3 พ.ย.2566 - ที่ห้องประชุมอาคารพระตำหนักเพชรรัตน์ สวนรื่นฤดี กอ.รมน. (ส่วนกลาง) พล.อ.นพนันต์ ชั้นประดับ อดีตผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง กอ.รมน. พร้อมด้วย พล.ท. ดนัยวัฒนา รุ่งอุทัย อดีตรองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง กอ.รมน. และพล.ต. วินธัย สุวารี โฆษก กอ.รมน. ชี้แจงกรณีการเสนอร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติความมั่นคง พ.ศ.2551 และความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ภารกิจการจัดของ กอ.รมน.ที่คลาดเคลื่อนไป
โดย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษก กอ.รมน. ได้ย้ำถึงบทบาทของ กอ.รมน.ว่า เป็นส่วนราชการที่มีรูปแบบเฉพาะ ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่ในการติดตาม ตรวจสอบ ประสานงานและประเมินแนวโน้มของสถานการณ์ อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรโดยเสนอแผนต่อคณะรัฐมนตรี เสริมการปฏิบัติหน่วยงานของรัฐ เสริมสร้างให้ประชาชนตระหนักในหน้าที่ที่ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ สร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ
รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของสังคม ตามมาตรา 7
ส่วนอำนาจหน้าที่ตาม มาตรา 15 เช่นการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะต้องได้รับมอบหมายโดยมติคณะรัฐมนตรี และไม่ได้มีภารกิจซ้ำซ้อนหน่วยงานใด
ด้าน พล.อ.นพนันต์ ได้กล่าวถึงจัดการองค์กรว่าเป็นไปตามระบบราชการ และเป็นสากล เพราะการแก้ปัญหาความมั่นคง จำเป็นต้องมีการอำนวยการร่วม และบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานอื่น ๆ หากจะยุบ กอ.รมน.นั้น ภารกิจดังกล่าว ๆ ก็จะต้องโอนกลับไปยัง สมช. ซึ่งก็จำเป็นจะต้องเพิ่มอัตรากำลังคนอีก และจะเป็นภาระงบประมาณของประเทศด้วย
สำหรับกรณีที่มีการกล่าวถึงงบ กอ.รมน.เป็นงบลับ นั้น พล.ต.วินธัย ชี้แจงว่า ในงบประมาณ 7,000 กว่าล้านบาทของ กอ.รมน.นั้น เป็นงบประมาณในระบบงบประมาณปกติ ไม่ใช้งบลับ โดยส่วนใหญ่จะใช้ในภารกิจการแก้ปัญหาในพื้นที่ชายแดนใต้อยู่ประมาณ 6,000 กว่าล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นค่าใช้จ่ายตอบแทนในด้านกำลังพล รวมถึงสวัสดิการต่าง ๆ ของพลเรือน ตำรวจ และทหารจำนวน เกือบ 5,000 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายที่ถูกจัดไว้ในหมวดรายจ่ายงบลับของ กอ.รมน. นั้นอาจมีเพียงราว ๆ 10 ล้านบาทเท่านั้น โดยเงื่อนไขการใช้จ่ายยังคงต้องเป็นไปตามระเบียบทางราชการทุกประการ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระบบราชการ แต่ในระยะหลังงบในส่วนนี้จะไม่มีแล้ว
พล.อ.นพนันต์ อดีตผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง กอ.รมน. ยืนยันเพิ่มเติมว่า การใช้งบประมาณดังกล่าวของ กอ.รมน. ไม่มีอภิสิทธิ์ในการเลี่ยงการตรวจสอบใด ๆ มีการตรวจสอบ และถ่วงดุล และงบประาณดังกล่าวแต่เป็นงบที่บุคลากรได้รับตามสิทธิ เมื่อต้องไปปฏิบัติหน้าที่ที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยอดเจ้าหน้าที่ราว 50,000 คน ซึ่งมีทั้งพลเรือน ตำรวจ และทหาร
ส่วนการกล่าวหา กอ.รมน.เป็นรัฐซ้อนรัฐนั้น อดีตผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง กอ.รมน. ยืนยันว่า การจัดองค์กร กอ.รมน.นั้น ไม่ได้ซ้ำซ้อน แต่ผู้เสนอยังไม่ได้พิจารณาในมุมทางกฎหมาย ซึ่งการจัด กอ.รมน. จะเป็นระบบทหาร ผสมกับพลเรือน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ โดย กอ.รมน.ไม่ใช่ลักษณะรัฐซ้อนรัฐ และไม่ใช่หน่วยงานสูงสุดของประเทศ แต่เป็นหน่วยงานระดับปฏิบัติ การจัดหน่วยงานอยู่ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการอำนวยการของ กพ. กพร. และต้องได้รับการตรวจสอบต่อรัฐสภา ศาล และองค์กรอิสระ เช่นเดียวกับส่วนราชการอื่น ๆ และไม่ได้ทำให้อำนาจทหาร อยู่เหนือพลเรือน เพราะหน่วยงานผู้มอบหมายงานในปัจจุบันคือ สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ซึ่งก็เป็นหน่วยงานระดับพลเรือน ขึ้นตรงนายกรัฐมนตรี รวมถึงมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาในฐานะ ผอ.รมน. ซึ่งเป็นฝ่ายพลเรือน
พล.ต. วินธัย กล่าวถึงหากไม่มี กอ.รมน. ก็อาจจะไม่มีหน่วยงานหลักที่สามารถบังคับใช้ และดำเนินการรักษาความมั่นคงภายใน ทำให้ฝ่ายบริหารอาจขาดเครื่องมือสำคัญในการทำงานด้านความมั่นคง ที่จะต้องมาขับเคลื่อนและบูรณาการการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ แก้ปัญหาต่าง ๆ ในสังคมยุคปัจจุบัน และอาจไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ เนื่องจาก กอ.รมน.เป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุนในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติ ด้านความมั่นคงในหลายด้าน โดยเฉพาะกรณีการแก้ปัญหาของจังหวัดชายแดนใต้ ที่ กอ.รมน.เป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งหากยุบกลไกเครื่องมือการแก้ปัญหาไป แต่ปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีอยู่ ก็อาจจะส่งผลกระทบอย่างแน่นอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เย้ยกฎหมาย! โพสต์ขาย 'น้ำท่อม' ฉลองวันลอยกระทง
ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก. สภ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.ท.สุขุม เพาะไธสง รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.โสภาส ถนนทิพย์ สวป. สภ. พร้อมกำลังตำรวจ
'ภูมิธรรม' แบ่งงาน 'บิ๊กแป๊ะ-บิ๊กรอย-สุรสิทธิ์-ธิติรัฐ' ลุยงานมั่นคง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้นำนายธิติรัฐ อดิศรพันธ์กุล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองของนายภูมิธรรม พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ที่ปรึกษารองนายกฯ
‘อดีตรองหน.เพื่อไทย’ เตือนสติ ‘ไว้ใจ-ศรัทธา’ คือพื้นฐานเสถียรภาพความมั่นคงรัฐบาล
สามารถ แก้วมีชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เตือนสติรัฐบาล
ชมภาพชุด ซ้อมพิธีสวนสนาม 'ทหารรักษาพระองค์'
พลตรีวิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยระหว่างการซักซ้อมพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ฯ ณ กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
โฆษก มท. แจงมติครม.เร่งแก้ปัญหาคนไร้สถานะทางทะเบียน 4.8 แสนราย ไม่ใช่ให้สัญชาติคนต่างด้าว
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติหลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติ และสถานะให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามา
ครม. ไฟเขียวหลักเกณฑ์เร่งรัดแก้ปัญหาสัญชาติกว่า 4.8 แสนคน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนออนุมัติหลักเกณฑ์ เพื่อเร่งรัดให้มีการแก้ไขปัญหาสัญชาติ, สถานะของกลุ่มบุคคลที่อพยพเข้ามาในไทยเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักรไทย