อึ้ง! 'ฮามาส' มีหลายกลุ่มจับคนไทย 'ปานปรีย์' ยันตัวประกันอยู่ที่ 23 ราย

‘รมว.ต่างประเทศ’ แถลงเยือน 3 ประเทศ ช่วยไทยเจรจาปล่อยตัวประกันเต็มที่ อียิปต์ไฟเขียวรับเชลยชายแดนราฟาห์ได้ แปลกใจฮามาสไม่ใช่กลุ่มเดียวที่จับ ยันตัวเลขยังอยู่ 23 ราย

3 พ.ย. 2566 – เมื่อเวลา 11.05 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการไปพบกับบุคคลสำคัญใน 3 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศกาตาร์ ประเทศอียิปต์ และประเทศอิหร่าน เพื่อขอให้ประเทศเหล่านี้เจรจากับกลุ่มฮามาสเพื่อปล่อยตัวประกันไทย ว่า ทั้ง 3 ประเทศ แสดงท่าทีช่วยเหลือไทยอย่างเต็มที่ จากการหารือสิ่งที่สร้างความแปลกใจให้ตน คือ รัฐมนตรีถามว่าแรงงานไทยที่ไปอยู่อิสราเอลไปทำอะไร เขาคงคิดว่าไปทำธุรกิจหรือตั้งบริษัท ตนจึงชี้แจงให้ทราบว่าแรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร มีรายได้น้อย แล้วไปทำมาหากินที่อิสราเอล เพื่อหารายได้ส่งกลับมาหาครอบครัวที่ประเทศไทย ดังนั้น จึงไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือความขัดแย้งใดๆทั้งสิ้น ซึ่งทางรัฐมนตรีประเทศต่างๆก็ตกใจ ตนจึงขอให้รัฐมนตรีสื่อไปที่กลุ่มฮามาสได้หรือไม่ เพราะไม่แน่ใจว่าฮามาสจะทราบหรือไม่ว่ากลุ่มที่จับไปเป็นเกษตรกร

นายปานปรีย์ กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้แปลกใจอีกอย่าง คือ การจับตัวประกันไม่ได้มีกลุ่มฮามาสเพียงกลุ่มเดียว ดังนั้นการเจรจาจึงไม่สามารถเจรจากับกลุ่มฮามาสเพียงกลุ่มเดียว เพื่อให้ปล่อยตัวประกันได้ อย่างไรก็ตาม ไทยขอร้องให้ 3 ประเทศช่วยผลักดันเจรจาเพื่อให้ปล่อยตัวคนไทยโดยเร็วที่สุด เขาบอกว่าขณะนี้อยู่ในช่วงสู้รบ อยากให้ไทยสนับสนุนให้หยุดยิงโดยเร็ว ซึ่งจะทำให้มีโอกาสปล่อยตัวมากขึ้น ตอนนี้ประเทศกาตาร์เขาเชื่อว่าคนไทยจะได้รับการปล่อยตัวเป็นกลุ่มแรก ตนฟังแล้วสบายใจ ส่วนรัฐมนตรีประเทศอิหร่านจะช่วยเจรจาให้ปล่อยตัวโดยเร็ว ส่วนรัฐมนตรีอียิปต์เขารับปากจะรีบดำเนินการช่วยหาปล่อยตัวประกัน

“หากมีการปล่อยตัวประกันของไทย ขอให้กรุณาแจ้งให้ไปอัครราชทูตไทยประจำประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบทันที เพื่อเตรียมตัวไปรับตัวประกัน ส่วนประเทศอียิปต์มีชายแดนติดกับกาซาและช่วยเหลือมนุษยธรรม และเชื่อว่าอาจปล่อยตัวที่ชายแดนราฟาห์ ซึ่งเราได้ขอให้เจ้าหน้าที่ของเราไปรับที่จุดนั้น ซึ่งเขาก็อนุญาต” รมว.กต. ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทยกับทีมงานของประธานรัฐสภา เพื่อเจรจาขอปล่อยตัวประกันไทย นายปานปรีย์ กล่าวว่า ขอบคุณที่ทุกคนมีความตั้งใจและอาศัยเครือข่ายที่มีอยู่ ทางรัฐบาลไทยไม่ได้จำกัดเพียงฝ่ายรัฐบาล แต่หากมีฝ่ายเอกชน ฝ่ายการเมืองช่วยด้วย ตนยินดี และดีใจด้วยซ้ำที่จะช่วยให้คนไทยกลับมาโดยเร็วที่สุด

เมื่อถามถึงแผนการเดินทางไปเจรจาเพิ่มเติมกับประเทศต่างๆ และจำนวนแรงงานไทยที่ถูกจับกุมเพิ่มเติมนั้น นายปานปรีย์ กล่าวว่าข้อมูลจากสถานทูตไทยฯ มี 23 ราย ส่วนที่อ้างว่ามีเพิ่มขึ้น ฝ่ายอิสราเอลยังยืนยัน 23 รายเป็นจำนวนที่ถูกต้อง ไม่ได้มีการจับตัวเพิ่มเติม ส่วนแผนจะเดินทางไปคุยกับประเทศใดเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ถ้ามีประเทศใดช่วยเหลือเราได้ก็พร้อมจะไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เศร้า! รับร่างไร้วิญญาณแรงงานไทย เหยื่อสู้รบในอิสราเอลกลับถึงบ้านแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถยนต์ตู้ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว ทะเบียน นจ 3915 นนทบุรี ของร้านสุริยาหีบศพ แคราย ได้เคลื่อนย้ายร่างของนายประหยัด

'ธีระชัย' ชำแหละกต.ก่อคำถามคาใจ ไม่บอกว่าถ้าเจรจาตาม MOU44 เสี่ยงเสียเกาะกูด 99%

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ประธานร่วมศูนย์นโยบายและวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า

'มาริษ' เผยไทยพร้อมต่อยอดความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ หลังได้ประธานาธิบดีคนใหม่

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอย่างไม่เป็นทางการ ภายหลังผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ 267 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ

'หม่อมกร' เห็นพ้อง 'ปานเทพ' ตอกย้ำ กต.แถลง MOU 44 ขัดกับพระบรมราชโองการโดยชัดแจ้ง

ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าวันนี้ปรากฎหัวข้อข่าวว่า“ปานเทพ ซัด กต.กล้าบังอาจแถลงข่าวตัดตอนพระบรมราชโองการ ร.9 ถามกรมสนธิสัญญาฯ ทำเพื่อประโยชน์รัฐบาลชาติใด”

'ธีระชัย' ท้า! ก.ต่างประเทศแจง กัมพูชายอมรับเกาะกูดเป็นของไทยแล้วลากเส้นผ่าทำไม

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้