'ชัยธวัช' บอกชัดพรรคก้าวไกลไม่เชื่อมั่นว่าสิ่งใดจะสถิตย์อยู่เหมือนเดิมทุกประการ!

'ชัยธวัช' ข้องใจอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนจริงหรือไม่ รวบรวมเสียง 312 แต่ยังไม่ได้นายกฯ ชี้การแก้ไขมาตรา 112 เพราะไม่เชื่อมั่นว่าสิ่งใดๆ จะดำรงอยู่ได้เพราะสถิตย์อยู่เหมือนเดิมทุกประการแล้วจะมั่นคงสถาพร

13 ก.ค.2566 – ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล อภิปรายสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไทย ซึ่งถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ ว่าเมื่อสามารถรวบรวมเสียงข้างมากในสภาได้ 312 เสียง นายพิธาควรได้ขึ้นเป็นนายกฯตามครรลองปกติ เรื่องควรเรียบง่าย ตรงไปตรงมา แต่บรรยากาศที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง 2 เดือนที่ผ่านมา กลับทำให้เกิดคำถามว่าหากนายกฯ คนใหม่ไม่เป็นไปตามผลการเลือกตั้งแล้วจะมีการเลือกตั้งทำไม ตกลงอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยจริงๆ หรือไม่ หรือเป็นของใครกันแน่ และยังมีคำถามด้วยว่าประชาชนอยู่ตรงไหนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาและการลงมติของรัฐสภา จะเป็นโอกาสสำคัญของพวกเราในการแสวงหาคำตอบใหม่ให้แก่สังคมไทย มีข้อกล่าวหาจำนวนมาก ความกังวลใจเรื่องพรรคก้าวไกลจะพยายามเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ ระบอบการปกครอง พยายามทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เป็นสถาบันหลักของชาติ เจตนาที่แท้จริงในการเสนอแก้ไขปรับปรุงมาตรา 112 เป็นอย่างไร ประเด็นสำคัญที่อยากกล่าวในที่นี้ ข้อเสนอใดๆ ของพรรคก้าวไกลอยู่บนฐานความคิดที่ว่า สถาบันหลักของชาติหรือสถาบันการเมืองใด จะดำรงอยู่ได้ก็ด้วยความยินยอมพร้อมใจของประชาชน ไม่มีสถาบันใดที่ดำรงอยู่ได้เพราะการกด ปราบ บังคับ แล้วนี่คือสิ่งที่เราพยายามจะเตือน ขอให้ตั้งสติ มองการไกล เข้าใจสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันและเล็งเห็งให้ได้ว่าวิธีการใด กุศโลบายใดที่ดีที่สุดที่จะสามารถรักษาสิ่งที่พวกเรารัก หวงแหนให้ดำรงอยู่ให้ได้ ในสังคมที่มีพลวัตอยู่ตลอดเวลา เราไม่เชื่อมั่นว่าสิ่งใดๆ จะดำรงอยู่ได้เพราะสถิตย์อยู่เหมือนเดิมทุกประการ แล้วจะมั่นคงสถาพร

นายชัยธวัช กล่าวด้วยว่า หลายคนบอกว่าการเลือกนายพิธาเป็นนายกฯ จะเป็นการล้มล้างสถาบัน ไม่รักชาติ นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่พรรคพยายามจะบอกว่าไม่ควรเกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต้องอยู่เหนือการเมือง อยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง อยากจะเชิญชวนสมาชิกรัฐสภาลงมติให้นายพิธา เป็นนายกฯ คนใหม่ เหตุผลไม่ใช่เพราะทุกท่านรักนายพิธา แต่จะเป็นการลงมติคืนความปกติให้ระบบรัฐสภาของไทย แสดงความเคารพต่อประชาชน เป็นการลงมติเพื่อให้โอกาสครั้งใหม่แก่สังคมไทย เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นแสดงหาคำตอบแห่งยุคสมัยร่วมกันให้ได้ สุดท้าย ขออวยพรให้ประชาชนซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองสมาชิกรัฐสภาทุกท่าน ที่จะตัดสินใจอย่างกล้าหาญ มีมโนธรรมสำนึก และเจตจำนงที่ประชาชนได้แสดงออกไปแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

แจกเงินดิจิทัล1หมื่นบาท ปิดปาก 'ปุ๋ย คนละครึ่ง'?

รัฐบาลเพื่อไทยนำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ผนึกกำลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

นายกฯ สั่ง ปปง.เร่งยึดทรัพย์แก๊งค้ายา

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ สั่ง ปปง.มีอำนาจพิเศษสูงต้องทำงานแบบล้วงลูก เร่งยึดทรัพย์ตัดตอนขบวนการค้ายาฯ อย่ามัวแต่ช้า หวั่นโอนเงินหนี กำชับอย่าทำงานแบบไซโลให้เป็นข้อครหา

'เศรษฐา' ฟุ้งเตรียมถกมะกันตัดตอนยาเสพติด

นายกฯ มอบอุปกรณ์ป้องกันและตอบโต้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ย้ำให้ความสำคัญถือเป็นความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ กำชับดูแลการจ่ายรางวัลนำจับเหมาะสม ไม่ใช่รอนานจนเกษียณถึงได้ เตรียมคุย 'ทูตมะกัน' ตัดตอนยาบ้า