“โกศลวัฒน์”รองโฆษก อสส.เผย อัยการสูงสุดอยู่ระหว่างพิจารณาคำร้อง ทนายอดีตพุทธะอิสระร้องพิธา เสนอเเก้ ม.112 ส่งศาลวินิจฉัย ขัด รธน.หรือไม่ รอข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบ ชี้กฎหมายเขียนชัด15วันยังไม่มีคำสั่งดำเนินการหรือไม่ ยื่นตรงเองได้เลย
27 มิ.ย.2566 - นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้สอบถามอัยการสูงสุดว่ามีคำสั่ง รับหรือไม่รับดำเนินการตามที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพุทธะอิสระ ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่าการกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกมาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการต่อเนื่องในการใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ ว่า
นายธีรยุทธได้เดินทางมายื่นคำร้องดังกล่าวผ่านสำนักงานอัยการสูงสุดจริง ซึ่งทางอัยการสูงสุดก็ได้พิจารณาคำร้องเเละมีการตั้งคณะทำงานขึ้นพิจารณาประกอบด้วย รองอัยการสูงสุด นายอุทัย อาทิเวท ผู้ตรวจการอัยการ อธิบดีอัยการฝ่ายการสอบสวน และอัยการฝ่ายการสอบสวนเป็นเลขาคณะทำงาน ได้เชิญผู้ร้องมาให้ถ้อยคำประกอบคำร้องเพื่อความครบถ้วนสมบูรณ์ และประสานหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในเรื่องที่มีการร้องเรียน ไปยังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง มากกว่า 2 หน่วยงาน เพื่อขอเอกสารที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบตามคำร้อง เพื่อประกอบการพิจารณา แต่หน่วยงานที่ทางอัยการสูงสุดประสานไป ยังไม่ส่งเอกสารข้อมูลกลับมาประกอบการพิจารณา
อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีการร้องขอให้เลิกการทำอันเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีประมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ประกอบ พรป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561มาตรา 7(3) เกี่ยวกับหลักเกณฑ์เเละวิธีการ บัญญัติไว้ว่า
1.ผู้ใดทราบว่ามีการกระทำอันเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดังกล่าว มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวได้
2.หากอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอหรือไม่ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง ผู้ร้องจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ได้
ซึ่งจะเห็นได้ว่ากรณีดังกล่าวมีข่าวว่าทางผู้ร้องไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงเเล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามบทบัญญัติที่กฎหมายกำหนดไว้ ส่วนทางอัยการสูงสุดพอได้รับคำร้องมาก็ดำเนินการควบคู่ไปด้วยเพียงเเต่เราต้องรอข้อมูลประกอบคำร้องไม่ใช่รับคำร้องอะไรมาก็ส่งศาลรัฐธรรมนูญเลย อัยการเราต้องพิจารณา คำร้องและข้อเท็จจริงตรวจสอบเอกสารและเรื่องให้ถูกต้องเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ซึ่งกรณีเช่นนี้ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญก็มีหนังสือขอทราบข้อมูลมาเป็นปกติอยู่แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พิธา' ให้สัมภาษณ์งานแต่งข้ามขั้ว ครม.ครอบครัวสำคัญที่สุดในชีวิต
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางเข้าร่วมงานพิธีสมรสระหว่างนายธนาธร โล่ห์สุนทร สส.ลำปางพรรคเพื่อไทย และนางสาวรภัสสรณ์ นิยะโมสถ สส.ลำปาง พรรคประชาชน
ชื่นมื่น! 'ทักษิณ-พิธา' ร่วมงานแต่ง สส.ลำปาง เพื่อไทย-ประชาชน
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เดินทางมาร่วมพิธีฉลองมงคลสมรสระหว่างนายธนาธร โล่ห์สุนทร
แกะรอย 'เพนกวิน' โผล่เรียนที่สหรัฐ ใครอยู่เบื้องหลังเส้นทางหลบหนีคดี 112
เพจเฟซบุ๊ก ปราชญ์ สามสี เปิดข้อมูลการเคลื่อนไหวของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ซึ่งหลบหนีคดี 112 ไปต่างประเทศ โดยระบุว่า เอ๊ะ จิ๊กซอ ต่อลงพอดีเลยแหะ?!?
'หัวหน้าเท้ง' มั่นใจสู้คดี 44 สส. ยื่นแก้ ม.112 แต่หากถูกตัดสิทธิยังมีดาวเด่นอีกหลายคน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีจริยธรรมของ 44 สส. อดีตพรรคก้าวไกล ว่า ทีมกฎหมายได้เตรียมการไว้อย่างดี และตนยังอยากให้ทุกคนกลับมาย้อนคิดอีกครั้ง อยากให้ทุกคนย้อนกลับมาคิดอีกครั้งว่าที่มาที่ไปของปัญหานี้เกิดจาก ก
'จอน อึ้งภากรณ์' ผู้ก่อตั้งไอลอว์ ชี้ไทยเป็นประชาธิปไตยไม่ได้ หาก 'อานนท์ นำภา' ยังติดคุก
นายจอน อึ๊งภากรณ์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ประเทศไทยจะยังเป็นประชาธิปไตยไม่
ศาลรธน. มีมติเอกฉันท์ ไม่รับคำร้อง ปมจำกัดสิทธิสมัคร สว.
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัจฉัย กรณีที่ นายเสฐียร ศรีเมือง (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 ดังนี้ 1.การกระทำของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)