'หมอวรงค์' ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน เตือนนายกฯ และคณะฯ หยุดลอยตัว ปล่อย 'ทักษิณ' ใช้อภิสิทธิ์ นอนรพ.ตำรวจ 2 เดือน ขัดระเบียบราชทัณฑ์ เทียบนักโทษลูกคนจน ผ่าสมอง 2 วัน ต้องเข้าคุกบอกรักษาได้ จับพิรุธ แพทย์ไม่แถลงเอง หวั่นผิดจริยธรรมถูกยึดใบอนุญาต
25 ต.ค.2566- ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นพ.วรงค์ เดชวิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี และคณะ เข้ายื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินกรณีหน่วยงานของรัฐปล่อยปละละเลยการบังคับใช้กฎหมายกับนายทักษิณ ชินวัตร และบังคับใช้กฎหมายไม่เท่าเทียมกับคนอื่น โดยมีนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียนรับเรื่อง
นพ.วรงค์ กล่าวว่า การที่มาร้องผู้ตรวจการแผ่นดินครั้งนี้ก็เพราะกรณีนายทักษิณ ที่กลับมาประเทศไทยตั้งแต่ 22 ส.ค.66 ที่ผ่านมา ซึ่งผ่านมา 60 กว่าวัน สะท้อนว่า เจ้าหน้าที่รัฐไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำลายนิติรัฐ นิติธรรมอย่างจงใจ จึงถึงเวลาที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะลอยตัว แต่ต้องลงมาจัดการการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างจริงจัง เพราะทันทีที่นายทักษิณ เดินมาถึงประเทศไทยก็เข้ารักษาโรงพยาบาลตำรวจอย่างเร่งด่วน ซึ่งตามระเบียบของราชทัณฑ์ ระบุว่า ผู้ถูกคุมขัง หรือนักโทษที่จะออกไปรักษาข้างนอกจะต้องผ่านกระบวนการรักษาของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน แต่เราไม่เชื่อว่าคืนนั้น นักโทษชายท่านนี้ไม่ได้ไปรักษาที่ราชทัณฑ์ นี่เป็นการปฏิบัติข้ามขั้นตอนไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย และจนถึงขณะนี้ รักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ 60 กว่าวัน การกระทำของคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์มีการปิดบังการรักษาโดยอ้างพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งที่สิ่งที่ต้องชี้แจงคือนักโทษชายท่านนี้ไม่ได้ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจเพราะพ.ร.บ.ดังกล่าว แต่เป็นการส่งตัวไปโดยไม่เป็นไปตามระเบียบเงื่อนไขราชทัณฑ์
นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 3 เป็นจุดตายที่เป็นอันตรายต่อกฎหมายของประเทศคือ กฎระเบียบราชทัณฑ์กำหนดชัดเจนว่า ผู้ถูกคุมขังหรือนักโทษเมื่อไปรักษาที่โรงพยาบาลนอกราชทัณฑ์ ไม่มีสิทธิ์ไปรักษาห้องพิเศษ แต่ปรากฏว่านักโทษชายท่านนี้ได้รับเอกสิทธิ์ อภิสิทธิ์พิเศษเหนือกว่านักโทษคนอื่นๆ ที่ไปอาศัยห้องพิเศษชั้น 14 ซึ่งเป็นที่รับรู้ของประชาชนทั่วไปและสื่อมวลชน ดังนั้นจึงต้องรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อเสนอมายังประธานผู้จัดการแผ่นดิน ตามมาตรา 22 (3) ที่ให้ผู้ตรวจฯ รวบรวมข้อเท็จจริง เสนอต่อนายกฯ และคณะรัฐมนตรีและนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดของเจ้าหน้าที่รัฐ ตามมาตรา 53 ของรัฐธรรมนูญ 2560
“ 60 กว่าวันที่ผ่านมา ชัดเจนว่า จงใจ สมรู้ร่วมคิด ของราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง จึงเป็นบทสรุปที่เสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน นายกฯ จะลอยตัวไม่ได้ จะปล่อยให้นักโทษคนหนึ่งมีอภิสิทธิ์เหนือประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 27 ระบุชัดว่า คนทุกคนมีสิทธิ์ที่เสมอภาคเท่าเทียมกัน ไม่สามารถเลือกปฏิบัติได้ ไม่ว่าจะมีชาติกำเนิด อาชีพ เพศ ศาสนา สถานะทางสังคม หรือสถานทางเศรษฐกิจจะเลือกปฏิบัติไม่ได้ ถ้าปล่อยไว้นานเกินไปจะเป็นความเสียหายต่อระบบนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศไทย” นพ.วรงค์ กล่าว
นพ.วรงค์ กล่าวว่า ปัญหาอยู่ที่ว่าตอนนี้ป่วยหนักจริงหรือไม่ เพราะราชทัณฑ์ระบุล่าสุดบอกว่า นักโทษชายท่านนี้ ผ่าตัดโรคออโธปิดิกส์ จากนั้นก็มานอนรักษาตัวที่ไอซียูศัลยกรรมประสาท ซึ่งคนเรียนแพทย์ทุกคนอ่านแล้วรู้สึกหัวเราะเยาะว่าใช้ภาษาอะไร ทางการแพทย์ไม่มีใครใช้ภาษาแบบนี้ เพราะคำว่าออโธปิดิกส์เป็นศัพท์ทางวิชาการ แปลว่ากระดูก ข้อและเอ็น แสดงว่า นักโทษชายท่านนี้ ผ่าตัดกระดูก ข้อ และเอ็น แล้วผ่าตัดส่วนไหน เพราะกระดูกไหนร่างกายมีตั้งหลาย ส่วนทำไมไม่ชี้แจงให้ชัดเจน และที่สำคัญที่สุดที่บอกว่าต้องนอนรักษาตัวไอซียูศัลยกรรมประสาท ซึ่งเป็นไอซียูสำหรับคนไข้สมอง เทียบกับความเจ็บไข้ที่แถลงมา ไม่มีความสัมพันธ์กัน ที่น่าเศร้ามากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตนกลับไปที่จังหวัดพิษณุโลก เจอแพทย์ผ่าตัดสมองท่านหนึ่ง เข้ามาทักบอกว่า เห็นข่าวแล้วเศร้าใจ เพราะมีคนไข้นักโทษหนุ่มมาจากเรือนจำหนึ่งด้วยอาการปวดหัว ตรวจสอบพบเป็นเนื้องอกในสมอง แพทย์ผ่าตัดให้ แต่ราชทัณฑ์ให้พักที่โรงพยาบาลแค่ 2 วันเท่านั้น แล้วให้กลับไปรักษาที่สถานพยาบาลของราชทัณฑ์ ที่เศร้าใจมากทำไมเห็นว่านักโทษชายที่เดินาดีๆ 2 เดือนแล้วยังไม่ได้กลับบ้าน แต่นักโทษที่เป็นลูกชาวบ้าน คนจนทั่วไป มาโรงพยาบาลแค่ 2 วัน ก็ต้องกลับ บอกว่าสถานยาบาลราชทัณฑ์สามารถรักษาได้ นี่คือความเท่าเทียมกันไม่เกิด และเราเองก็รอมา 60 กว่าวันจนรู้สึกว่ามันมากเกินไป
เมื่อถามว่านายกฯ มีการชี้แจงว่ามีการเจาะ 4 รู หัวไหล่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า เจาะอะไร ไม่เกี่ยว เพราะคำว่าออโธปิดิกส์ ในวงการแพทย์ กระทั่งนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ซึ่งเป็นหมออยู่ในพรรคเพื่อไทย ได้ยินแล้วหัวเราะกันหมด ถ้ายังมีความเป็นหมออยู่ ถ้ารักษาเสร็จก็ต้องไปอยู่ไอซียูศัลยกรรมกระดูก แต่กลับไปอยู่แผนกผู้ป่วยโรคทางสมอง เท่ากับว่ากำลังแย่งที่คนไข้สมองหรือไม่
“เขาเป็นโรคหัวใจ ความดัน โรคปอด และโรคผู้สูงอายุ ผมเชื่อว่าคนไทยเป็นคนเอื้ออารี ป่วยอะไร ผ่าตัดอะไรก็ขอให้บอกอย่างตรงไปตรงมา ผ่าตัดหัวไหล่ ผ่าตัดกระดูกดอ็นหลัง กล้ามเนื้อมัดไหน ก็บอกประชาชนไปเลย แพทย์เขาแถลงได้อยู่แล้ว แต่คำอ้างเช่นนี้ เป็นการอ้างแบบกำกวม ไม่ตรงไปตรงมา รู้สึกว่า มีการร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” นพ.วรงค์ กล่าว
เมื่อถามว่า หากประเมินทางการแพทย์การรักษา เจาะหัวไหล่ สอดคล้องกับอาการนายทักษิณ หรือไม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า นึกภาพแบบตรงไปตรงมา ก่อนเดินทางเข้ามา นายทักษิณ โชว์การชกกระสอบทราย ว่ายน้ำ แต่ในช่วงค่ำวันที่มาถึงไทยนั้นป่วยหนักฉุกเฉิน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ในกรุงเทพรักษาไม่ได้ ดูพฤติกรรม การกระทำ การเจ็บป่วยมันย้อนแย้ง สมัยที่เจ็บป่วยรักษาที่สิงคโปร์ยังมีภาพออกมาโชว์เพื่อรายงานประชาชน วันนี้มานอนขนาดที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์รักษาไม่ได้ ก็บอกประชาชนก็ได้ว่า รักษาส่วนไหน ผ่าตัดตรงไหน มีภาพให้ดูสักหน่อย ประชาชนอุ่นใจก็โอเค แต่การทำลับๆ ล่อๆ บ่งบอกว่า คุณไม่ตรงไปตรงมา
“ผมสันนิษฐานว่า ปกติการเจ็บป่วยจะมีคณะแพทย์ที่แถลงตรงไปตรงมา แม้แต่นายกฯป่วยเป็นหวัดก็มีแพทย์แถลงว่าเป็นหวัด แต่ครั้งนี้แพทย์ไม่แถลง ซึ่งผมเชื่อว่า แพทย์เขารับรู้ว่า ถ้าแถลงไปแล้วจะติดบ่วงเรื่องจริยธรรม จากการจงใจแถลงอะไรผิดๆ อาจถูกยึดใบประกอบวิชาชีพ จึงให้กรมราชทัณฑ์แถลง ซึ่งผิดปกติในการรักษาพยาบาล” นพ.วรงค์ กล่าวและว่า ตามระเบียบราชทัณฑ์ หากเป็นนักโทษคุมขังต้องรักษาไปเช้า เย็นกลับ ยกเว้นแพทย์มีความเห็นว่าจะต้องนอนโรงพยาบาลถึงนอนได้ ถ้าเกิน 30วัน ต้องรายงานอธิบดีกรมราชทัณฑ์ หากเกิน 60 วัน อธิบดีฯ ต้องรายงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เชื่อว่า เรื่องนี้ถ้าตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา จะมีประวัติการรักษาอย่างละเอียดว่าทำอะไรกับคนไข้บ้าง และบ่ายนี้จะไปยื่นต่อป.ป.ช. ถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ กำลังปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เมื่อถามว่า หากนายทักษิณ ป่วยจริง การที่อยู่โรงพยาบาล60 วันจะทำอย่างไร นายวรงค์ กล่าวว่า ถ้าป่วยจริงไม่ยาก ก็แค่แถลงว่าหนักแค่ไหนถึงขนาดที่ทัณฑ์สถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ รักษาไม่ได้ คนไข้พิษณุโลกผ่าตัดสมองยังอยู่โรงพยาบาลแค่ 2 วัน แต่นี่อยู่ 2 เดือนกว่า ยังรักษาไม่ได้ ดูมันเหลื่อมล้ำมากเกินไป แต่เชื่อว่าคนไทยมีจิตใจเอื้ออารี แถลงอย่างตรงไปตรงมา เจ็บไข้ได้ป่วยจริงๆ ดีไม่ดีจะได้ส่งกำลังใจให้อีก แต่ถ้าทำอะไรไม่ตรงไปตรงมา คนไทยรู้สึกว่าไม่ไหวคนที่มาวันนี้ก็เพราะอึดอัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'โรม' สุดต้าน 'พท.' แก้เกมดึงเช็งถกลับปมชั้น 14 ไร้เงา 'ทักษิณ' ลงรับหนังสือแต่ไม่ตอบกลับ
'โรม' สุดต้าน 'เพื่อไทย' แก้เกม ดึงเช็งถกลับปมชั้น 14 บอกให้หารือขอบเขตอำนาจหน้าที่ กมธ.ก่อน หลัง 'กรมราชทัณฑ์' ติงไร้อำนาจสอบ หวั่น ผิดจริยธรรมยกคณะ ทำ 'ทวี' ต้องนั่งรอไปก่อน ขณะที่ไร้เงา 'ทักษิณ' ลงรับหนังสือแต่ไม่ตอบกลับ
'รังสิมันต์' ลั่นกมธ.มั่นคงฯมีอำนาจตรวจสอบเทวดาชั้น 14 ท้า 'ทักษิณ' บริสุทธิ์จริงต้องมาชี้แจง
'รังสิมันต์' ลั่นกมธ.มั่นคงฯมีอำนาจตรวจสอบเทวดาชั้น 14 ยันไม่ซ้ำซ้อนคณะอื่น รับทำงานลำบากหน่วยงานไม่ให้ข้อมูล ท้า 'ทักษิณ' บริสุทธิ์จริงต้องมาชี้แจง วอนขรก.น้ำดีหากพบพิรุธส่งมาให้กมธ.
'นิพิฏฐ์' เฉลย 'ยิ่งลักษณ์' กลับไทยเป็นไปได้ 'ทักษิณ' ไม่ได้พูดเล่นๆ
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เปิดเผยว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหนีคดีทุจริตจำนำข้าว อาจจะกลับประเทศไทยก่อนสงกรานต์ปีหน้า ว่า ระบุว่า
'โรม' กล่อม 'ทักษิณ' เข้าแจง กมธ.ความมั่นคง ปมชั้น 14 เชื่อเป็นผลดีต่อรัฐบาล-นายกฯอิ๊งค์
นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเชิญนายทักษิณ ชินวัตร
ชาวบ้านเกาะเต่า ร้องผู้ตรวจฯ ชงศาลปค. เพิกถอนกฎกระทรวงห้ามออกโฉนดบนเกาะ
นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วยชาวบ้านเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ตรวจสอบและมีความเห็นเสนอต่
อดีตรองผู้ว่าฯ สุดทน 'ทักษิณ' สำราก 'กฎหมายเฮงซวย' ยุดำเนินคดี ละเมิดพระราชอำนาจ
นายสมโภช โชติชูช่วง อดีตรองผู้ว่าราขการจังหวัดกระบี่ โพสต์ข้อความถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี ว่า