัลระดับนานาชาติ MARSHALL GOLDSMITH OUTSTANDING COACHING LEADER AWARD ถือเป็นบริษัทไทยรายแรกที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ โดยมีการมอบรางวัลที่นครโฮจิมินประเทศเวียดนาม ดร.เอกพล ณ สงขลา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานทรัพยากรบุคคลและสมรรถนะองค์กร ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพพนักงานมาโดยตลอดบอกเล่าความเชื่อและความศรัทธาในการพัฒนาคน เป็นต้นแบบให้กับองค์กรอื่นๆ ทั้งในประเทศไทยและอาเซียน
ดร.เอกพล ณ สงขลา กล่าวว่า การพัฒนาคนถ้ามีแนวคิดเพียง HR หรือ HUMAN RESOURE จะหมายถึงทรัพยากรที่วางอยู่แล้วมีคนมาใช้ แต่การขับเคลื่อนคนของไทยเบฟเปลี่ยนมุมมองเป็น HC หรือ HUMAN CAPITAL เมื่อปี 2558 เป็นการพัฒนาคนที่สร้างการเติบโตที่ยั่งยืนไปพร้อมกับการขับเคลื่อนธุรกิจ ปีต่อมาเราพัฒนาคนที่มีความเป็นเลิศภายใต้วัฒนธรรม Coaching เพื่อปลดปล่อยศักยภาพ ซึ่งได้หารือกับคุณฐาปน สิริวัฒนภักดี เป็นสิ่งที่จะสร้างให้เป็นดีเอ็นเอพัฒนาผู้บริหาร และคนรุ่นใหม่ให้ประสบความสำเร็จ ปี 2560 มีผู้บริหารสามารถเป็น MASTER TRAINER ในด้านต่างๆ นอกจากนี้ ไทยเบฟพัฒนาผู้นำบนฐาน Regeneration เราเป็นผู้นำส่งต่อความสำเร็จ พอช่วงโควิด-19 ไทยเบฟเป็นองค์กรที่ใส่ใจพนักงานมากๆ ดูแลไปจนถึงครอบครัว ไม่มีการ Lay off คน อีกสองภาพลักษณ์เราเป็นองค์กรที่คนรุ่นใหม่
ชื่นชอบ และองค์กรที่ทรานส์ฟอร์มเมชั่นสู่ดิจิทัลได้ดี นำเทคโนโลยีมาใช้ทุกภาคส่วนขององค์กร และเป็นองค์กรที่มีความ Diversity, Equity และ Inclusion หรือ DEI ปี 2566 ไทยเบฟ คว้ารางวัล MARSHALL GOLDSMITH OUTSTANDING COACHING LEADER AWARD ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนผ่านการ Coaching และ Mentoring จากผลงานความสำเร็จที่ไทยเบฟ เตรียมความพร้อมในการ Coaching และ Mentoring ให้กับผู้บริหารเป็นวงกว้าง ด้วยการจัดอบรม และพัฒนาศักยภาพให้กับผู้บริหารมากอย่างต่อเนื่องกว่า 1,000 คน ที่สำคัญเป็นองค์กรใส่ใจคนรุ่นใหม่ พนักงานใหม่เป็นพนักงานฝึกหัด จำนวนนี้เป็นชาวอาเซียน ได้รับการ Coaching จากพนักงานไทยเบฟ แสดงถึงการเปิดโอกาส ไม่ปิดกั้น และส่งต่อความสำเร็จขยายวงกว้าง
นอกจากนี้ ดร.เอกพลให้ข้อมูลปี 2565 สถิติการอบรมและพัฒนาศักยภาพ 21 ชั่วโมงต่อปี ต่อคน ปี 2566 ก้าวกระโดดเพิ่มเป็น 25 ชั่วโมงต่อคน โดยแพลตฟอร์มพัฒนาคนมี 3 ส่วนหลัก ได้แก่ Leadership Skills , Funtional Skillsและ General Skills ทุกปีผู้บริหารจะพูดคุยกับตนและทีมงานทรัพยากรบุคคล จัดลำดับความสำคัญทิศทางพัฒนาทรัพยากรคน เราใช้พลังเยอะในการพัฒนาคน มีกระบวนการชัดเจน “แนวคิดนี้ตอบโจทย์การพัฒนาคนรุ่นใหม่ สอดรับองค์กรที่มุ่งมั่นในการขยายธุรกิจไปพร้อมกับการพัฒนาบุคลากร สอดคล้องตามเป้าหมาย PASSION 2025 ที่เน้นการพัฒนาศักยภาพของคนในทุกมิติ มีการเปิดกว้างโอกาสในระดับอาเซียน ซึ่งไม่มีสูตรสำเร็จ แต่เราเชื่อและประกาศกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นกุญแจสำคัญให้พนักงานมีความมุ่งมั่นในการทำงานอย่างเต็มที่ เติบโต และพร้อมอยู่กับองค์กรต่อไป “ ดร.เอกพล กล่าว
สำหรับแนวทางส่งเสริมการปลดปล่อยศักยภาพคนรุ่นใหม่ ดร.เอกพล กล่าวว่า Culture คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยมีคนชี้นำ แต่ขณะนี้ไม่เหมือนดิมแล้ว ไทยเบฟ เป็นองค์กร เชื่อมั่นสร้าง EMPOWER พนักงานรุ่นใหม่ให้อำนาจในการตัดสินใจ ผ่านการสร้างโปรเจ็คขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ เปิดโอกาสให้น้องๆ คนรุ่นใหม่ร่วมทำงานแสดงฝีมือเช่นเดียวกับรุ่นใหญ่ ทำให้ทำงานได้ดี และมีความสุขมากขึ้น แม้แต่พนักงานอายุน้อยเพียง 23 ปี ก็สามารถเป็นที่ยอมรับให้ทำหน้าที่ผู้นำโปรเจ็ค หรือการเจรจาตกลงทางธุรกิจ ไทยเบฟเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ในส่วนเสนอไอเดียใหม่ๆ ในการพลิกฟื้นธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ก็เป็นคนรุ่นใหม่ ท้าทายมากกับการสร้างวัฒนธรรมนี้ พนักงานในองค์กรอายุเฉลี่ยลดลงเรื่อยๆ จาก 45 ปี ตอนนี้ 30 ปีหมาดๆ เป็นคนรุ่นใหม่จำนวนมาก เจนเบบี้บูมเมอร์ไม่เกิน 15% อย่างไรก็ตาม ทุกเจนทำงานไปด้วยกันอย่างราบรื่น และสร้างความประทับใจให้พนักงานอยู่กับองค์กรไม่ย้ายออกไปไหน
นอกจากนี้ ไทยเบฟ มีการผสานวัฒนธรรมให้เป็นบ้านเดียวกันได้ เพื่อให้พนักงานทุกคนมีความภาคภูมิใจแห่งอาเซียนร่วมกัน ซีอีโอ ไทยเบฟ บอกว่า ปัจจุบันไทยเบฟมีสำนักงานอยู่หลายประเทศ สำนักงานใหญ่ที่ประเทศไทยมีพนักงานประมาณ 43,000 คน เน้นความผูกพันองค์กร นอกจากนั้นมีสำนักงานในอาเซียน ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ และจีน เราจะเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
ส่วนแผนดำเนินการเพื่อพิชิตเป้าหมาย PASSION 2025 ดร.เอกพลบอกว่า ท้าทายมาก สิ่งที่สำคัญสร้างคนที่พร้อมสำหรับอนาคต ระยะสั้นเน้นการพัฒนาคนสามารถดึงดูดคนที่มีวัฒนธรรมใช่กับไทยเบฟ พร้อมจะเดินทางและพัฒนาให้เก่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เปิดโอกาสให้ทำงานและเติบโต แผนระยะยาวไทยเบฟมีเป้าที่จะพัฒนาระดับความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรให้ไปถึง 90% ในปี 2573 ในปัจจุบันปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 83 % จากการจัดทำแบบสำรวจพนักงาน Employee Engagement Survey ปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน โดยเฉพาะการใส่ใจคนรุ่นใหม่ให้สามารถขยายศักยภาพและประสบความสำเร็จ การพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรที่ใส่ใจการเติบโต ผูกพัน ของพนักงาน จึงเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในระยะยาว
“อนาคตเทคโนโลยีจะพลิกโฉมการทำงานอย่างมหาศาล ไทยเบฟมีพนักงาน 60,000 คนทั่วโลก ต้องวางแผนในการพัฒนาให้พวกเขาประสบความสำเร็จในอีก 10 ปีข้างหน้า การ Upskill Resill เป็นความมุ่งมั่นขององค์กร สร้างโอกาสใหม่ๆ พัฒนาโอกาสปัจจุบัน เพื่อให้พนักงานทรานฟอร์มสู่ดิจิทัล รวมถึงการขยายธุรกิจมีโอกาสในการทำงานใหม่ๆ จากโลกที่เปลี่ยนแปลง” ดร.เอกพล กล่าวถึงแผนระยะยาว และย้ำในท้าย MARSHALL GOLDSMITH OUTSTANDING COACHING LEADER AWARD ถือเป็นอีกบทพิสูจน์ความสำเร็จ เป็นกำลังใจและนำความภาคภูมิใจสู่คณะผู้บริหาร และพนักงานทุกคนของกลุ่มไทยเบฟ ตอกย้ำความเป็นองค์กรในฝันคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นพลังใจเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรแห่งความเป็นเลิศด้านการบริหาร และพัฒนาทรัพยากรบุคคล ในฐานะผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารที่มั่นคง และยั่งยืนของภูมิภาคอาเซียน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ยลสายน้ำ ยินทำนอง” Melodies of the River ประมวลภาพความประทับใจในงาน River Festival 2024 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ปีที่ 10 สืบสานประเพณีลอยกระทงแบบรักษ์โลก ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
สืบสานประเพณีและวัฒนธรรมไทย กับประเพณีลอยกระทงแบบรักษ์โลกในงาน River Festival 2024 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ปีที่ 10 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 16 พฤศจิกายน
ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร นครนายก น้อมรำลึก ร.9
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี นายกกิตติมศักดิ์และประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา พระราชทานพระราชานุญาตให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดงาน “ชัยพัฒนาแฟร์” ขึ้น เพื่อแสดงแนวคิดด้านการพัฒนา
นุ่งโจงห่มสไบลอยกระทง ยลวิถีคืนเพ็ญที่ ’สุขสยาม’
Bangkok River Festival 2024 เทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ปีที่ 10 “ยลสายน้ำ ยินทำนอง” ที่เชิญชวนมาร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทงริมสองฝั่งสายน้ำเจ้าพระยา
โครงการ ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว สานต่อปณิธานแห่งการ “ให้” ปีที่ 25 “มากกว่าความอบอุ่น คือสังคมแห่งการให้ที่ยั่งยืน”
จากความผันผวนของสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งภัยพิบัติรุนแรงหลายรูปแบบที่ต้องเผชิญในยุคของ Global Boiling (สภาวะโลกเดือด) กระทบต่อหลายพื้นที่ตอนบนของประเทศไทยในแถบภาคเหนือ
4 CEO ชั้นนำ เปิดแนวคิดฝ่าความท้าทายอนาคตที่ยั่งยืน บนเวที SX2024
ความพยายามของประชาคมโลกที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs 2030 (Sustainable Development Goals) ในอีก 6 ปีข้างหน้า