‘รองโฆษก อสส.’ เผยอัยการสูงสุดมีหนังสือตอบศาลรัฐธรรมนูญเเล้ว ปมรับคำร้องทนาย ‘พุทธะอิสระ’ ร้อง ‘พิธา’ เสนอเเก้ ม.112 ล้มล้างการปกครองหรือไม่
10 ก.ค. 2566 – นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้สอบถามอัยการสูงสุดว่ามีคำสั่งรับหรือไม่รับ ดำเนินการตามที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพุทธะอิสระ ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่าการกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกมาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการต่อเนื่องในการใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ ว่า
ได้ทราบจากนายประธาน จุฬาโรจน์มนตรี เลขานุการอัยการสูงสุด ว่า เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด ได้ลงนามในหนังสือตอบกลับไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ตามหนังสือสอบถามไปแล้ว ซึ่งกระบวนการต่อไปเป็นการส่งหนังสือเพื่อตอบให้ศาลรัฐธรรมนูญทราบตามระบบราชการ โดยทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้เเจ้งผลการดำเนินการพร้อมเอกสารประกอบเเนบท้าย ลงนามโดย น.ส.นารี อัยการสูงสุด ถึงศาลรัฐธรรมนูญไปเเล้ว ส่วนรายละเอียดหนังสือตอบกลับขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งทางอัยการก็จะดำเนินการตามที่กฎหมายบัญญัติต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการใช้สิทธิต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีการร้องขอให้เลิกการทำอันเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีประมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49ประกอบ พรป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561มาตรา 7(3) เกี่ยวกับหลักเกณฑ์เเละวิธีการ บัญญัติไว้ว่า
1.ผู้ใดทราบว่ามีการกระทำอันเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดังกล่าว มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวได้
2.หากอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอหรือไม่ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง ผู้ร้องจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ได้
ซึ่งจะเห็นได้ว่ากรณีดังกล่าวมีข่าวว่าทางผู้ร้องไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงเเล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามบทบัญญัติที่กฎหมายกำหนดไว้ เเต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีหนังสือสอบถามมาทางอัยการสูงสุดก็ส่งหนังสือตอบกลับไปตามขั้นตอนไม่กระทบขั้นตอนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ทักษิณ-พท.' อย่าเพิ่งตีปีก! ชั้น 14 ป.ป.ช. ใกล้งวด คดีครอบงำยิ่งชัด รอ กกต. เคาะ
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หน้าแตกกันไปตามๆ กัน เมื่อได้ทราบผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าไม่รับวินิจฉัยคำร้อง
'ชูศักดิ์' โล่ง ปลอดชนักล้มล้างการปกครอง
'ชูศักดิ์' มองเป็นสัญญาณดี ปม 'ศาล รธน.' ไม่รับคำร้อง 'พท.' ล้มล้างการปกครอง ชี้ รัฐบาลเดินหน้าทำงานได้แบบไม่กังวล
'ดร.ณัฏฐ์' ชี้กรณี 'ทักษิณ-พท.' รอดคดีล้มล้างฯ ไม่ตัดอำนาจ 'กกต.' ไต่สวนยุบพรรคได้
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยว่าการกระทำของนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยเป็นการ
'วิสุทธิ์' เผยฝ่ายกฎหมายเพื่อไทย ร่างคําฟ้องเช็กบิล 'ธีรยุทธ' แล้ว
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการฟ้องร้องผู้ยื่นคําร้องกล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยล้มล้างการปกครอง ว่า ตนได้คุยกับนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
'นิพิฏฐ์' ติดใจปมรพ.ชั้น 14 พร้อมให้กำลัง 'ธีรยุทธ'
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส. จังหวัดพัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กว่า เห่าหอนไปวันๆ
'จตุพร' ปลอบและปลุก อดทนเฝ้าคอยยังมีอีกหลายยก!
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ยอมรับว่า ประเมินสถานการณ์ศาล รธน.รับคำร้องคลาดเคลื่อน แม้ถูกเย้ยหยันหน้าแตก แต่ถัดจากนี้ไปขอให้ประชาชนอดทนเฝ้ารอสถานการณ์