22 ก.ค.2566 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "ใกล้แล้ว?" โดยระบุว่า การโหวตนายกฯ มาถึงทางตันและใกล้จะเกิดเรื่องแล้ว เหลือเพียงพรรคเพื่อไทยผิดสัญญากับประชาชน กล้าทิ้งพรรคก้าวไกล เพื่อย้ายขั้วตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้ประชาชนเดือดดาล ลงสู่ถนนแสดงพลังต่อต้านรัฐบาลตระบัดสัตย์
นายจตุพร เห็นว่า พรรคก้าวไกลแถลงส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น ดูเหมือนส่งเผือกร้อนไปใส่มือมากกว่า เพราะช่วงหาเสียงนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ประกาศว่า มีลุงไม่มีผม ซึ่งหมายถึงไม่จับมือร่วมรัฐบาลกับ พปชร.และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ส่วน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกเช่นกันว่า ถ้าจับมือกับ พปชร.จะลาออกจากหัวหน้าพรรค
ขณะที่พรรคฝ่ายข้างน้อย 188 เสียง ทั้ง ภูมิใจไทย พปชร. ชาติไทยพัฒนา และ รทสช. พร้อมกับ สว.จำนวนหนึ่ง พากันประกาศเป็นเสียงเดียวกันว่า มีก้าวไกลไม่มีเรา คือ ไม่จับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลนั่นเอง
ส่วน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กลับเรียกร้องว่า เมื่อเรือใกล้ล่มกลางทะเล คนหนุ่มสาวต้องเสียสละให้คนแก่ได้ไปก่อน อย่างไรก็ตาม การเสียสละคือการรักษาประชาธิปไตย อีกอย่างคนหนุ่มสาวอาจหมายถึงพรรคก้าวไกลต้องเสียสละให้ตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้น จึงสะท้อนว่า บัดนี้การโหวตนายกฯ และการตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคมาถึงทางตันแล้ว แต่ไม่ยอมรับความจริงกัน ยังกระเสือกกระสนจะเป็นนายกฯ ให้ได้
“เพื่อไทยจะไปเจรจากับพรรคการเมืองไหนได้ เมื่อเขาประกาศชัดเจนมีก้าวไกลไม่มีเรา เขาปิดประตูหมดแล้ว ส่วน สว.เขารักคุณมากเลยเหรอ แค่เขากำจัดก้าวไกลก่อน แล้วจากนั้นจะมาทำลายคุณทีหลัง คุณก็เหมือนกันที่เขาต้องกำจัดเช่นกัน ยังไม่รู้เรื่องอีกหรือ คุณยังไม่เข้าใจหรือ?"
นายจตุพร กล่าวว่า พรรคก้าวไกล ไม่เกี่ยวกับเกมที่ออกแบบมากำจัดเพื่อไทยเลย เพียงแต่หาเสียงแล้วประกาศคำมั่นเป็นจุดยืนจะไม่จับมือร่วมงานการเมืองกับพรรคไหน จนเปล่งเป็นคำพูด “มีลุงไม่มีเรา” ซึ่งไม่แตกต่างจากเพื่อไทย ประกาศสัญญาประชาชนไว้ ขณะที่พรรคอีกฝ่ายก็ประกาศมีก็จับมือกันแน่นประกาศ “มีก้าวไกลไม่มีเรา” เมื่อเป็นเช่นนี้เพื่อไทย จะไปเจรจาพรรคใดมาร่วมรัฐบาลทำไม เพราะคำตอบรู้ชัดเจนอยู่แล้วว่า ไม่มีพรรคใดมาแน่ ยกเว้นเพื่อไทยต้องแถลงไม่เอาก้าวไกลเท่านั้น
อีกทั้งเห็นว่า หากเพื่อไทยข้ามขั้วไปจับมือกับลุงตั้งรัฐบาลแล้ว ในความรู้สึกประชาชนจะพังพาบทันที อีกอย่างหากวันที่ 27 ก.ค.นี้ เพื่อไทยยังไม่พร้อมเสนอใครเป็นนายกฯ แล้วจะไปเร่งรีบให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตทำไมกัน เพราะไม่มีใครบังคับได้ ดังนั้นเพื่อไทยไม่น่าเสนอและควรเลื่อนการโหวตออกไปก่อน
“ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ต้องเสนอ มันจะสง่างามมาก ไม่ใช่ไม่พร้อมก็เสนอนายเศรษฐา แล้วได้เสียงเท่านายพิธา (ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล) จะดูยิ่งใหญ่หรือ? ดังนั้น การตั้งรัฐบาลสำเร็จมีอย่างเดียวคือเพิ่อไทยจะปัดทิ้งก้าวไกล แล้วย้ายข้ามขั้ว แต่ยังมั่นใจ สว.จะโหวตให้หรือไม่ ระวังการโลภมากมักลาภหาย"
นายจตุพร กังขาว่า เมื่อเพื่อไทย ต้องการเสียงจาก สว.และพรรคฝ่ายข้างน้อย แต่ต้องสลัดเพื่อนก้าวไกลออกไป ด้วยความอยากเป็นนายกฯ ได้ตั้งรัฐบาล แล้วอย่างนี้จะมีเสียงมาโหวตให้พรรคที่ทิ้งเพื่อนหรือ? อีกทั้งยังผิดสัญญาไว้กับประชาชนว่า มีลุงไม่มีผม หรือจับมือ พปชร.จะลาออกจากหัวหน้าพรรค สิ่งเหล่านี้พรรคใดจะไว้วางใจเพื่อไทยได้ แล้วประเทศจะฝากความหวังอะไรได้
"เมื่อข้ามขั้วแล้ว ประชาชนจะเต็มถนน ยิ่งไม่มีเกียรติยศแล้วพังกันใหญ่เลย สว.จะออกเสียงให้หรือ ส่วนใหญ่การแต่งตั้ง สว.มักเลือกคนมีคุณสมบัติแตกต่างจากเพื่อไทยและตั้งมากำจัดเพื่อไทยโดยเฉพาะ เพียงแต่ทำลายก้าวไกลก่อน เพราะได้รับเสียงมาอันดับหนึ่งเท่านั้นเอง”
นอกจากนี้ นายจตุพร เป็นห่วงว่า เมื่อเพื่อไทยข้ามขั้ว ประชาชนจะออกมาเต็มถนน ถ้าประกาศแก้ไข ม.112 ยิ่งกระตุ้นให้อีกฝ่ายออกมาเผชิญหน้า จึงหวั่นสถานการณ์จะรุนแรงเหมือนเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งจะให้ประเทศมาเสี่ยงแบบนี้ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าถึงทางตันไปต่อไม่ได้ ต้องหาทางคุยกันเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน
รวมทั้ง เสนอว่า ประชาชนต้องมีจิตใจเข้มข้น ยึดมั่นมาตรฐานตรวจสอบ หากสิ่งใดผิดต้องไม่อยู่นิ่งเฉย ควรตรวจสอบแคนดิเดตนายกฯ ใหม่ที่ชื่อเศรษฐา ด้วย ถ้าไร้มลทินข้อกล่าวหา ก็จะสง่างามยิ่งขึ้น
"คนที่จะมาเป็นผู้นำประเทศอย่างน้อยที่สุดต้องสบตากับคนได้ทุกคน ไม่ใช่หลบตาเพราะเบี้ยวเพื่อนจนได้ตำแหน่งนายกฯ มันไม่สง่างาม ไปที่ไหนก็ถูกสาปแช่ง แล้วจะอยู่ได้สักกี่วัน นอกจากนี้ยังจะมีเรื่องอื่นตามมาให้ตรวจสอบอีก”
ส่วนการประกาศความมั่นใจของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะหาเสียงสนับสนุนได้ครบจำนวน 375 เสียงนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ดูแล้วไม่น่าเป็นไปได้เลย ถ้ายืนหลักตามที่เคยประกาศสัญญากับประชาชนไว้ ไม่จับมือกับ พปชร. ก็คงยาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
3 นายกฯ 'อิ๊งค์-ทักษิณ-เศรษฐา' ร่วมเปิดงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย
พรรคเพื่อไทยจัดสัมนาภายใต้โครงการ เสริมศักยภาพ สส. และบุคลากรทางการเมือง มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯในฐานะหัวหน้าพรรค นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ รวมถึงแกนนำ
'ประเสริฐ' รับเพื่อไทยยังไม่มีผู้สมัครนายก อบจ.โคราช หลัง 'ยลดา' เมียกำนันป้อ ประกาศลงอิสระ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมาที่ลาออกไป
อดีตบิ๊กเพื่อไทย หวังจะไม่ใช่ขบวนรถไฟเที่ยวสุดท้าย!
นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่ิไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า “วันนี้ นายกฯ อดีตนายกฯ สส พรรคแกนนำรัฐบาล นั่งรถไฟ
เผยเบื้องหลัง 'คนดังต้านระบอบทักษิณ' รวมตัว ประเดิมงานแรกลุย ป.ป.ช.
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ โพสต์เฟซบุ๊กว่า เพื่อประเทศชาติและความยุติธรรม
'วรงค์' เซ็งเสียเวลา 1 ชั่วโมง อุตส่าห์ตั้งใจฟัง 'อิ๊งค์' แถลงผลงาน
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า#แถลงนโยบายไม่ใช่ผลงาน
'ทักษิณ' สื่อสารถึง 'สนธิ' : 'การทำอย่างเดิม ก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนเดิม'
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย