SX TALK Series ปลุกพลังจัดการน้ำทุกมิติสู่ความยั่งยืน

เริ่มเดือนสิงหาคมกับกิจกรรม  SX TALK Series ครั้งที่ 5 เปิดพื้นที่ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับ “น้ำ” ภายใต้หัวข้อสำคั­ “Water of Life น้ำแห่งชีวิต” เพื่อสร้างความตระหนักการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนผ่านการแบ่งปันประสบการณ์ตรงของ 3 วิทยากรที่ทำงานเชื่อมโยงกับน้ำในแง่มุมต่างๆ ทั้งนวัตกรรมของน้ำที่ช่วยกอบกู้โลก  การฟื้นฟูแหล่งน้ำให้กลับมามีชีวิต และการจัดการต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ลดความเสี่ยงน้ำท่วมน้ำแล้ง

แต่ละเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาใน SX TALK Series ครั้งที่ 5  ล้วนเป็นเรื่องเล่าที่ทรงพลังและสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ภายในงานยังมีบูธ “โชว์ของ” นำเสนอนวัตกรรมของน้ำแห่งชีวิตอย่างน่าสนใจ สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทุกเพศทุกวัย โดยมีนิสิต นักศึกษารุ่นใหม่ และประขาชนที่สนใจการสร้างสรรค์เพื่อโลกที่ยั่งยืนเข้าร่วมกิจกรรมแน่นขนัดที่ C asean SAMYAN CO-OP ชั้น 2 สามย่านมิตรทาวน์ เมื่อวันก่อน

บ๊อบบี้ - ภาคภูมิ มะหะสิทธิ์ ซีอีโอ Ecolotech น้ำดื่มจากโมเลกุลอากาศ ซึ่งเป็นธุรกิจที่แก้ปั­หาสังคมและสิ่งแวดล้อม และสร้างผลกำไร เล่าแรงบันดาลใจว่า น้ำคือชีวิต ทุกคนในสังคมต้องให้ความสำคั­ จากความสงสัยทำไมสังคมต้องบริโภคน้ำจากขวด ซึ่งไทยต้องผลิตขวดปีละ 5 หมื่นล้านขวด แต่ไม่สามารถเก็บขวดที่ใช้แล้วเข้าสู่ระบบการจัดการขยะได้ นำมาสู่การคิดค้น Ecolotech เป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนอากาศที่อยู่รอบตัวเราให้เป็นน้ำดื่มสะอาด เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง

ให้กับสังคม เทคโนโลยีที่เปลี่ยนได้จะมีอิมแพคกับคนจำนวนมาก ได้ผลเป็นรูปธรรมมากกว่าการรณรงค์สื่อสาร เราพัฒนาระบบน้ำดื่มที่ทุกคน ทุกบ้าน เข้าถึงได้ดีกว่าน้ำบรรจุขวด พัฒนาเครื่องมาหลายรุ่น จากรุ่นแรกที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามากในการเปลี่ยนอากาศเป็นน้ำสะอาด ปัจจุบันพัฒนาสู่ระยะที่ 3 ใช้ไฟฟ้าลดลงร้อยละ 50 ซึ่งจะศึกษาวิจัยให้ใช้ไฟฟ้าเพียงร้อยละ 10 รวมถึงผู้มีรายได้น้อยก็สามารถเข้าถึงได้

“อนาคตน้ำดื่มจะขาดแคลนจากการเผชิ­ปั­หาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือภาวะโลกร้อน  เพราะน้ำเราควบคุมน้ำผิวดินและน้ำใต้ดินไม่ได้ ขณะที่ปริมาณขยะขวดพลาสติกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากพฤติกรรมผู้บริโภคนวัตกรรมน้ำเปลี่ยนอากาศให้เป็นน้ำดื่มโดยไม่ใช่น้ำประปาจึงเป็นเทคโนโลยีที่แก้โลกร้อนอย่างยั่งยืน อยากฝากสตาร์ทอัพไทยตระหนักถึงการทำธุรกิจที่ร่วมแก้ปั­หาสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่มุ่งหาเงินกำไรเพียงอย่างเดียว รวมถึงต้องกระตุ้นให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่มีความคิดสร้างสรรค์นำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ดีต่อโลกใบนี้ ไม่เฉพาะแก้ปั­หาในประเทศไทย เชิ­ชวนให้คนรุ่นใหม่กลับมาดูแลโลกยิ่งรวมพลังมากเท่าไหร่ จะเกิดผลสำเร็จ” ซีอีโอ Ecolotech กล่าว

ด้าน เจมส์ สกอทท์ ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิเทอร์ราไซเคิลไทย (TerraCycle Thai Foundation) ฮีโร่ฟื้นฟูคลองในกรุงเทพฯ กล่าวว่า ไทยมีปริมาณขยะมาก ร้อยละ 40 ของขยะในไทยลงแหล่งน้ำ โดยเฉพาะขยะในลำคลอง เมื่อไม่ได้รับการจัดการจะไหลลงสู่ทะเล แก้ปั­หาขยะต้องทำแต่ต้นทาง ทางมูลนิธิฯ ทำงานในแม่น้ำลำคลอง เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน สร้างจิตสำนึกให้ทุกคนไม่ทิ้งขยะลงคลอง ส่งเสริมการคัดแยกขยะ มีการติดตั้งเครื่องดักขยะไม่ให้ไหลลงทะเลที่คลองลาดพร้าว จ้างชาวบ้านในพื้นที่เป็นทีมงานทั้งเก็บขยะและจัดการขยะ มีการบริหารจัดการเก็บขยะไปแล้วกว่า 8.4 แสนกิโลกรัม ขยะหลายประเภท มีตั้งแต่หมวกกันน็อค หน้ากากอนามัย โทรทัศน์ เฟอร์นิเจอร์ คีย์บอร์ด เมื่อได้ขยะนำมาคัดแยกทั้งรีไซเคิลได้และรีไซเคิลไม่ได้ ถ้ารีไซเคิลไม่ได้ หรือขยะที่ปนเปื้อนจะส่งไปโรงกำจัดขยะผลิตไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนขยะเป็นพลังงานไฟฟ้า ไม่ใช่วิธีการฝังกลบ ที่ก่อมลพิษ

นอกจากคลีนคลองลาดพร้าวแล้ว เร็วๆ นี้ มูลนิธิฯ เตรียมอนุรักษ์และฟื้นฟูคลองดาวคะนอง ด้วยนวัตกรรมเครื่องดักขยะรูปแบบใหม่ เป็นเรือดักขยะที่พัฒนาระบบกลไกดึงขยะจากน้ำทดแทนแรงงานคน รวมถึงจะขยายจุดติดตั้งถังขยะข้างคลอง เจมส์ กล่าวด้วยว่า ในต่างประเทศคูคลองที่สวยงามเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและพื้นที่ท่องเที่ยว หากไทยสามารถจัดการขยะในลำคลอง ลดการสร้างขยะ สร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนสองฝั่งคลอง จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนริมคลองและ

คนกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้น ฝากทุกคนการทิ้งขยะลงแหล่งน้ำ สร้างผลกระทบสิ่งแวดล้อม หากขยะไหลลงทะเล สัตว์น้ำกินเข้าไป เรานำมาบริโภคเป็นอาหาร จะส่งผลกระต่อสุขภาพ น้ำคือชีวิต คลองสะอาดจะสร้างสิ่งแวดล้อมให้ทุกชีวิตอยู่อย่างยั่งยืน

เรื่องราวการบริหารจัดการน้ำด้วยเทคโนโลยีภาพถ่ายทางดาวเทียมในการศึกษาภูมิประเทศประเมินความยั่งยืนในการใช้น้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดโดยไทยเบฟ เป็นอีกตัวอย่างควรขยายผล วิภาดา สอนพูด เจ้าหน้าที่ชำนา­การความยั่งยืน-สุรา บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า โลกนี้มีน้ำเป็นองค์ประกอบ 3 ใน 4 ส่วน  เป็นน้ำเค็ม 97% น้ำจืด 3% น้ำที่มากินและใช้ได้มีไม่ถึง 1% ของโลกใบนี้ การขยายตัวของประชากร การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ภาวะโลกร้อนที่จะกลายเป็นโลกเดือด ส่งผลให้น้ำระเหยมากขึ้น ฝนตกผิดที่รุนแรงกว่าเดิม จะเผชิ­แล้งหนักขึ้น น้ำทะเลสูงขึ้นจากน้ำแข็งละลาย เกิดปั­หาน้ำกร่อย ทั้งเกษตรกร คนเมือง เครียด น้ำเองก็มีความเครียดในพื้นที่ขาดแคลนและคุณภาพน้ำเสื่อมโทรม

วิภาดา กล่าวต่อว่า ไทบเบฟ ผู้ผลิตเครื่องดื่มและอาหาร ใช้น้ำเป็นทรัพยากรหลัก มีการจัดการน้ำตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยเฉพาะกลางน้ำ มีระบบจัดการน้ำในโรงงาน ลดการสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ปรับปรุงคุณภาพน้ำ รวมถึงการนำเทคโนโลยีภาพถ่ายทางดาวเทียมมาใช้ มีโครงการประเมินความยั่งยืนของน้ำผิวดินและน้ำใต้ดิน ดาวเทียมแสดงผลการใช้น้ำในพื้นที่ ตลอดจนการพิจารณาขอบเขตของลุ่มน้ำขนาดเล็ก

“ไทยเบฟมี 35 โรงงานทั่วประเทศ ให้ความสำคั­กับการบริหารจัดการน้ำ และการประเมินผลกระทบที่มีต่อชุมชน พบ 19 พื้นที่ มีความเครียดของน้ำสูง หรือพื้นที่ที่มีปริมาณของการใช้น้ำต่อหัวประชากรสูง

เราทำงานร่วมกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(องค์การมหาชน) สสน.ประเมินความเสี่ยงน้ำท่วม น้ำแล้ง  ชุมชนรอบโรงงาน มีพื้นที่นำร่องที่ ต.แม่ลาด อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร นำมาสู่แบบจำลองการเกิดน้ำท่วม 10 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี นำมาสู่การจัดทำแผนร่วมกับชุมชนเพื่อป้องกันความเสี่ยงอุทกภัย นอกจากนี้ มีแบบจำลองการเกิดภัยแล้ง พบโอกาสเกิดภัยแล้งแค่ 3% ไทยเบฟจะร่วมกับภาคีดูแลคุ้มครองแหล่งน้ำ ช่วยชุมชนให้เข้าถึงแหล่งน้ำสะอาด น้ำมีค่า ต้องส่งเสริมการใช้น้ำอย่างยั่งยืน” วิภาดา กล่าวถึงการขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตควบคู่บริหารจัดการทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ

สำหรับกิจกรรม SX TALK Series ครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะเป็นหนึ่งในกิจกรรมนำร่องงาน Sustainability Expo 2023 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 กันยายน -8 ตุลาคม 2566 ซึ่งจะเป็นงานมหกรรมที่นำเสนอความยั่งยืนที่ให­่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นงานให­่ที่คนไทยและต่างชาติตั้งตาคอยติดตามข่าวสารงาน sx ได้ที่ www.sustainabilityexpo.com