‘จตุพร’ ท้ารัฐบาลเงินดิจิทัลดีจริง จ่ายเงินเดือน ‘รมต.-สส.-สว.-ขรก.’ ก่อน

‘จตุพร’ ลั่น ‘เศรษฐา-รัฐบาล’ ไม่บอกที่มาเงินแจก 5.6 แสนล้าน ซัดปลุก ปชช.มาหนุน เย้ยมีเสียงเป็นล้านย่อมไร้ความหมายถ้า ปปช.ขวาง แนะพิสูจน์เงินดิจิทัลดีจริงต้องจ่ายเงินเดือนรมต.-สส.-สว -ขรก.ก่อน

16 ต.ค.2566-นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ กล่าวถึงการแจกเงินดิจิทัลหมื่นบาทว่า รัฐบาลไม่ได้พูดความจริง ตั้งแต่ไม่ตอบคำถามอดีต ผู้ว่า ธปท.และอีกหลายหน่วยงาน รวมทั้งนักวิชาการมากมายที่รู้ทางเศรษฐกิจ ซึ่งลงชื่อคัดค้านด้วยเหตุผลทั้ง 7 ข้อ อย่างไรก็ตาม แม้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ประกาศยังเดินหน้าทำต่อไปโดยไม่ฟังเสียงค้านก็ตาม แต่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน และศาล รธน.จะสามารถหยุดนโยบายนี้ได้ ดังนั้น การปลุกคนเป็นล้านให้ส่งเสียงสนับสนุนรัฐบาลย่อมไม่มีความหมายใดๆ

“คุณ (นายเศรษฐา) ปลุกประชาชนให้ตายที่จะส่งเสียงสนับสนุนการแจกเงินดิจิทัล แต่องค์กรเหล่านี้ตั้งคณะกรรมการมาศึกษาย่อมใช้คนไม่กี่คนหรือมีแค่ 9 คนก็จะจัดการกับคุณได้ คุณยังไม่เข็ดหลาบเหรอกับเรื่องเสียง สส. ดังนั้น การขอให้ประชาชนออกมาส่งเสียงคำรามใส่อีกฝ่ายหนึ่ง จึงไม่มีผลใดๆ เลย”

นายจตุพร เสนอว่า คนที่ออกมาคัดค้านเงินดิจิทัลนั้น ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย แต่ทุกคนห่วงใยประเทศชาติ ถ้านโยบายนี้ดีจริงควรเริ่มต้นที่ ครม. แล้ว สส.และ สว. อีกทั้งไปยังข้าราชการทุกทบวงกรม ควรจ่ายเงินเดือนเป็นเงินดิจิทัลเสียก่อน เพื่อพิสูจน์ให้คนไทยได้รับรู้ว่า สามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้อย่างไร้ข้อสงสัยใดๆ  หากเพื่อไทยต้องการแจกเงินดิจิทัลจริง ก็ไม่ควรทำบล็อกเชนใหม่เพราะที่มีอยู่ทั้งหมดในแต่ละหน่วยงานแล้ว จึงไม่ควรใช้เงินภาษีอากรของประชาชนมาจ่ายซ้ำทำใหม่ให้สิ้นเปลืองเงินอีก

ส่วนการขยายพื้นที่จากรัศมี 4 กม.หรือไม่ แล้วจะหมุนรอบอย่างไรนั้น เมื่อจ่ายเงินแล้วนำไปซื้อสินค้าได้รอบเดียวก็หมดแล้ว ไม่อาจหมุนอีกกี่รอบได้เลย นอกจากนี้ที่บอกว่า ครอบครัวสามารถนำเงินมาลงทุนตั้งตัวทางเศรษฐกิจ ต้องอธิอบายในโลกความเป็นจริงให้ได้ว่า จะตั้งตัวได้อย่างไรกัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว คนที่ตั้งตัวได้คือบรรดาเจ้าสัวทั้งหลาย

นายจตุพร กล่าวว่า หากเกิดการแฮกบล็อกเชนแล้ว ใครจะต้องเกี่ยวข้องในการรับประกันความสี่ยงเช่นนี้ ตนจึงเรียกร้องให้รัฐมนตรีเพื่อไทยเอาเงินส่วนตัวและทรัพย์สินทั้งหมดมาการันตีความผิดพลาด เพื่อไม่ต้องไปฟ้องร้องตามอายัดทรัพย์กันให้ยุ่งยากเสียเปล่า

“ถ้ามั่นใจจริง เริ่มต้นแจกเงินหมื่นกันเดือนหน้าเลยมั้ย 1 พ.ย.ก็รับเงินเดือนเป็นเงินดิจิทัลจะเป็นตระกูลไหนก็ได้ เพื่อพิสูจน์และเงินบาทจะได้หมดกันไป แต่การออกมาชี้แจงว่า ศึกษามาดี ก็รีบทำเลย ไม่ต้องไปปลุกประชาชนออกสนับสนุน แต่คุณประกาศมาเอาเงินมาจากไหน กระจอกมากบอกว่าคิดมาดี คิดมาจบแล้ว แต่บอกเงินเอามาจากไหนไม่ได้”

นายจตุพรกล่าวว่า ถ้า รมต.เพื่อไทยใช้เงินตัวเองไปแจกแล้ว คงไม่ใครคัดค้านแน่นอน แต่เอาเงินประชาชนมาแจก แล้วยังต้องแบกดอกเบี้ยอีก ดังนั้น ประชาชนย่อมรู้ว่า เงินมาแจกเป็นเงินกู้จากไหน ถ้าประเทศรีบเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ทำไม ร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่ายปี 2567 บัดนี้ยังไม่ทำเลย ดังนั้น เราจึงเห็นว่าทุกอย่างไม่มีความพร้อมเลย แต่กำลังจะหาแพะ โดยปลุกประชาชนเพื่อให้รู้ว่า ทำไม่ได้เพราะมีคนคัดค้าน แค่คนขวางอย่าง ศาล รธน.และ ปปช. คุณปลุกคนทั้ง 56 ล้านเสียงมาสู้ให้ตาย ก็ไม่มีความหมายใดๆ ทั้งสิ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นพดล' ฟังทางนี้! 'หมอวรงค์' จับโป๊ะ คำชี้แจง 'MOU 44'

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ถึงนพดล ปัทมะ" โดยระบุว่า คำพูดของนายนพดล ปัทมะ ที่ชี้แจงพันธมิตรฯ เรื่อง MOU 44

'นายกฯอิ๊งค์' มอบคำขวัญวันเด็ก ปี 68 'ทุกโอกาสคือการเรียนรู้'

'นายกฯอิ๊งค์' มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 68 ‘ทุกโอกาสคือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง‘ ยันรัฐบาลเห็นคุณค่าเด็กทุกคน มีสิทธิ์ทำให้ประเทศนี้น่าอยู่

'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' สติแตก โต้ 'ผมเป็นหนี้อะไรนักหนาสู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง' คงทดแทนพอแล้ว

'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' สติแตก อารมณ์อึดอัดพลุกพล่าน พูดกราดเกรี้ยวดุดัน โชว์ถ่อยเป็นพ่อไม่ไว้หน้านายกฯ ลูกสาว จวกปราศรัยเหวี่ยงแห ดุด่าสองแง่สามง่าม ยัดเยียดสารพัดเนรคุณ ย้อนแสบทดแทนบุญคุณนักสู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บหรือยัง ลั่น 'ผมเป็นหนี้อะไรนักหนา' สู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง ชีวิตผจญชะตากรรมไม่รู้จบ บ้านรอถูกยึด คงทดแทนกันพอแล้วมั้ง

'นักเศรษฐศาสตร์' ชำแหละนโยบายเศรษฐกิจ 'เพื่อไทย' ล้มเหลว เละเทะ ไม่เป็นท่า

รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ นโยบายเศรษฐกิจของเพื่อไทยที่ล้มเหลว มีเนื้อหาดังนี้

ครม.ไฟเขียวแจกเงินหมื่น เฟส 2 ผู้สูงอายุ ม.ค.68 ส่วนเฟส 3 รอความชัดเจนกลางปีหน้า

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความชัดเจนในโครงการแจกเงิน 1หมื่นบาท เฟสที่ 3 ว่า ในไตรมาส 2 ของปี 2568 ก็คิดว่าน่าจะได้ความชัดเจนตรงนี้