ไม่เลื่อนกลับ ‘อุ๊งอิ๊ง’ รับ ‘ทักษิณ’ กลับไทยเหมือนของขวัญวันเกิด แอบดูฤกษ์ดี 22 ส.ค.วันกลับ ปัดดีลผู้มีอำนาจ – เป็นตัวประกันทางการเมือง ลั่นไม่ได้ถูกหลอกหรือหลอกใคร ยอมรับได้คุณพ่อเข้ากระบวนการยุติธรรม ครอบครัวพร้อมซัพพอร์ต
20 ส.ค.2566-ที่ม.กรุงเทพธนบุรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการไปทำบุญที่ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ได้มีโอกาสทำบุญและอวยพรให้คุณพ่อ (นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ) เดินทางกลับด้วยความราบรื่น และเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ติดภารกิจ ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว พอมีเวลาก็เลยอยากไปทำบุญ ซึ่งก็ได้ชวนพี่สาว สามีและเพื่อนสนิทไปทำบุญไหว้พระร่วมกัน ซึ่งก็รู้สึกสบายใจ
ถามว่าการเดินทางกลับของนายทักษิณถือเป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิดให้กับตัวเองที่มีอายุครบ 37 ปีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ปกติเวลาพูดคุยกันเองในครอบครัว พูดเสมอว่าถ้าพ่อกลับเมื่อไหร่ ก็ถือเป็นของขวัญของทุกคนในบ้าน และใกล้วันเกิดของตนเองก็ถือเป็นของขวัญวันเกิดด้วยแน่นอน
เมื่อถามต่อถึงข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางกลับ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ความปลอดภัยตนขอรวมไปถึงเรื่องการเดินทางมาถึงแล้วรวมถึงเรื่องสุขภาพ ที่ตนอยากให้ท่านปลอดภัยและสุขภาพแข็งแรง เพราะเมื่อเดินทางมาถึงก็ยังไม่ได้เข้าบ้าน
ถามว่านักวิชาการมีการวิเคราะห์กันว่าการเดินทางกลับของนายทักษิณ ถือเป็นตัวประกันทางการเมือง และมีการเชื่อมโยงไปถึงการโหวตแคนดิเดตนายกฯ ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เข้าใจว่าคุณพ่อถูกแยกออกจากการเมืองได้ยาก แต่การกลับมาของคุณพ่อถือเป็นการกลับมาของประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ที่มีสิทธิกลับมาในประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ผ่านมา 17 ปีแล้วทุกครั้งที่คุยโทรศัพท์กัน ท่านก็จะพูดเสมอว่าหลาน 7 คนแล้วอยากกลับมาเลี้ยง นี่เป็นข้อแรกเสมอที่คุณพ่อพูดถึงการจะกลับมา ดังนั้นตนเข้าใจในบทบาทของคุณพ่อ ซึ่งคุณพ่อก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องการเมืองหรือเรื่องเป็นตัวประกัน ท่านคิดว่ากลับมาแล้วปลอดภัย รอวันที่จะได้กลับมาอยู่กับลูกหลาน
“ถูกใครหลอก จริงๆ แล้วคุณพ่อออกไป 17 ปีแล้ว ก็จะมีหลายข้อมูลที่ได้รับ ทั้งข้อมูลที่ผิดและข้อมูลที่ถูก ถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว 17 ปีผ่านอะไรมากันเยอะมาก ดังนั้นการตัดสินใจครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจของท่านเองไม่ได้มีใครหลอก หรือท่านก็ไม่ได้หลอกใคร ซึ่งการเดินทางกลับมาครั้งนี้เป็นการตกลงกันภายในครอบครัว ท่านถึงตัดสินใจกลับมา”น.ส.แพทองธาร ถามกลับทันทีหลังสื่อถามว่ามีการพูดไปถึงว่าการกลับมาของนายทักษิณครั้งนี้จะถูกหลอกหรือเป็นเหยื่อทางการเมือง
เมื่อถามว่ามีการประเมินว่าหากการโหวตนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพท.ไม่ผ่าน อาจจะต้องมีการเสนอชื่อน.ส.แพทองธาร แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพท. ซึ่งก็อาจจะกลายเป็นตัวประกันทางการเมือง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อยากให้มองการเมืองสร้างสรรค์ขึ้น การที่คุณพ่อกลับมาเป็นเรื่องของคุณพ่อกลับมา เพราะอยากกลับมาอยู่กับครอบครัว นี่คือเรื่องที่ชัดเจนมากๆ ส่วนเรื่องของการเมืองขอให้เป็นเรื่องการเมืองของพรรคพท. การกลับมาของคุณพ่อไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองหรือพรรคพท.และคดีของคุณพ่อต่างๆก็ไม่ได้เกี่ยวกับการโหวตนายกฯ ดังนั้นอยากให้แยก 2 เรื่องนี้ออกจากกันอย่างชัดเจน
ย้ำว่านายทักษิณเดินทางกลับในวันที่ 22 ส.ค.นี้ซึ่งตรงกับวันโหวตนายกฯไม่สามารถปฏิเสธความเชื่อมโยงนี้ได้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ใช่ความเชื่อมโยงทางการเมืองใดๆเลย เพราะวันที่ 22 ส.ค.นี้ คุณพ่อประกาศตกลงที่จะกลับมาก่อนที่จะมีการประกาศโหวตนายกฯ และส่วนตัวนับวันแล้วยังคิดว่าจะโหวตนายกฯวันที่ 18 ส.ค.นี้ด้วยซ้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้คุณพ่อบอกจะกลับมาวันที่ 31 ก.ค.ซึ่งตรงกับวันหยุด คุณพ่อก็เลยเปลี่ยน ซึ่งตนเองก็ได้ช่วยดูปฏิทินวันไหนฤกษ์ดี ก็คือวันที่ 10 ส.ค.ที่ประกาศไป แต่คุณพ่อต้องไปตรวจสุขภาพ แต่ละส่วนในร่างกาย ในแต่ละสถานที่กัน ฉะนั้นจึงทำให้เลยวันที่ 10 ส.ค.ไป จึงหาวันฤกษ์ดีวันใหม่ ซึ่งตรงกับวันที่ 22 ส.ค.นี้ ทั้งนี้ ทางครอบครัวรู้กันก่อนที่จะมีวันประกาศวันโหวตนายกฯ
เมื่อถามว่าการตรวจสุขภาพของคุณพ่อถือว่าตอนนี้โอเคแล้วหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คุณพ่อตรวจสุขภาพทุกปี บางครั้งก็มีปัญหาบ้าง ก็ต้องมีการฟอลโลว์อัพกัน ตอนนี้คุณพ่ออายุ 74 ปีแล้ว และความจริงท่านก็เป็นคนแข็งแรง อยู่ต่างประเทศท่านก็มีผ่าตัดเล็กน้อยบ้าง แต่พอตอนนี้อายุเข้า 74 ปีต้องตรวจสุขภาพปีละ 2 ครั้ง
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าต้องมีการดูฤกษ์ยามในการเดินทางกลับ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ก็ต้องดูนิดนึง ดูไว้ก็เป็นเรื่องที่ดี วันฤกษ์ดี ทุกคนก็อยากให้ทุกวันเป็นวันที่ดี
เมื่อถามอีกว่ามีโอกาสจะเลื่อนเดินทางกลับอีกหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่มี ย้ำว่าวันที่ 22 ส.ค.นี้แน่นอน เมื่อถามถึงดีลกับฝ่ายผู้มีอำนาจจบแล้วใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “ดีลอะไร ดีลฝ่ายไหน ยืนยันว่าไม่ได้ดีลกับใครเลย” เมื่อถามถึงขั้นตอนการเดินทางกลับที่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คุณพ่อจะเดินทางกลับมาที่สนามบินดอนเมืองในเวลา 09.00 น.โดยเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งครอบครัวมารอรับ จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลังจากนั้นจะต้องมาดูต่อว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ทั้งนี้ จะไม่มีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณ ซึ่งครอบครัวได้มีการดำเนินการอะไรไว้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องถามคุณพ่อก่อนว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรบ้าง แน่นอนว่าครอบครัวต้องเคารพการตัดสินใจของคุณพ่อว่าจะให้ทำอย่างไร เดี๋ยวก็คงจะได้ทราบกัน
“ในเรื่องของคดีขอไม่ไปแตะ เพราะกลัวจะพูดข้อมูลไม่ตรงหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้องออกไป ซึ่งส่วนตัวยอมรับการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมคิดว่ามันคือการตัดสินใจของคุณพ่อ ถ้าคุณพ่อยอมรับได้ครอบครัวซัพพอร์ตเต็มที่แน่นอน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โธ่!บุคคลสาธารณะ 'ชูศักดิ์-เพื่อไทย' จ่อฟ้อง 'ธีรยุทธ'
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เตรียมฟ้องกลับนายธีรยุทธ
นายกฯ ปลุกทุกภาคส่วน ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีทุกรูปแบบ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านวีดิทัศน์ว่า เนื่องในเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ประจำปี 2567
'ภูมิธรรม' สดุดี 'ทักษิณ' ครองใจคนอุดรฯ พา พท. ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.
'ภูมิธรรม' ฟุ้งอุดรธานีหัวใจคนเพื่อไทยโดยแท้ ชนะเป็นเรื่องธรรมดา ยํ้า ปชช. ยังรัก 'ทักษิณ' ชอบผลงานที่ทำมา อุบ 'อิ๊งค์' ลงพื้นที่ขอบคุณ
ความจริง 'ชั้น 14' ชี้ชะตา 'รัฐบาลอิ๊งค์'
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อายุรัฐบาลขึ้นกับความจริงบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.)
'ทักษิณ-พท.' อย่าเพิ่งตีปีก! ชั้น 14 ป.ป.ช. ใกล้งวด คดีครอบงำยิ่งชัด รอ กกต. เคาะ
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หน้าแตกกันไปตามๆ กัน เมื่อได้ทราบผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าไม่รับวินิจฉัยคำร้อง
ประกาศผลนับคะแนนเลือกตั้ง 'นายก อบจ.อุดรธานี' อย่างไม่เป็นทางการ
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รายงานผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี