ศาลปกครองสูงสุด ชี้ไล่ออก 'อดีตอธิบดีกรมการปกครอง' ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

11 ต.ค.2566 - ศาลปกครองสูงสุด นัดอ่านคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ ฟบ.12/2559 ระหว่าง นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ ผู้ฟ้องคดี กับ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) กับพวก คดีที่มีกฎหมายกำหนดให้อยู่ในอำนาจศาลปกครองสูงสุด ตามมาตรา 116 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551) โดยศาลปกครองสูงสุดพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่า การลงโทษไล่ออกราชการ นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ กรณีการทุจริตการคัดเลือกข้าราชการเพื่อเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอ เป็นการใช้ดุลพินิจที่เหมาะสมและเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

โดยศาลเห็นว่า เมื่อการกระทำของผู้ฟ้องคดีเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริตตามมาตรา 85 (1) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 การที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3)​ ได้มีคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 280/2557 ลงวันที่ 28 พ.ค. 2557 ลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2554 จึงเป็นการใช้ดุลพินิจที่เหมาะสมและเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

เมื่อได้วินิจฉัยไว้ในข้างต้นแล้วว่าการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 มีคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 280/2557 ลงวันที่ 28 พ.ค.2557 ที่ลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2554 เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีคำวินิจฉัย เรื่องดำที่ 5710036 เรื่องแดงที่ 0086158 ลงวันที่ 30 ธ.ค. 2558 ที่ให้ยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีโดยอาศัยข้อเท็จจริงและได้วินิจฉัยลักษณะเดียวกันกับคำสั่งของ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ที่ลงโทษทางวินัยผู้ฟ้องคดีดังกล่าว จึงเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน

โดยเกี่ยวกับคดีนี้ ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า เดิมผู้ฟ้องคดีเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองเมื่อปี พ.ศ. 2552 กรมการปกครองได้มีการเปิดสอบคัดเลือกข้าราชการเพื่อเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 จำนวน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นที่ 68 รุ่นที่ 69 และรุ่นที่ 70 โดยได้มีการร้องเรียนว่าการคัดเลือกข้าราชการเพื่อเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอดังกล่าวมีการทุจริตการสอบ

ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ได้ไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติในการประชุมครั้งที่ 531-96/2556 เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2556 ว่า การกระทำของผู้ฟ้องคดีมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต และฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 85 (1) (4) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และมีมูลความทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริตฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารกรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสาร กระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานทำเอกสาร รับเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นเท็จและรับรองเป็นหลักฐาน ซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามมาตรา 157 มาตรา 161 และมาตรา 162 (1) (4) แห่งประมวลกฎหมายอาญา

โดย อ.ก.พ. กระทรวงมหาดไทยได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2557 เมื่อวันที่ 12 พ.ค.​ 2557 ลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ ตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติ จากนั้น ปลัดกระทรวงมหาดไทย(ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) จึงมีคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 280/2557 ลว. 28 พ. ค.2557 ลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ ผู้ฟ้องคดี ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 แต่ถูกยกอุทธรณ์ จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครม. เห็นชอบมาตรการลดค่าธรรมเนียม จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอดัง

ลุกลาม! 'สว.' พร้อมใจชูสัญลักษณ์กากบาทค้านกาสิโน หากเห็นชอบ​ เจอร้องจริยธรรม​ 'ป.ป.ช.-ศาล​รธน.'

ที่รัฐสภา สมาชิกวุฒิสภา​ (สว.) นำโดย​ นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา​ แถลงคัดค้านการนำร่างพระราชบัญญัติ

'อนุทิน' รับไม่ได้ เยียวยาเสียชีวิตตึกถล่ม แค่ 29,000 บาท ชีวิตคนต้องช่วยเหลือให้มากที่สุด

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย แถลงภายหลังจากการประชุมร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีอาคารสตง.แห่งใหม่ ย่านจตุจักรถล่ม

กรมโยธาฯ สั่งระงับใช้อาคารของหน่วยงานรัฐ 7 ตึก พบได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวหนัก

แถลงการณ์ ศูนย์รับแจ้งเพื่อตรวจสอบความเสียหายของอาคารที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว (ศรต.ยผ.) กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทยวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568

ป.ป.ช. แจงปม สตง. แจ้งผลสอบการใช้จ่ายของสำนักงาน ป.ป.ช. ปี 66 พบ 16 หน่วยงานบกพร่อง

นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ชี้แจงกรณีมีการนำเสนอข่าวว่า ครม.รับทราบ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)