'ก้าวไกล' แถลงรวบยอดสอบวินัย สส.หื่นกาม-ทำร้ายแฟนสาว ยังไม่ขับพ้นพรรค

"ก้าวไกล" แถลงความคืบหน้ารวมหลายกรณี สส.คุกคามทางเพศ ยันหาข้อยุติภายในตุลาคม "ไอติม" น้อมรับคำวิจารณ์ ลั่นเวลาเราเรียกร้องมาตรฐานจากสังคม ก็ต้องเรียกร้องกับตัวเองด้วย ยันพรรคไม่สื่อสารทางเดียว เปิดให้ถามได้ บอกยินดีให้ความร่วมมือคนนอกสอบ ขณะ "ทนายแจม" รับเป็นความจริงที่น่ากระอักกระอ่วนใจ-ต้องตอบสังคมให้ได้

12 ต.ค.2566 - เมื่อเวลา 12.00 น. ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมการวินัยพรรค แถลงข่าวความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี สส.พรรคก้าวไกล ถูกกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ โดยเป็นช่วงการแถลงและเปิดให้ซักถามทั้งสิ้นประมาณ 30 นาที

โดยนายพริษฐ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมา พรรคก้าวไกลกำลังมีปัญหาเรื่องการคุกคามและความรุนแรงทางเพศ ในฐานะพรรคการเมืองที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระดับประเทศ แต่ปัญหากลับเกิดขึ้นจากบุคลากรภายในองค์กรเราเอง สิ่งที่ต้องทำให้ได้ คือการยอมรับปัญหา เผชิญหน้ากับปัญหา และหาความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย โดยไม่สร้างวัฒนธรรมในการปกปิดเรื่องดังกล่าวหรือปกป้องคนในองค์กรที่กระทำผิด วันนี้สื่อมวลชนหลายคนอาจมีคำถามเกี่ยวกับกรณีล่าสุดที่ปรากฎในข่าว ที่เป็นข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศของ สส.ปราจีนบุรี แต่วันนี้จึงแถลงถึงภาพรวมทั้งหมดของปัญหาที่เกิดขึ้นและแนวทางของพรรคในการแก้ไขปัญหาโดยขอแบ่งเนื้อหาการแถลงออกเป็น 3 ส่วนคือ

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ส่วนที่หนึ่ง บทสรุปของข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ ที่ได้ข้อสรุปจาก กก.บห. พรรค ไปแล้ว 2 กรณี ตั้งแต่หลังการเลือกตั้ง ทางพรรคได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมคุกคามทางเพศโดยสมาชิกพรรค ซึ่งคณะกรรมการวินัยของพรรคได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงทุกฝ่าย และกรรมการบริหารพรรคได้มีมติลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว ใน 2 กรณี

กรณีที่ 1 ข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ความรุนแรงโดย นายสิริน สงวนสิน สส. กทม.พรรคก้าวไกล ซึ่งทาง กก.บห.พรรค พบว่า นายสิรินได้ทะเลาะวิวาทกับผู้เสียหาย และได้กระทำความรุนแรงต่อผู้เสียหายจริง จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บบริเวณร่างกาย รวมไปถึงทรัพย์สิน ทางพรรคจึงได้มีมติให้ลงโทษ นายสิริน โดยการตัดสิทธิที่พึงมีในฐานะสมาชิกพรรค โดยตัดสิทธิไม่ให้ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งสำคัญในพรรคทันที และกำหนดคาดโทษไว้ว่า หากมีเหตุการณ์ใดๆ ก็ตามที่นายสิรินกระทำผิดวินัยร้ายแรงอีกครั้งในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่เป็น สส. ทางพรรคจะยกระดับโทษเป็นการขับออกจากสมาชิกภาพ

ส่วนกรณีที่ 2 ข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศโดย นายเกรียงไกร จันกกผึ้ง อดีตผู้สมัคร สส.ชัยภูมิ ทาง กก.บห.พรรค พบว่า นายเกรียงไกรได้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เสียหายจริงตามข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นการละเมิดหลักเรื่องความยินยอมและสิทธิในเนื้อตัวและร่างกายของผู้เสียหายอย่างชัดเจนจึงได้มีมติให้ลงโทษโดยการขับออกจากสมาชิกภาพทันที

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่สอง สถานะและความคืบหน้าของข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ ที่ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนโดย คกก. วินัยพรรค 2 กรณี คือข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศโดย นายวุฒิพงษ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี หลังจากทางพรรคได้รับคำร้องจากผู้ร้องเรียน ทางพรรคได้ริเริ่มกระบวนการสอบข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการวินัยพรรคเมื่อเดือนสิงหาคม โดยได้เชิญแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ทางประธาน คกก. วินัยพรรค ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวาน (11 ต.ค.) ยอมรับว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวมีมูล และทางพรรคเข้าใจว่าสังคมคงได้รับรู้และพิจารณาได้จากข้อเท็จจริงบางส่วนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ปรากฏออกไปต่อสาธารณะ โดยกระบวนการสอบข้อเท็จจริงและการวินิจฉัยจะได้ข้อสรุปภายในตุลาคมนี้ และพรรคจะผลสรุปต่อสาธารณะโดยทันทีอย่างเปิดเผย พร้อมกับตอบทุกข้อสงสัยที่มีเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

นายพริษฐ์ กล่าวว่า กรณีที่ 2 ข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศโดย สส. อีก 1 คน ทางพรรคได้ทราบข้อมูลว่าได้เกิดเหตุการณ์ที่อาจเข้าข่ายการล่วงละเมิดทางเพศโดยสมาชิกพรรค ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง สส. ของพรรคก้าวไกล แม้ว่าทางพรรคยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนโดยตรงจากบุคคลซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นผู้เสียหาย ตั้งแต่ทราบเรื่อง ทาง คกก. วินัย ของพรรคได้เร่งติดต่อไปยังบุคคลดังกล่าว โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรอความพร้อมของบุคคลดังกล่าว ในการให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฎ

นายพริษฐ์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการปรับปรุงการทำงานของพรรคหลังจากนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการคุกคามทางเพศในอนาคตแม้ทางพรรคได้มีการอบรมบุคลากรของพรรคมาอย่างต่อเนื่องเรื่องการกระทำที่เข้าข่ายการคุกคามทางเพศ และแม้ทางพรรคจะพยายามออกแบบกระบวนการสอบสวนที่คำนึงถึงสภาพจิตใจของผู้ถูกกระทำ แต่การที่ตนต้องมาแถลงเรื่องนี้ในวันนี้ ก็เป็นการบ่งบอกที่ชัดเจน ว่าเรายังทำได้ดีไม่พอ โดยหลังจากการหารือกันภายในมาเป็นระยะ ทางพรรคขอให้คำมั่นสัญญาว่าเราจะดำเนินการปรับปรุงตนเองในการป้องกันและรับมือกับปัญหาการคุกคามทางเพศ ผ่านมาตรการดังนี้

1.ทางพรรคจะปรับปรุงการทำงานของคณะกรรมการวินัยพรรค ผ่านการปรับองค์ประกอบของคณะกรรมการให้มีสัดส่วนของผู้เชี่ยวชาญภายนอก ที่ไม่ได้เป็น สส. ของพรรค และไม่ใช่เพศชาย เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเพิ่มทั้งประสิทธิภาพในการดำเนินงานของคณะกรรมการ รวมถึงเพิ่มกลไกตรวจสอบไม่ให้จำกัดอยู่เพียงการตรวจสอบโดยบุคลากรภายในพรรค

2.ทางพรรคจะทบทวนและพิจารณาปรับปรุงกระบวนการสอบสวนตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความล่าช้าในการพิจารณาหรือดำเนินการใดๆ ที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากความจำเป็นในการแสวงหาข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย

3.ทางพรรคจะเพิ่มความเข้มข้นของการอบรมบุคลากรของพรรคเรื่องการเคารพความเสมอภาคทางเพศและสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย โดยจะขยายทั้งจำนวนผู้เข้าร่วมให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนมากขึ้น เพิ่มความถี่และรูปแบบของการอบรม และเพิ่มความละเอียดของเนื้อหาและหลักสูตรที่จำเป็นต่อการสร้างความเข้าใจที่ผ่านคำปรึกษาของผู้เชี่ยวชาญภายนอก รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการคัดกรองบุคลากรให้คำนึงถึงความสำคัญของเรื่องดังกล่าวมากขึ้นและไม่น้อยไปกว่าความสามารถในการทำงาน

นายพริษฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะไม่หลบหนีจากปัญหาดังกล่าว แต่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาดังกล่าว และพรรคก้าวไกลจะไม่สร้างวัฒนธรรมการปกปิดการกระทำผิดของคนในองค์กร เพราะการปกปิดและการไม่มีมาตรการรับผิดเพียงเพราะกลัวองค์กรเสียชื่อเสียงต่างหาก ที่เป็นต้นเหตุสำคัญในการส่งเสริมการคุกคามทางเพศและการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉลในสังคม

จากนั้นได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถาม โดยผู้สื่อข่าวถามว่าแม้จะยังไม่สิ้นสุด แต่เบื้องต้นทั้ง 2 ฝ่ายว่าอย่างไรบ้าง น.ส.ศศินันท์ กล่าวว่า จากที่มีการเปิดเผยแชตบางส่วนในโซเชียลมีเดีย แต่หลักฐานที่คณะกรรมการวินัยได้มามี 200 กว่าแผ่น ตอนแรกเข้าใจว่ามีแค่นั้น แต่จากการสอบสวนเพิ่มเติมพบว่ามีพยานหลักฐานอื่นอีก กระบวนการหลังจากนี้ เราต้องการข้อความในส่วนที่หายไปเพื่อมาประกอบกน แล้วดูว่าเป็นการคุกคามทางเพศหรือไม่ หรือมีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่สามารถตัดสินได้หากยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน เพียงแต่ตอนนี้อยากมายอมรับกับสังคมว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง และตั้งใจที่จะมีคณะกรรมการวินัยในสัดส่วนของผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น เพื่อมาจัดการกับปัญหาเรื่องนี้

ส่วนกรณีที่นายวุฒิพงศ์ ออกมาโพสต์คลิปชี้แจง อ้างว่าเป็นการดิสเครดิตด้วย น.ส.ศศินันท์ กล่าวว่า เรื่องนี้เข้ามากลางเดือน ก.ค. ในช่วงแรกเหมือนจะเป็นการดิสเครดิต ก่อนจะมีเรื่องการคุกคามทางเพศเข้ามาด้วย จึงดูเหมือนมีการโยงหลายเรื่องรวมกัน ทำให้การพิจารณายากขึ้นไปอีก จึงต้องแยกส่วนกัน ทั้งเรื่องคุกคามทางเพศและทางการเมือง ซึ่งคณะกรรมการวินัยที่ตั้งมาเฉพาะกิจจะพิจารณาเรื่องการคุกคามทางเพศเป็นหลัก ทั้งเรื่อง Consent และ Power Dynamics ที่จะต้องเอามาพิจารณาในการตัดสินหรือกำหนดบทลงโทษทางวินัยกับผู้กระทำความผิด

เมื่อถามว่าจะดิสเครดิตได้อย่างไร ในเมื่อผู้เสียทำงานกับพรรค นายพริษฐ์ กล่าวว่า ที่ยังต้องใช้เวลาเพิ่มเติมในการตรวจสอบ ไม่ใช่แค่ต้องการข้อสรุปว่าผิดหรือไม่ผิด หากผิดจะร้ายแรงขนาดไหน เพื่อให้การลงโทษเป็นไปตามสัดส่วนของความผิด ส่วนข้อมูลที่นายวุฒิพงศ์แถลง ต้องย้ำว่าเป็นชุดคำอธิบายของนายวุฒิพงศ์ ที่ต้องมีการพิสูจน์ก่อนว่าจริงหรือไม่

ขณะที่น.ส.ศศินันท์ กล่าวเสริมว่า สิ่งที่นายวุฒิพงศ์กล่าวอ้าง ในกระบวนการสอบสวนก็ให้เวลาในการหาพยานมารองรับ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนเรื่องการคุกคามทางเพศ ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นแชตแบบไหน ก็ต้องเวลากับคณะกรรมการทั้งหมดที่จะต้องพิสูจน์พยานหลักฐานด้วย

เมื่อถามว่าการตั้งคณะกรรมการภายในขึ้นมาตรวจสอบกันเอง จะทำให้มั่นใจได้อย่างไรว่าจะเกิดความโปร่งใส นายพริษฐ์ กล่าวว่า ต้องแยก 2 ประการ ประการแรก แม้จะเป็นกระบวนการสอบสวนภายใน เราก็ต้องทำเต็มที่ เพื่อให้กระบวนการดังกล่าวนำไปสู่ความเป็นธรรมต่อผู้เสียหาย ซึ่งตนคิดว่าการเพิ่มผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกจะทำให้มีความเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบมากขึ้น ประการที่ 2 แม้มีกระบวนการภายใน แต่เราก็ต้องเปิดต่อกระบวนการสอบสวนภายนอกเช่นกัน หากมีกระบวนการภายนอกเราก็พร้อมร่วมมือ การดำเนินการภายในไม่ได้มาแทนที่กระบวนการภายนอกที่สามารถเกิดขึ้นได้ เรายินดีให้ความร่วมมือ

เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์ว่าพรรคก้าวไกลตอบสนองค่อนข้างเร็วในการตรวจสอบพรรคอื่น แต่เมื่อเป็นเรื่องภายในพรรคกลับล่าช้า นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนน้อมรับคำวิจารณ์ และเราเห็นด้วยกับหลักการว่าเวลาเราเรียกร้องมาตรฐานที่ดีขึ้นจากสังคม ก็ต้องเรียกร้องมาตรฐานนั้นกับตนเองด้วย อย่างที่ตนบอกว่าแต่ละกรณีมีระยะเวลาในการดำเนินการแตกต่างกัน รวมถึงการสื่อสารที่แตกต่างกันออกไป ตนยืนยันว่าไม่เคยมีเจตนาที่จะทำให้เรื่องนี้ได้ข้อยุติล่าช้า เราจึงทำเต็มที่ให้ได้ข้อยุติเร็วที่สุด ตอนนี้อยู่ในขั้นตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม แต่กรรมการบริหารพรรคยืนยันว่าจะให้มีข้อสรุปได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งคำวิพากษ์วิจารณ์ก็ถูกนำมาพิจารณาประกอบการปรับปรุงกระบวนการในอนาคต

นายพริษฐ์ ยังย้ำว่า โดยปกติเมื่อมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาจะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนโดยคณะกรรมการวินัย ก่อนจะส่งความเห็นให้คณะกรรมการบริหารตัดสินใจ แต่จะมีบางกรณีไม่ได้มีการยื่นเรื่องโดยผู้เสียหายโดยตรง แต่เมื่อทราบเหตุจากบุคคลอื่น พรรคก็ติดต่อผู้ที่อาจจะเป็นผู้เสียหายทันที เพื่อให้ความเป็นธรรมกับบุคคลดังกล่าว เป็นการทำงานเชิงรุกด้วย ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบ

เมื่อถามว่าพรรคชูเรื่องความเท่าเทียมมาตลอด แต่กลับมีประเด็นนี้ น.ส.ศศินันท์ กล่าวยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระอักกระอ่วนใจของ สส.หญิงของพรรค เพราะเรายืนยันเรื่องนี้มาโดยตลอด เราอภิปรายเรื่องความรุนแรงในครอบครัว เรื่องเด็ก สตรี

“เป็นความจริงที่น่ากระอักกระอ่วนใจ ที่เราต้องตอบสังคมให้ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เราได้รับคำแนะนำ เมื่อก่อนกรรมการวินัยมีสัดส่วนผู้หญิงน้อยมาก ก็ได้เพิ่มสัดส่วนผู้หญิงขึ้นมา ซึ่งดิฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น กรณีแรกเป็นเรื่องที่ชัยภูมิ” น.ส.ศศินันท์ กล่าว

น.ส.ศศินันท์ กล่าวต่อว่าเมื่อมีผู้หญิงในกรรมการวินัยมากขึ้น อาจจะทำให้ผลที่ออมาเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่สังคมเข้าใจมากขึ้น เราอาจจะไม่สามารถคุมคนทุกคนได้ เราไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดร่วมกันได้ ก็ต้องมีการเรียนรู้ปรับปรุงต่อไป จะได้ยกระดับความรับผิดชอบของ สส. มากขึ้นด้วย

ขณะที่นายพริษฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สุดท้ายแล้วความเชื่อมั่นของประชาชนขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา สิ่งที่จะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ ส่วนที่ถูกมองว่าพรรคก้าวไกลมักจะใช้วิธีการสื่อสารทางเดียวเมื่อเกิดปัญหา ตนยืนยันว่า สิ่งสำคัญคือการเผชิญ ซึ่งวิธีการหนึ่งคือการตอบทุกคำถามที่สังคมหรือสื่อถามแทนประชาชน วันนี้เราจึงออกมาชี้แจงเรื่องนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนาคตไกล' รับซื้อ 'ปลาหมอคางดำ' 20 ตันเพื่อกำจัด อัด 'พิธา' ตรรกะวิบัติอ้างคนจะเพาะเลี้ยงมากขึ้น

“พรรคอนาคตไกล” บรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมง รับซื้อปลาหมอคางดำ 20 ตันเพื่อกำจัด อัด "พิธา-ก้าวไกล ตรรกะวิบัติ" อ้างคนจะเพาะเลี้ยงมากขึ้น

'พิธา-ชัยธวัช' จวกรัฐมนตรีเล่นใหญ่แก้ 'ปลาหมอคางดำ' ด้วยวิธีรับซื้อ ชี้ยิ่งทำเพาะเลี้ยงมากขึ้น

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล กล่าวถึงปัญหาปลาหมอคางดำระบาด ว่า ตนให้นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. และนายแพทย์วาโย อัศว

'ก้าวไกล' เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ. 'พิธา' อ้อนพี่น้องชาวลำพูนเชื่อในประชาธิปไตย

ก้าวไกลจัดสภากาแฟที่ลำพูน แลกเปลี่ยนปัญหาภาคเอกชน 'พิธา' ชี้เศรษฐกิจภาคเหนือมีแรงเฉื่อยลักษณะพิเศษโตช้า

อึ้ง!ปดิพัทธ์บอกยุบ 'ก้าวไกล' แสดงว่าไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยส่งผลสภานานาชาติ

'ปดิพัทธ์' ยอมรับมีชื่อเป็น กก.บห.ก้าวไกล เสี่ยงพ้น สส. หากพรรคถูกยุบจริง แต่เชื่อมั่นว่าการสู้คดีมีน้ำหนัก ไม่เสียดายตำแหน่งรองประธานสภา ชี้งานที่หาเสียงไว้ทำได้หมดแล้ว

'รังสิมันต์-มาริษ'โต้เดือดปมธนาคารไทยมีเอี่ยวช่วยซื้ออาวุธให้รัฐบาลเมียนมา!

'โรม' จี้ถามจุดยืนประเทศ หลังมีแฉธนาคารในไทย เอี่ยวใช้ธุรกรรมการเงินฆ่าชาวเมียนมา ซัด รบ.ต้องชัดเจน ด้าน 'รมว.กต.'โต้ไม่พบหลักฐานธนาคาร-รัฐบาลไทยเข้าไปเอี่ยว รับการคว่ำบาตรเป็นเรื่องยาก

'รอมฎอน' ลุยสังเกตการณ์ไต่สวนคดีตากใบข้องใจท่าที อสส.

'รอมฎอน' ลุยสังเกตการณ์นัดไต่สวนมูลฟ้องคดีตากใบ 19 ก.ค.นี้ รับกังวลหลัง 'อสส.' ขอญาติผู้สูญเสียยุติร้องเรียน ก่อนคดีหมดอายุความ