ในช่วงท้ายปีมักจะมีอีเวนต์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับ “สายมู” หรือ “สายบุญ” ที่ผู้คนให้ความสนใจกราบไหว้ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันทั่วสารทิศ โดยเฉพาะวันที่ 17 ต.ค. ที่เป็นวันราหูย้ายโคจรจากราศีเมษเข้าสู่ราศีมีน ทำให้ในวันนั้นกลุ่มสายมูต้องรวมตัวกันเพื่อไหว้ราหู เสริมสิริมงคลต่อชีวิต
อีเวนต์ของสายมูยังมีอีกมากมาย ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมาที่ตรงกับวันออกพรรษาพอดี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ได้ชวนผู้ที่สนใจร่วมเดินทางในเส้นทางสายมู “สำเร็จ บุญหนัก ศักดิ์ใหญ่” ตระเวนไหว้พระวัดที่มีชื่อเสียงด้านความศักดิ์สิทธิ์ และมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานในพื้นที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดย อ.คฑา ชินบัญชร กูรูสายมู ได้นำคณะไหว้พระขอพรแบบถูกต้อง 3 แห่ง ได้แก่ วัดโตนด (หลวงพ่อสำเร็จ) วัดโพธิ์บางโอ และวัดสักใหญ่
สำหรับ 3 วัดที่ได้เดินทางไปสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น วัดแรก คือ วัดโตนด สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2526 สมัยกรุงธนบุรี แล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ อุโบสถลักษณะทรงจีนประดับถ้วยชามเบญจรงค์ และหอระฆังกลางน้ำที่งดงามในวัดนี้เอง อ.คฑา ชินบัญชร ก็ได้อธิบายถึงวิธีการไหว้พระ ขอพร และบทสวดที่ถูกต้อง เพื่อให้ผู้ร่วมทริปสามารถรับบุญกุศลไปได้อย่างเต็มที่ รวมถึงมีการกล่าวถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปหลวงพ่อสำเร็จว่าสามารถสร้างแรงศรัทธาให้กับคนที่มากราบไหว้บูชา จากการมาขอให้ท่านดลบันดาลความสำเร็จให้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าที่การงาน การเงิน หรือโชคลาภ
วัดต่อมา คือ วัดโพธิ์บางโอ สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2310 เดิมชาวบ้านแถวนี้มีอาชีพเป็นช่างสานโอน้ำแบบโบราณขาย จึงมีคำว่าบางโอต่อท้ายชื่อวัด ซึ่งภายหลังได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ โดยกรมหลวงเสนีบริรักษ์ เมื่อสมัยรัชกาลที่ 3 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด คือ ภาพเขียนปริศนาธรรม จิตรกรรมฝาผนังในอุโบสถ ซึ่งมีความเก่าแก่และงดงามอย่างมาก พร้อมกับไฮไลต์ของพระอุโบสถ อย่างเช่นรูปวาดของพระราหูที่ยังมีรูปร่างเต็มตัวอยู่ เป็นเหตุการณ์ของตำนานก่อนที่จะเกิดราหูอมจันทร์ รวมถึงหน้าบันพระอุโบสถสลักไม้รูปนารายณ์ทรงครุฑ ลายกนกขมวดเกี่ยวพันกัน รวมถึงใบเสมาหินทรายที่มี 2 ใบด้านหน้า ซึ่งมากกว่าวัดทั่วไป เนื่องจากเป็นการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 3
และวัดสุดท้ายคือ วัดสักใหญ่ ซึ่งพระเจ้าตากสินมหาราช ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ ร่วมกับบรรพบุรุษในถิ่นนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2317 สิ่งที่น่าสนใจ คือ หลวงพ่อสุโขทัยที่มีความงดงาม สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 1900 – 2000 เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยตอนปลายในสมัยพระมหาธรรมราชา มีพระพักตร์คล้ายใบหน้าสตรี ประทับนั่งขัดสมาธิราบปางมารวิชัย องค์พระถูกหุ้มด้วยปูน โดยสันนิษฐานอีกด้วยว่าคราวพม่ายกทัพมาตีกรุงศรี ชาวบ้านช่วยกันพอกปูน เพื่อให้พม่าคิดว่าเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ต่อมาปูนที่พอกกะเทาะออก เห็นเนื้อสัมฤทธิ์แก่ทองคำอยู่ด้านใน จึงกะเทาะปูนออกและลงรักปิดทองใหม่ นอกจากนี้ ภายในอุโบสถ ยังประดิษฐานหลวงพ่อใหญ่ ซึ่งสร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างวัด โดยพุทธศาสนิกชนนิยมมากราบไหว้ และสรงน้ำปิดทองเป็นประจำทุกปี
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีวัดสวนใหญ่ที่เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่านกแก้วโมงที่ต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้ เนื่องจากเป็นนกแก้วโม่งฝูงสุดท้าย โดยข้อมูลจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า เป็นนกตระกูลนกแก้วขนาดเล็ก-กลาง แต่เป็นนกแก้วขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มีความยาววัดจากหัวถึงปลายหางได้ราว 51-58 ซม. หัวและลำตัวมีสีเขียว จะงอยปากอวบอูมสีแดงสด บริเวณหัวไหล่จะมีแถบสีแดงแต้มอยู่ทั้งสองข้าง มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศอินเดีย เมียนมา ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม และประเทศไทย สามารถพบได้ทุกภาคยกเว้นภาคใต้ ซึ่งตามกฎหมายนกแก้วโม่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
ที่ผ่านมาชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างบ้านและที่อยู่อาศัยให้นกฝูงนี้บนต้นยางใหญ่ภายในวัด และเหตุที่มีนกแก้วโมงมาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ เนื่องจากใน อ.บางกรวย สมัยอดีตเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มีสวนผลไม้อันเป็นแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์ของฝูงนกแก้วโมงและนกแขกเต้า จึงทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและน่าสนใจ
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชุมชน วัด หรือธรรมชาติ ก็สามารถตอบโจทย์ความมีเสน่ห์ของบางกรวยได้อย่างเต็มที่ ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจ ร่วมเดินทางตามรอยเส้นทางสายมูได้ตลอดทั้งปี สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2436 8952-3 หรือ Facebook Page ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ' แบตเตอรี่ยักษ์กักเก็บพลังงานสะอาด
ความท้าทายในการก้าวข้ามขีดจำกัดของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่กำลังมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นในระบบไฟฟ้าเพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ คือ การบริหารจัดการความผันผวนของพลังงานหมุนเวียนที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงบางช่วงเวลา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
'โรงไฟฟ้า SMR' ตัวเปลี่ยนเกมพลังงานสะอาด
ภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องและแรงกดดันจากมาตรการทางการค้าถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เร่งให้ทั่วโลกพยายามดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
Fitch Ratings คงอันดับความน่าเชื่อถือของ กฟผ. ในระดับสากลที่ระดับ 'BBB+'
บริษัท Fitch Ratings (Fitch) ประกาศผลการทบทวนการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของ กฟผ. ในระดับสากลที่ระดับ “BBB+” ซึ่งเป็นระดับเทียบเท่ากับอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย และให้มุมมองความน่าเชื่อถือ (Outlook) ของ กฟผ. อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable)
“สวนผักทางไฟ” พลิกพื้นที่แห้งแล้งใต้แนวสายส่งไฟฟ้าสู่แหล่งอาหารบ้านโนนยาง
“เคล” ราชินีแห่งผักใบเขียว หรือคะน้าใบหยิก ที่กำลังเตรียมตัดขายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เป็นภาพที่เกษตรกรบ้านโนนยาง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
กฟผ. ร่วมส่งความสุขล้นใจแบบรักษ์โลก เป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ให้คนไทยฉลองแบบแฮปปี้
กฟผ. เตรียมของขวัญปีใหม่ 2568 ให้คนไทยในรูปแบบ 3 ส่วนลดพิเศษ ส่วนลดผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 30,000 สิทธิ์ ส่วนลดค่าชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
กฟผ.หนุน'ยกน้ำหนัก–เรือพาย'ต่อ สร้างพลังใจดันนักกีฬาไทย สู่ระดับโลก
กฟผ. สนับสนุนงบประมาณ สมาคมยกน้ำหนักฯ สมาคมเรือพายฯ ต่อเนื่องอีก 4 ปี มุ่งพัฒนาศักยภาพนักกีฬาไทยสู้ศึกทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อสร้างรอยยิ้ม และความสุขให้คนไทย