สว.เตือน”เศรษฐา”ระวัง ปม”ทักษิณ”ได้รับอภิสิทธิ์ชน จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ทำสังคมลุกฮือ ประท้วงรัฐบาล ห่วงนโยบายเงินหมื่นดิจิทัลฯ ต้องควบคุมอย่าให้เสียหาย
27 ส.ค.2566 – นายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการเตรียมเข้าบริหารประเทศของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ว่า หลังจากรัฐบาลเข้าบริหารประเทศ ทางสมาชิกวุฒิสภา จะทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบ เสนอแนะ ให้กำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลต่อไป โดยเฉพาะการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ตัวนายเศรษฐา นายกรัฐมนตรีควรให้ความสำคัญเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันทรงมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขฯ โดยเฉพาะสภานักเรียนที่ตอนนี้มีตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และสภาองค์กรนักศึกษา สโมสรนิสิตนักศึกษาฯ ในระดับอุดมศึกษา อยากให้นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญด้วยการให้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุดมศึกษาฯ มีการตั้งงบประมาณ เพื่อเข้าไปพัฒนาสภานักเรียน -สภานักศึกษา ให้เกิดผลด้วยเพราะเด็กเหล่านี้ พออายุ 18 ปี ก็จะมีสิทธิ์เลือกตั้ง และหลังจากนั้นพออายุ 25 ปี ก็มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งการเมืองท้องถิ่นและการเมืองระดับชาติ
นายจเด็จ กล่าวว่า ซึ่งหากรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ก็เท่ากับพัฒนาการเมืองและการปกครอง รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยี ในการติดตามตรวจสอบเอาผิด ไม่ให้เกิดอาชญากรรมทางไซเบอร์ฯ ที่ทำให้เกิดการฉ้อฉลทางเทคโนโลยี รวมถึงยังมีการฉ้อฉลทางการเมืองด้วยการสร้างปัญญาประดิษฐ์ ไปสร้างข่าวสารที่เลวร้าย ขอให้นายกรัฐมนตรีสนใจสองเรื่องดังกล่าวด้วย
นายจเด็จ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้รู้สึกเป็นห่วงนโยบายแจกเงินหนึ่งหมื่นบาทหรือดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะมีผลต่อวินัยการเงินการคลังของประเทศ ที่ต้องควบคุมอย่าให้มีเสียหาย เพราะเรื่องการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเรื่องที่เห็นด้วยแต่ต้องระวังไม่ให้เสียหายด้านวินัยการเงินการคลัง และอีกเรื่องสำคัญคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากเห็นว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหาบางมาตรา จำเป็นต้องแก้ไข สว.ก็รับได้ และยิ่งที่บอกว่าจะไม่แตะต้อง หมวดหนึ่ง หมวดสอง ที่เกี่ยวกับชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นเรื่องดี แต่หลายหมวดที่สำคัญเช่น หมวดเรื่ององค์กรอิสระ เรื่องการปราบปรามการทุจริต ซึ่งจริงๆ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจแก้ไขแบบรายมาตราก็ได้ โดยใช้กลไกรัฐสภาแก้ไข ไม่จำเป็นต้องไปยกร่างใหม่ทั้งฉบับ ต้องทำประชามติถึงสองรอบ ที่ใช้งบประมาณหลายพันล้านบาท
“เรื่องการสร้างความเป็นธรรม ก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะตอนนี้คนกำลังจับตามองอยู่ถึงเรื่องความสัมพันธ์ ของพรรคเพื่อไทยกับนักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร จะทำอย่างไร จะไม่ให้ประชาชนเห็นว่ามีความเหลื่อมล้ำต่ำสูงกันมาก ถึงขั้นประชาชนทนไม่ได้ แล้วจะเกิดการประท้วง ผมคิดว่าคุณทักษิณตอนนี้หากยินดีรับโทษตามกฎหมายบ้านเมือง สักพักประชาชนจะเข้าใจว่านายทักษิณเป็นลูกผู้ชายตัวจริงที่มารับโทษตามกฎหมาย อย่าใช้อภิสิทธิ์อะไร เรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีต้องเฝ้าดูร่วมกับคนที่จะมาเป็นรมว.ยุติธรรม เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดกับสังคมไทย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมไทยกำลังจับตามองอยู่” นายจเด็จ ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แก้วสรร : ประเมินคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
แก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "ประเมินคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ" โดยมีเนื้อหาดังนี้
ศาลรธน.ยกคำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง เอกฉันท์ 5 ประเด็นเว้นประเด็น 2
จากกรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย
ลุ้นศาลรับคดีล้มล้าง ตุลาการถก6ประเด็น‘ทักษิณ-พท.’/ดันแก้ประชามติไม่รอ180วัน
"ทักษิณ-พท." ระทึก! 9 ตุลาการศาล รธน.ยืนยันนัดประชุมวาระพิเศษ 22 พ.ย.นี้
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'ชูศักดิ์' บอกรู้ตั้งแต่เห็นคำร้อง 'ธีรยุทธ' ไปไม่ได้ เหตุไม่เข้าเกณฑ์ล้มล้างปกครอง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณา
ดร.เสรี หวังศาลเป็นที่พึ่งปชช. ลุ้น 22 พ.ย. รับไม่รับคำร้อง ‘ทักษิณ-เพื่อไทย’ ล้มล้างฯ
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ถูกสงสัยว่าป่วยทิพย์ ณ ห้อง VVIP ชั้น 14 โรงพ