30 มิ.ย. 2566 – นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่องประธานสภาผู้แทนราษฏรคนใหม่ ด่านที่ 1 ของการแก้ 112 แบบก้าวไกล โดยระบุว่า
ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าผู้ที่จะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 26 ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 นี้ สำคัญมาก สำคัญไม่แพ้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30
เนื่องจากจะมีความเกี่ยวข้องกับประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลโดยตรง
การแก้ไขในลักษณะที่เป็นการลดระดับการคุ้มครององค์พระมหากษัตริย์!
เพราะชัดเจนแล้วว่าร่างแก้ไขมาตรา 112 จะไม่ได้เสนอในนามคณะรัฐมนตรีของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลที่ลงนามใน MOU กันไปเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 แต่จะเสนอในนามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล
ตรงนี้แหละคือประเด็น !
การเสนอร่างกฎหมายในนามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่า 20 คนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 139 (2) จะไม่ได้รับการบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมในทันทีเหมือนการเสนอโดยคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 139 (1) แต่จะต้องผ่านการตรวจสอบและวินิจฉัยจากประธานสภาผู้แทนราษฎรให้บรรจุเข้าระเบียบวาระเสียก่อนจึงจะพิจารณาได้ โดยในการบริหารจัดการประธานสภาผู้แทนราษฎรอาจมอบหมายให้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่แทนได้
ถือเป็นด่านที่ 1 ในจำนวนทั้งหมด 9 ด่านก่อนร่างกฎหมายจะผ่านออกมามีผลใช้บังคับ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลเคยเสนอร่างฯ มาครั้งหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่แล้วตั้งแต่เมื่อต้นปี 2564
แต่แม้เสนอแล้ว ก็ไม่เคยได้รับการบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเลยจนครบวาระ แม้จะมีการทวงถามจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลหลายครั้ง
เพราะนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 1 ในขณะนั้น ชึ่งได้รับมอบหมายจากนายชวน หลีกภัยประธานสภาผู้แทนราษฏรในขณะนั้นให้รับผิดชอบงานด้านพิจารณาบรรจุเรื่องเข้าระเบียบวาระการประชุม วินิจฉัยว่าร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลน่าจะขัดรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 6
จึงไม่บรรจุเข้าระเบียบวาระ
ทั้งนี้ เป็นการวินิจฉัยโดยรับฟังความเห็นทางกฎหมายจากสำนักการประชุม สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เจ้าหน้าที่หน่วยงานฝ่ายประจำที่รับผิดชอบโดยตรง
สำนักการประชุมได้ให้ความเห็นทางกฎหมายพอสรุปได้ตามภาษาราชการในบันทึกถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฎรไว้ดังนี้
“ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เนื่องจากมีบทยกเว้นความผิดกับบทยกเว้นโทษ กรณีถ้าเป็นการติชม แสดงความเห็น หรือแสดงข้อความใดโดยสุจริต เพื่อรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อธำรงไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ ถ้าผู้ถูกกล่าวหาพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนั้นเป็นความจริง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ แต่ห้ามมิให้พิสูจน์ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นอยู่ส่วนพระองค์ และการพิสูจน์ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน…”
“บทบัญญัติยกเว้นความรับผิดกับการยกเว้นโทษดังกล่าวนี้ เห็นว่าน่าจะขัดกับมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ…”
ทั้งนี้ สำนักการประชุมได้อ้างอิงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2562 และ 28-29/2555 ประกอบความเห็นทางกฎหมายด้วย
ความเห็นทางกฎหมายของสำนักการประชุม สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเมื่อปี 2564 มีความสำคัญมากมาจนถึงวันนี้ เพราะเมื่อมีผู้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดขอให้ส่งความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยสั่งการให้พรรคก้าวไกลยกเลิกการเสนอแก้ไขมาตรา 112 เพราะมีลักษณะเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างระบอบการปกครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 อัยการสูงสุดได้ขอทราบความเป็นมาและข้อวินิจฉัยทางกฎหมายของประธานสภาผู้แทนราษฎร/รองประธานสภาผู้แทนราษฎรเมื่อปี 2564 – 2565 มายังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้วย และสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้จัดทำคำชี้แจงตอบกลับไป
คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับ โดยเฉพาะฉบับที่ 28-29/2555 ที่กล่าวถึงมาตรา112 โดยตรงก็มีความสำคัญมากเช่นกัน
เพราะกรณีตามมาตรา 49 นี้ในที่สุดมีความเป็นไปได้ที่จะถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยชี้ขาด
ตัดภาพกลับไปที่ปี 2564
นายสุขาติ ตันเจริญ ได้จัดให้มีการหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมากกว่า 1 ครั้ง หลังจากอภิปรายกันทุกแง่มุมในทางปฏิบัติแล้ว ได้ความเห็นตรงกัน
จึงวินิจฉัยไม่บรรจุเข้าระเบียบวาระ และส่งร่างกฎหมายคืนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลผู้เสนอให้นำกลับไปแก้ไขไม่ให้มีเนื้อหาที่น่าจะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 6
พรรคก้าวไกลได้ส่งความเห็นโต้แย้งกลับมาว่าร่างกฎหมายของพวกเขาหาได้ขัดรัฐธรรมนูญแต่ประการใดไม่
นายสุชาติ ตันเจริญ จึงได้พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ผลการพิจารณายังคงยืนยันข้อวินิจฉัยเดิม
คือไม่บรรจุเข้าระเบียบวาระ
นายชวน หลีกภัย เห็นด้วยกับข้อวินิจฉัยนั้น
พรรคก้าวไกลไม่ได้แก้ไขปรับปรุงหลักการและเนื้อหาใหม่และส่งกลับเข้ามายังสภาผู้แทนราษฎรแต่ประการใด
ยังคงนำมาหาเสียงหาคะแนนนิยมตามหลักการของร่างฯเดิมที่ถูกวินิจฉัยว่าน่าจะขัดรัฐธรรมนูญทุกประการ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลเคยมีการอภิปรายพาดพิงถึงเรื่องนี้ในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่แล้วหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566
วันนั้นมีการกล่าวหาประธานสภาผู้แทนราษฏรว่าไม่บรรจุวาระพิจารณาร่างกฎหมายแก้ไขมาตรา 112 เพราะกลัว
นายชวน หลีกภัย ชี้แจงจากบัลลังก์ประธานสภาผู้แทนราษฏรว่า…
“ผมเคยเรียนให้ทราบว่าเราไม่ได้ทำอะไรตามอำเภอใจ และไม่ได้กลัวเลยครับ แต่ยึดความถูกต้องเป็นสำคัญ โดยถือว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ ที่เตือนไว้ตลอดเวลาด้วยความหวังดี ไม่ได้ตัดสินใจด้วยความกลัว แต่ใช้เหตุผลเป็นหลัก ไม่ใช่เราพูดอะไรไม่ได้”
พรรคก้าวไกลหาเสียงว่าจะเสนอร่างพระราชบัญญัติ 45 ฉบับภายใน 100 วันแรก จึงต้องการตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน
ร่างฯแก้ไขมาตรา 112 เป็น 1 ใน 45 ฉบับ
ผมเชื่อในความเป็นมืออาชีพและความเป็นกลางทางการเมืองของเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทุกคนทุกสำนัก โดยเฉพาะสำนักการประชุม ถ้าร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรพรรคก้าวไกลจะเสนอเข้ามามีหลักการตามร่างฯเดิมที่เคยเสนอเมื่อปี 2564 ก็ไม่มีเหตุผลที่ความเห็นทางกฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่จะเสนอขึ้นไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรและหรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎรผู้ได้รับมอบหมายจะแตกต่างไปจากเดิม
แต่เมื่อความเห็นของเจ้าหน้าที่ส่งขึ้นไปแล้ว
ตรงนั้นแหละคือประเด็น
ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ และหรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใดคนหนึ่งที่อาจได้รับมอบหมาย จะวินิจฉัยอย่างไร และมีวิธีบริหารจัดการปัญหาอย่างไร เหมือนหรือต่างจากประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับมอบหมายของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่แล้ว
“ตัวตน” รวมทั้ง “พรรคต้นสังกัด” ของประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่จะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญยิ่งต่อคำตอบนี้
สำคัญอย่างไร คงไม่ตัองอภิปรายลงในรายละเอียดมากกว่านี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เพนกวิน' โผล่ได้ทุนเรียนต่อป.โท-เอก ที่ประเทศโลกเสรี ฉะ 112 กฎหมายล้าหลัง
นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน จำเลยคดีมาตรา 112 ที่หลบหนีคดีออกนอกประเทศ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า สวัสดีครับ เพื่อนพ้องและพี่น้องผู้รักประชาธิปไตยทุกคน
พรรคส้มไม่มีแผ่ว! ยันเดินหน้าแก้ 112 ส่อลดเพดาน คำนึง 2 ปัจจัยใหญ่
'เลขาฯ พรรคประชาชน' ยันไม่ล้มเลิกแก้ 112 แต่เริ่มลดเพดานลง ขอเดินตามคำตัดสินศาลรธน.-ความรู้สึกสังคม
'เลขาส้ม' มีแผนสำรอง โดน 112 เหี้ยนพรรค 'ไหมสอง-โรมสอง' เกิดแน่
เลขาธิการพรรคส้ม-ประชาชน ยอมรับเตรียมแผนสำรองไว้แล้ว หากอดีตส.ส.ก้าวไกลแก้ 112 ไม่รอดโดนเกือบหมดพรรค ระบุเห็นแถวสี่ รับไม้ต่อ “ไหมสอง-โรมสอง”เกิดแน่
สุมหัวโละทิ้ง 'จริยธรรม' ระวังจุดจบ ซ้ำรอย 'นิรโทษสุดซอย'
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ผิดซ้ำซาก
'วันนอร์' แบ่งงาน 2 รองประธานสภาฯ 'พิเชษฐ์-ภราดร'
'วันนอร์' แบ่งงานให้ 2 รองประธานสภาฯ แล้ว 'พิเชษฐ์' คุมกระทู้-ญัตติ -อาคารสถานที่ -สส.ลาประชุม ส่วน 'ภราดร' กลั่นกรองร่างกฎหมาย-งานพีอาร์-ทีวีรัฐสภา
'ปธ.วันนอร์' เร่งถกแก้ รธน. ก่อนกลาง ต.ค. สั่งงดประชุม 25 ก.ย.
'ประธานวันนอร์' แย้มอาจได้ประชุมร่วมรัฐสภา ถกแก้รัฐธรรมนูญได้เร็วขึ้น ก่อนกลางเดือน ต.ค. เผยงดประชุม 25 ก.ย. แล้ว