‘เศรษฐา’สบายใจได้ ‘ผบ.ทอ.’ การันตีหมดยุคทหารคิดทำรัฐประหาร   

12 พ.ย.2566-พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) กล่าวถึงเรื่องนิยามทหารอาชีพว่า ต้องเข้าใจบทบาทของตัวเองและเข้าใจวัตถุประสงค์ของกองทัพในภาพรวมในเรื่องความมั่นคงเป็นหลัก และการช่วยเหลือประชาชน เราเอาสองจุดนี้มาร่วมกัน ตอนนี้กองทัพอยู่ได้ และยึดมั่นสถาบัน เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือจะต้องเป็นทหารของพระราชา ต้องดูแลสถาบัน ชาติ พระมหากษัตริย์ ดำรงไว้ซึ่งศาสนาของแต่ละบุคคลที่เคารพนับถือ พยายามปลูกฝัง ยึดมั่นตรงนี้ แต่ที่สำคัญที่สุดที่เรามองคือเราจะต้องทำทุกอย่างให้เกิดประโยชน์สูงสุดให้แก่ประเทศชาติและกองทัพ

ถามว่า คิดว่าจะมีเหตุให้มีรัฐประหารหรือไม่ ผบ.ทอ.ตอบว่า”ไม่มีครับ” ถามอีกว่าเป็นความเชื่อ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี กล่าวว่า ผมเองก็ถือเป็นผู้บัญชาการ ทหารอากาศ ผมได้คุยกับผบ.เหล่าทัพ เรามองว่าปัจจุบันถึงอนาคต เราต้องไปกับประชาชนทุกคน ไปกับทุกคนที่อยู่ร่วมกันให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลฝ่ายค้าน เพราะเราเป็นประเทศที่โชคดี ไม่ได้อยู่ในสภาวะสงคราม  คนยังทำมาหากินกันได้ และได้นอนในบ้านตัวเอง ยังมีทะเลให้เล่นน้ำ มีปลา มีภูเขาไปเที่ยว เราไม่ต้องหอบหมอน หอบเสื่อไปนอนที่อื่นเราก็ต้องปรับตัวอยู่ด้วยกันให้ได้และจะไม่มีรัฐประหารหรือ ปฏิวัติรัฐประหาร

ถามย้ำว่า ทหารยุคนี้ไม่คิดแล้วใช่หรือไม่(รัฐประหาร) ผบ.ทอ.ยืนยันว่า”ครับ ไม่คิดแล้วครับ”และเมื่อถามอีกครั้งว่า ทหารทุกยุค ก็คิดว่าจะไม่มีแต่ก็จะมีเหตุ ดังแต่ละฝ่ายก็อย่าไปสร้างเหตุให้มันเกิดใช่หรือไม่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดีกล่าวว่า ครับผม ผมคิดว่าร่วมมือกันดีกว่า ช่วยเหลือดูแลประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้า

“ทั้งนี้ กองทัพอากาศไม่ได้ใหญ่โตนัก แล้วก็ไม่ได้เล็ก ทุกครั้งที่เราทำงานเราจะทำงานพร้อมกับรัฐบาลและประชาชนและเหล่าทัพอื่นตลอดเวลา เพราะเป้าหมายเราคือ เป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือความมั่นคงความปลอดภัยและความผาสุกของพี่น้องประชาชน อีกเรื่องที่สำคัญคือเรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะภัยพิบัติจากธรรมชาติเรามียุทโธปกรณ์ทรัพยากรซึ่งผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าจะดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด เคียงข้างพี่น้องประชาชนในยามที่ลำบาก”

นอกจากนี้ ผบ.ทอ.ยังกล่าวถึงเรื่องการจัดซื้ออาวุธของกองทัพอากาศ หลังถามว่า ในงบปี 2567 กองทัพอากาศ ข่าวว่า ไม่ได้รับการจัดสรรงบในส่วนดังกล่าว เช่นการซื้อเครื่องบินรบ แต่มีข่าวว่างบปีหน้า 2568 รัฐบาลไฟเขียวให้ซื้อได้ โดยผบ.ทอ. กล่าวตอบว่า ในนามกองทัพอากาศ ก็ต้องดูสภาพแวดล้อมทั้งหมด ต้องดูสถานการณ์ด้วย เราฟังเสียงประชาชนเป็นหลัก และเข้าใจถึงภาพรวมของประเทศ ผมก็เรียนนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่ากองทัพอากาศเคยมีแผนที่จะซื้อเครื่องบิน จัดหาเครื่องบิน อย่างที่ผมเคยไปชี้แจงต่อกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสภาฯ เมื่อสักสองปีที่ผ่านมา เราก็เคยขอไว้เมื่อสองปีที่แล้ว มาปีนี้ เริ่มต้นเราก็จะขอเหมือนกัน แต่ทราบว่าประเทศ ต้องนำงบประมาณมาพัฒนาประเทศในเรื่องที่มีความจำเป็นก่อน ซึ่งท่านก็รับปากว่า ความมั่นคงก็สำคัญ ก็จะจัดสรรงบประมาณในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ให้กองทัพอากาศได้จัดหาอาวุธที่จะมาทดแทน

เรามองว่าในอนาคต เครื่องบินรบหลักของเราต้องปลดประจำการในเร็วๆนี้ หากเราไม่จัดหามาทดแทน หากในอนาคต  สงครามหรือเหตุการณ์ที่จะเกิด เราคาดการณ์ไม่ได้จริงๆว่า จะเกิดพรุ่งนี้หรือวันไหน เพราะฉะนั้น การเตรียมพร้อม การหาเครื่องบินมาหนึ่งฝูงบิน ต้องใช้เวลาในการเตรียมพร้อม การจัดหา เตรียมการจัดซื้อ -ตรวจรับและฝึกนักบินประมาณสิบปี ถึงจะมีความพร้อมรบ ถึงจะปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศได้ และยิ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันนี้ ทุกประเทศมีความต้องการอาวุธหมด แล้วถ้าเราไม่มีความชัดเจน เราอาจจะไม่ได้จัดอยู่ในลำดับความสำคัญที่เขาจะจำหน่ายให้เราได้

สำหรับการจัดซื้ออาวุธ-เครื่องบินของกองทัพอากาศ ที่มีการจัดซื้อแบบงบผูกพันข้ามปี จนถึงปัจจุบันของกองทัพอากาศมีเหลือไม่เยอะแล้ว เพราะมีการยกเลิกโครงการไปบ้างเช่น การจัดซื้อ เครื่องบินรบเอฟ-35 (F-35) ที่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว กองทัพอากาศ ก็มีการคืนให้กับสำนักงบประมาณไปแล้วประมาณ 369 ล้านบาท ก็ทำเรื่องคืนตามคำมั่นสัญญา ส่วนการที่ไม่ได้เอฟ-35  ก็เข้าใจว่าทางสหรัฐอเมริกา ก็เข้ามาดู ตรวจสอบสภาพแวดล้อมแล้ว อาจเป็นเรื่องของการเปลี่ยนผ่านเจเนอเรชั่น ของเครื่องบิน โดยเอฟ-35เป็นเครื่องบินที่ทันสมัยมาก ทำให้การดูแลต้องดูแลดีมากและต้องมีการ transition เครื่องบินของเราเป็นเอฟ35 ทางสหรัฐก็แนะนำว่าควรจะมีตรงกลางอีกซักหนึ่ง เจนเนอเรชั่น การที่จะไปจาก เจนเนอเรชั่นที่4 ไปเจนเนอเรชั่นที่5 เลยก็จะลำบาก ซึ่งเจนเนอเรชั่นที่ 5 จะเป็น Stealth aircraft เขาจึงแนะนำว่าเราควรจะมีเครื่องบิน 4.5 ก่อน เช่น F-16 block 70  หรือเป็น Gripen E/F ซึ่งฝูงบินที่เรามีอยู่นั้นจะเป็น 4.5 ในระบบเครือข่าย network centric ที่มอบมากับเครื่องบิน ที่เราซื้อ ซึ่งขณะนี้มีประจำการอยู่ 11 เครื่อง นอกจากนั้นกองทัพอากาศ ยังมีF 16 อยู่ 2 ฝูงบิน  คือ ฝูงบิน403 จำนวน 18 เครื่อง และฝูงบิน 103 จำนวน 24 เครื่อง ยืนยันว่าที่เราไม่ได้F 35 ไม่ได้มีมิติทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

การเมืองไทยปี 68 เข้มข้น-ขับเคี่ยว-ร้อนแรง ซักฟอกมี.ค.-ปรับครม.กลางปี

การเมืองไทยไม่ว่าปีไหนๆ ก็มีประเด็นร้อนเกิดขึ้นได้ตลอด บางเรื่องเกิดขึ้นตามปฏิทินการเมือง แต่บางประเด็นเป็นความร้อนแรงที่แทรกขึ้นมาแบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

'ภูมิธรรม' มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบเทอม 4 ปีแน่!

'ภูมิธรรม' มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี เชื่อปี 68 ไม่มีเหตุวุ่นวายนำสู่รัฐประหาร ชี้ ปชต.ไม่ควรสะดุดขาดตอน ย้ำสัมพันธ์ทหารดีมาก มอง 'ยิ่งลักษณ์' กลับไทยธรรมดาของคนอยู่ ตปท.

ปี67‘อดีตสว.’ขยับสะเทือนถึงรัฐบาล ถอดถอน‘เศรษฐา’ที่มาของหลายเรื่อง

การเมืองรอบปี 2567 เหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดต้องยกให้กับศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้ “แพทองธาร ชินวัตร” กลายเป็นนายกฯ หญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย และทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นตามมา วันนี้จึงขอบันทึกเรื่องราวนี้ไว้ ยกให้เป็นเหตุการณ์แห่งปี

'ภูมิธรรม' เผยทหารกังวลถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง สั่งย้ายเพราะกลัวรัฐประหาร

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการเข้ามาทำงานในกระทรวงกลาโหมว่า ตอนที่เข้ามายังมีพื้นฐานความเข้าใจกอง

‘สมคิด’ โวผลเลือกตั้งอยู่ที่ผลงานรัฐบาล เชื่อสนามอบจ. เพื่อไทยชนะรวด

นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมือง กล่าวถึงถึงผลสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพล ที่คะแนนของพรรคเพื่อไทย และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มาเป็นอันดับสองทั้งคู่ว่า

'สมศักดิ์' ฟุ้งปีหน้า 'รัฐบาลอิ๊งค์' ฉลุย อีก 2 ปีครึ่ง พท. กลับมายิ่งใหญ่

'สมศักดิ์' มองทิศทางการเมืองปี 68 มั่นใจรัฐบาลแพทองธาร เดินไปได้ไร้ปัญหาสะดุดล้ม พรรคร่วมไม่ถึงขั้นแตกหัก ฟุ้งอีก 2 ปีครึ่ง เพื่อไทยกลับมายิ่งใหญ่