'พิธา' ย้อนถาม กกต. ปมหุ้นไอทีวี สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ตนเอง มีความเป็นธรรมหรือไม่

15 ส.ค. 2566 - นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว 'Pita Limjaroenrat - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' ระบุว่า เมื่อวานนี้มีข่าวออกมาว่าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ของ กกต. มีมติว่าจะให้ยกคำร้องผมในคดีอาญามาตรา 151 เรื่องการรู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังลงสมัคร จากการถือหุ้นไอทีวี โดยคณะกรรมการสืบสวนมีเหตุผลสำคัญว่า บริษัทไอทีวีไม่มีการดำเนินกิจการอยู่และไม่มีรายได้จากการเป็นสื่อ จึงไม่ถือว่าผมมีความผิด
ผมยืนยันอีกครั้งว่า คดีหุ้นไอทีวีของผม เป็นที่น่าสงสัยว่าเป็นการจงใจกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ เพราะผมถือหุ้นนี้มาตลอดเวลาที่ทำงานการเมือง เป็น ส.ส. มา 4 ปี แต่เพิ่งจะเกิดการร้องเรียนกันขึ้นในเวลาที่ผมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และมีการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้าการเสนอชื่อผมต่อสภาไม่กี่วัน รวมถึงมีหลักฐานความผิดปกติมากมายที่บ่งชี้ว่ามีความพยายมปลุกปั้นให้บริษัทไอทีวีซึ่งเลิกกิจการสื่อไปนานกว่า 10 ปี กลับมาเป็น “หุ้นสื่อ” ให้ได้
มาวันนี้ ที่มีการเปิดเผยมติของคณะกรรมการไต่สวนออกสู่สาธารณะแล้วว่าผมไม่ผิด ทำให้มีประเด็นคำถามที่ผมขอถามไปยัง กกต. ดังนี้

1.คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนดังกล่าว ซึ่งทำคดีมาตรา 151 (คดีอาญา) มีมติก่อนที่ กกต. จะพิจารณาส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ถึงแม้ว่า กกต จะอ้างว่า การพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน เป็นคนละกระบวนการกับการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่คณะกรรมการสืบสวนฯ ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่รวบรวมพยานหลักฐานและเรียกพยานบุคคลมาสอบข้อเท็จจริง ได้เห็นข้อเท็จจริงว่า ไอทีวีมิได้ประกอบกิจการสื่อและมิได้มีรายได้จากกิจการสื่อมวลชนในขณะที่ผมสมัครรับเลือกตั้งแต่อย่างใด แต่กกต. กลับยังยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยละเลยข้อเท็จจริงบางประการที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้หยิบยกมาพิจารณา และละเลยแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่เคยวางหลักเรื่องการมีรายได้และที่มาของรายได้เป็นเกณฑ์ว่าบริษัทใดเป็นสื่อหรือไม่

2.การที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนมีมติว่า หุ้นไอทีวีไม่ใช่หุ้นสื่อ นอกจากจะสอดคล้องกับแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ก็สอดรับกับความเห็นของประชาชนทั่วไปอีกด้วย ดังนั้น การสั่งให้ผมหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทั้งๆ ที่ไอทีวี และอินทัช ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ล้วนแต่มีเอกสารงบการเงินยืนยันว่า ไอทีวีหยุดประกอบกิจการ และไม่มีรายได้จากการประกอบกิจการสื่อ ประกอบกับคดีหุ้นสื่อ (นอกจากคดีคุณธนาธร) ของ สส. ปี 2563 ประมาณ 60 คน ศาลก็ไม่ได้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด แต่ในคดีผม กลับสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ผมจึงขอให้สังคมพิจารณาว่าการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ผม มีความเป็นธรรมหรือไม่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รองหัวหน้าอนาคตไกล เผย กกต. เรียกปฐมนิเทศ ลั่นจุดสตาร์ทสู่การเติบโตของพรรค

ชัชชัย-รองหัวหน้าพรรคอนาคตไกล เผยการปฐมนิเทศโดย กกต. ในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของพรรค ในการขยายฐานสมาชิกและการตั้งสาขาพรรค ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้พรรค คาดตั้งสาขา

'พรรคพร้อม' เคาะ 'ว่าที่พันตรีกวี ไกรทอง' สู้ศึกเลือกตั้งซ่อมสส. เขต 8 เมืองคอน

กก.บห.พรรคพร้อม เคาะ “ว่าที่พันตรีกวี ไกรทอง" ลงสู้ศึกเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 จังหวัดนครศรีธรรมราช "แม่เลี้ยงส้ม-หัวหน้าพรรค" ขอโอกาศชาวเมืองคอน เลือกลูกหลานเข้าสภาฯรับใช้พี่น้อง

กกต. เคาะเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ 27 เม.ย.

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าว ระบุว่า ด้วยพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครศรีธรรมราชเขตเลือกตั้งที่ 8 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. 2568 กกต.ได้มีประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง

รับเลือกตั้งท้องถิ่นสมุทรสาครคึกคัก ‘ส้มแท้-ส้มปลอม’ โผล่ ‘สส.ปชน.’ ยันพรรคไม่ได้ส่งใคร

วันแรกคึกคัก นายกเก่าคนดังลงกันครบ !!กระแสส้มแท้ส้มปลอมลือหึ่ง กกต.พบผู้สมัครขาดคุณสมบัติ เตือนเชคคุณสมบัติก่อนสมัครโทษหนัก

กกต. สรุปเลือกตั้งซ่อม สส.บึงกาฬ เขต 2 'อรอุมา' ชนะโหวตโน

กกต. แจ้งผลคะแนนเลือกตั้ง สส.บึงกาฬ เขต 2 'อรอุมา บุญศรี' ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ได้คะแนนสูงสุดและมากกว่าโหวตโน เตรียมพิจารณาประกาศรับรองภายใน 60 วัน